
บัญชีม้า โดนแบนกี่ปี รู้ไว้ก่อนจะพลาดซ้ำ
- Pet Noi
- 85 views
บัญชีม้า โดนแบนกี่ปี คำถามนี้อาจดูไกลตัว แต่กลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของใครหลายคน การยินยอมให้ใช้บัญชี แม้เพียงครั้งเดียว อาจกลายเป็นชนวนที่ทำให้ชื่อเรา ถูก “ตีธง” ในระบบกลางของธนาคาร ก่อนตัดสินใจลองอ่านให้ชัดว่า การโดนแบนจากบัญชีม้า ไม่ใช่เรื่องจบง่าย ๆ ในปีเดียว
การโดนแบนเพราะบัญชีม้า เริ่มต้นจากพฤติกรรม ที่ถูกระบบธนาคารมองว่า “เสี่ยง” แม้ยังไม่มีคดี จึงทำให้ธนาคารพาณิชย์หลาย ๆ แห่ง เริ่มร่วมมือกับ ปปง. และ ธปท. ในช่วงกลางปี 2022 เพื่อพัฒนา AI วิเคราะห์ธุรกรรมผิดปกติ แบบเรียลไทม์
จากนั้นในปีต่อมา คนที่เคย โดนบัญชีม้า เปิดบัญชีใหม่ได้ไหม มีโอกาสถูกปฏิเสธเปิดบัญชีใหม่ เพิ่มขึ้นถึง 78% บางรายไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ชื่อถูกขึ้นบัญชีเฝ้าระวังแล้ว จากเบอร์หรือบัญชีเดิม การแบนจึงไม่ใช่แค่การตัดสิทธิ์ แต่คือสัญญาณว่า อดีตกำลังย้อนมาควบคุมอนาคต
หลายคนตกเป็นบัญชีม้า เพราะแค่ “ให้ยืมชื่อเปิดบัญชี” โดยไม่คิดว่าผิด แต่ผลที่ตามมาไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ โดยบัญชีม้าที่ว่านี้คือ บัญชีธนาคารต่าง ๆ ที่เจ้าของเป็นคนเปิดเอง แต่กลับให้คนอื่น ๆ ใช้บัญชีแทน เนื่องจากโดนกลโกงต่าง ๆ หลอกล่อ (สืบค้นเมื่อ 17 กันยายน 2025) [1]
สำนักงานตำรวจไซเบอร์ ได้เผยข้อมูลว่า กว่า 60% ของคนที่ถูกแบนบัญชี ในปี 2023 ไม่รู้ตัวว่าเคยเกี่ยวข้องกับคดีมาก่อน ความไว้ใจแบบไม่ตรวจสอบ กลายเป็นช่องให้มิจฉาชีพ ใช้บัญชีเราเป็นทางผ่าน ภายในเวลาไม่กี่วัน เงินผิดกฎหมายไหลผ่านชื่อเรา หลายร้อยรายการ
ก่อนจะถูกระบบธนาคารระงับ แบบอัตโนมัติ สุดท้ายจากแค่ “ให้ใช้ชื่อ” กลายเป็นการ “เสียชื่อ” ที่ฟื้นคืนยากในระบบการเงิน ระบบที่บุคคลต่าง ๆ สามารถใช้เงิน ไม่ว่าจะธนบัตร หรือเหรียญเพื่อซื้อสินค้า หรือเล่นเกมผ่านออนไลน์ (23 สิงหาคม 2024) [2]
ระบบไม่ได้ตรวจแค่ชื่อ แต่จับพฤติกรรมที่ “สอดคล้องกับบัญชีม้า” จากหลาย ๆ ปัจจัย อาทิเช่น ความถี่ในการโอนเงินเข้าออก ผิดรูปแบบ บัญชีที่มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ภายในระยะสั้น หรือเชื่อมโยงกับเบอร์โทร หรืออีเมลที่เคยอยู่ในคดี
จะถูกตั้งค่าสถานะเป็น “พฤติกรรมเสี่ยง” เมื่อข้อมูลถูกส่งต่อไปยัง ระบบกลางร่วมของธนาคาร การแบนสามารถเกิดขึ้น โดยไม่ต้องรอคำสั่งศาล AI วิเคราะห์พฤติกรรมได้เร็วขึ้นมาก นับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2566 หรือช่วงเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกันยายนในปี พ.ศ. 2566
