
รีวิวมาริโอ Party 7 เมื่อความไม่แฟร์ กลายเป็นหัวใจของเกม
- Good Day's
- 151 views
รีวิวมาริโอ Party 7 จากแฟรนไชส์มาริโอ ปี 2005 ว่าเกมภาคนี้สนุกหรือไม่ และพาทำความเข้าใจว่าซีรีส์เกมมาริโอ ภาคเจ็ด กำลังบอกอะไรเรา เกี่ยวกับระบบการเล่นเกมแบบปาร์ตี้ รวมถึงพาทำความเข้าใจว่าในโลก ที่ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ ภายในเกม อะไรคือสิ่งที่ทำให้เกมภาคนี้ น่าสนใจ
เกมมาริโอปาร์ตี้ 7 จากแฟรนไชส์ Mario ของบริษัทผู้พัฒนานินเท็นโด จะยังคงโครงสร้างของเกมแนวปาร์ตี้เอาไว้ อย่างการเปิดให้มินิเกม, การทอยลูกเต๋า เพื่อเสี่ยงดวง และบอร์ดเกมแบบตาราง แต่เกมมาริโอภาคนี้ จะมีการแทรกองค์ประกอบใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนโทนของเกม เพิ่มเข้าไป (24 กรกฎาคม 2025) [1]
อย่างเช่น ระบบ Bowser Time เป็นกลไกหลักที่ทำให้ผู้เล่น ต้องเผชิญความไม่แน่นอนทุก ๆ การเล่นเกม จำนวน 5 เทิร์น และความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ไม่ได้สร้างขึ้นมา เพื่อเรียกเสียงหัวเราะแบบเกมปาร์ตี้ ทั่วไป แต่เป็นระบบการเล่นที่ผู้ออกแบบเกม กำลังตั้งใจทดลองการเล่นอะไรบางอย่างอยู่
ระบบใหม่ อย่าง Bowser Time ที่มีให้เล่นในเกม Mario Party ภาคที่ 7 เกมภาคต่อของเกมปาร์ตี้ ภาค 6 ปี 2000 ในแฟรนไชส์ที่เปิดตัวให้เล่น เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปี 2005 ไม่ได้ถูกออกแบบมาแค่ให้ตื่นเต้น หรือเรียกเสียงหัวเราะ เวลาเพื่อนโดนริบดาว (25 กรกฎาคม 2025) [2]
แต่เป็นกลไกที่แทรกเข้ามา เพื่อให้รบกวนแผนของผู้เล่น ทุก ๆ 5 เทิร์น ตัวละครบาวเซอร์ หรือคุปปะ จะเข้ามาขัดจังหวะเกม ที่ผู้เล่นวางแผนไว้ดีแล้ว และทำลายเส้นทางสู่ชัยชนะของผู้เล่น รวมถึงบางครั้ง อาจทำให้ลดระดับรอบการแข่งขัน ให้เริ่มเล่นจากศูนย์ใหม่อีกครั้ง
หลังยุค Mario Party 7 กลไกแบบ BowserTime ค่อย ๆ หายไปจากเกมปาร์ตี้ ของบริษัทนินเท็นโด ไม่ว่าจะเป็นในเกม Mario Party ภาคต่อไป อย่างเกมภาคแปด ในบทความ รีวิวมาริโอ Party 8 หรือเกมภาค 9 ที่รวมระบบการเล่นเกมแบบคลาสสิก นำกลับมาพัฒนาใหม่
และเลือกที่จะตัด ระบบที่มีให้เล่นเกม ภาคที่ 7 ออก จังหวะของเกม จึงกลายเป็นเรื่องของการวางแผน แทนที่จะใช้ดวง เป็นหลัก จึงทำให้เกมปาร์ตี้ยุคหลัง เป็นเกมที่ผู้เล่นรู้สึกว่าตัวเอง สามารถควบคุมอะไรต่าง ๆ ได้มากขึ้น แต่ก็มีเสียงจากแฟนเกมรุ่นเก่า ๆ บอกว่า
บางที การตัดสิ่งนี้ออกไป มันก็ทำให้ความวุ่นวาย ของความสนุกในเกมต่าง ๆ ลดน้อยลง และความเปลี่ยนแปลงนี้ อาจให้เห็นถึงความตั้งใจสร้างเกม ในรูปแบบใหม่ที่ทางบริษัทนินเท็นโด ต้องการให้เป็น
ซีรีส์เกมมาริโอปาร์ตี้ ภาคที่เจ็ด เกมนี้ ดูเหมือนการทดลองระบบอะไรบางอย่าง มากกว่าการพัฒนาเกมภาคต่อ ของเกมที่เปิดตัวให้เล่นไป เมื่อปี 2004 แต่กระแสวิจารณ์ที่ได้รับ กลับทำให้เห็นว่าเกมนี้ อาจไม่ได้ยอดเยี่ยม เหมือนเกมในแฟรนไชส์ภาคอื่น ๆ แต่กลับกลายเป็นเกมที่จดจำของแฟนเกม
MarioParty 7 ไม่ใช่แค่เกมธรรมดา ๆ ภาคหนึ่งในซีรีส์เกมบอร์ดปาร์ตี้ แต่เป็นเกมที่ผู้พัฒนานินเท็นโด ต้องการทดลองระบบการเล่นแปลก ๆ บางอย่าง ที่อาจเป็นตัวจุดชนวนให้ผู้เล่น มีความรู้สึกร่วมกับเกม อย่างการทดลองพัฒนาระบบ Bowser Time (2025) [3]
โดยเป็นระบบที่จะเปลี่ยนเหตุการณ์ทุกอย่าง บนกระดานบอร์ดเกม และจะมีการเพิ่มโหมดผู้เล่น 8 คน หรือเพิ่มมินิเกมบางชนิด ที่ดูเหมือนยั่วยวนให้ผู้เล่นหัวร้อน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เข้าไป อาจไม่ใช่เพียงการเพิ่มสีสันให้กับการเล่นเกม แต่เป็นการทดสอบว่าเกมแนวปาร์ตี้
สามารถใช้ความโกลาหล เข้ามาแทนการเล่น แบบมีแผนกลยุทธ์ได้มากน้อยแค่ไหน และทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการทดลองระบบแปลกใหม่ ที่อาจไม่เห็นบ่อยนัก ในยุคปัจจุบัน นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ซีรีส์เกมมาริโอ ภาคเจ็ด ยังถูกพูดถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานหลาย 10 ปี
เมื่อดูรีวิวของเกมแนวปาร์ตี้ ในแฟรนไชส์มาริโอ ภาค 7 จากหลายเว็บไซต์ ในช่วงปี 2005 จะพบว่าคะแนนมักอยู่ราว ๆ 6 ถึง 8 / 10 คะแนน อย่างบนเว็บไซต์ IMDb ที่ตัวเกมมีคะแนนเปิดเผย จำนวน 7.5 / 10 Ratings ซึ่งถือว่าไม่ถึงขั้นแย่ ของการเปิดตัวเกมที่ผ่านมาทั้งหมด จากผู้ผลิต (1990-2025) [4]
โดยสาเหตุที่ทำให้ตัวเกมภาคนี้ ไม่มีคะแนนที่สูง อาจเป็นเพราะระบบบางอย่าง ยังดูไม่สมดุล หรือการเล่นมินิเกมบางส่วน ยังมีรูปแบบที่เล่นยาก รวมถึงการเพิ่มระบบ BowserTime เข้ามา อาจทำให้ผู้เล่นบางส่วน มีความรู้สึกว่าการเล่นรูปแบบนี้ ไม่แฟร์สำหรับผู้เล่น
แต่ทว่าเมื่อถามถึงความทรงจำของแฟนเกม ในอีก 10 ปีถัดมา เกมมาริโอปาร์ตี้ภาค 7 กลับเป็นเกม 1 ในภาคที่คนพูดถึงมากที่สุด เพราะมีระบบการเล่นเกมแบบปาร์ตี้ ที่ไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ภายในเกม
รีวิวมาริโอปาร์ตี้ 7 ซีรีส์เกมที่อาจไม่ใช่เกม ที่มีคะแนนเรตติ้งสูงสุด ของเกมแนวปาร์ตี้ จากแฟรนไชส์มาริโอ และอาจไม่ใช่ภาคที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่กลับเป็นเกม 1 ภาคที่แฟนเกมมาริโอถามหา ด้วยการมีระบบ BowserTime ระบบที่ผู้เล่นต้องการความปั่นป่วน ระหว่างการเล่นเกม เพียงเกมเดียวของซีรีส์
ถ้าคำว่าปาร์ตี้ หมายถึงการร่วมมือกับเพื่อนทำภารกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ในเกมภาคที่เจ็ด ก็เป็นเกมแนวปาร์ตี้ อีก 1 ประเภทที่แตกต่างออกไป ระบบที่แตกต่างออกไปนี้ คือระบบการเล่นปาร์ตี้ของผู้เล่น จะเปลี่ยนไป อย่างการพบเจอกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ร่วมกัน ภายใน และสิ่งนี้ คือเสน่ห์ของเกมภาคนี้
หากดูคะแนนรีวิว ของมาริโอปาร์ตี้ ภาค 7 จะเห็นคะแนนเปิดเผยในระดับกลาง ๆ และอาจเผลอคิดว่าเกม ๆ นี้ คือเกมธรรมดาทั่วไป ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว คะแนนเหล่านั้น เป็นคะแนนเกมที่ไม่เข้ากฎเกณฑ์ การให้คะแนนรูปแบบเดิม ๆ และนี่คือสิ่งที่คะแนนแบบตัวเลข ไม่อาจวัดความสนุกของเกมได้