โดยมีการแจ้งเตือนแบบ “ไร้สัมผัส” หรือการไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อโดยตรง การคิดว่า “ไม่มีใครรู้” จึงกลายเป็นจุดอ่อน ที่ระบบใช้เป็นจุดตั้งต้นในการเฝ้าระวัง โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ถ้าอยากจะป้องกันตัวเองจริง ๆ คืออย่าเปิดบัญชีให้ใคร ไม่ก็อย่ายกบัญชีให้คนอื่นใช้
ตามประกาศของสมาคมธนาคารไทย คนที่ถูกระบุว่าเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า อาจถูกแบนไม่ให้เปิดบัญชีใหม่ ได้นานถึง 5 – 10 ปี กรณีที่มีคำพิพากษา หรือหลักฐานชัดเจน โทษอาจขยายไปถึงการฟ้องร้อง ตามพ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี แม้ไม่มีคดี แต่หากถูกบันทึกในระบบกลาง
ว่าเคย “เกี่ยวข้อง” บัญชีธนาคารก็มีสิทธิ์ปฏิเสธบริการ โดยไม่ต้องแจ้งเหตุผล ชื่อของเราจะยังอยู่ในระบบ ตรวจสอบความเสี่ยงนานนับปี แม้บัญชีจะปิดไปแล้วก็ตาม คำว่า “โดนแบน” จึงไม่ใช่แค่การถูกตัดสิทธิ์ แต่คือการถูกตัดออกจากระบบ โดยไม่มีโอกาสอธิบาย
เมื่อชื่อเราอยู่ในบัญชี แม้ไม่รู้เห็นเงินผิดกฎหมาย ที่ไหลผ่านเข้ามา ก็นับว่า “ผ่านเรา” ในทางกฎหมายเช่นกัน ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 หรือเดือนตุลาคม, พฤศจิกายน และธันวาคม ในปี พ.ศ. 2566 มีคดีฟอกเงินที่ตรวจพบ การใช้บัญชีม้ากว่า 6,000 รายการ
โดยเจ้าของบัญชีเกินครึ่งอ้างว่าไม่รู้เรื่อง ในระบบปปง. ชื่อเจ้าของบัญชีจะถูกผูกเข้ากับ ธุรกรรมต้องสงสัยแบบอัตโนมัติ แม้ไม่มีหลักฐานเจตนา เฉลี่ยแล้ว บัญชีต้องสงสัย 1 บัญชี มักเกี่ยวข้องกับธุรกรรมมากกว่า 35 รายการ ภายในเวลาไม่ถึง 10 วัน
ความเงียบของเจ้าของ จึงไม่ใช่เครื่องยืนยันความบริสุทธิ์ แต่มักกลายเป็นช่องโหว่ ของการสอบสวน อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่คนที่โดนให้เปิดบัญชีม้า อาจโดนหลอกด้วยข้ออ้างต่าง ๆ อย่างการอ้างว่า ถ้าเปิดบัญชีให้ จะได้รับค่าตอบแทน เป็นต้น (24 มิถุนายน 2024) [3]
บัญชีที่ถูกแบนจากพฤติกรรมบัญชีม้า อาจถูกจำกัดสิทธิ์เปิดบัญชีใหม่ ได้นานถึง 5 – 10 ปี ตามแนวปฏิบัติธนาคารปี 2023 คนที่อยู่ใน “รายชื่อเฝ้าระวังร่วม” ยังอาจถูกปฏิเสธสินเชื่อ บัตรเครดิต หรือแม้แต่บัญชีออมทรัพย์
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีรายงานว่า คนที่เคยถูกธนาคารแบน ไม่ว่าจะธนาคารใด แล้วกลับมาเปิดบัญชีใหม่สำเร็จ มีไม่ถึง 18% หรืออาจจะน้อยกว่านั้น ดังนั้น การแบนจึงไม่ใช่แค่ชั่วคราว แต่คือการถูกปิดประตูทางการเงิน แบบยืดเยื้อ
บัญชีม้าไม่ได้แค่ทำให้ชื่อเราถูกจำกัด แต่ยังถูกปิดกั้นโอกาสทางการเงิน ในอนาคตอย่างเงียบ ๆ การแบนอาจไม่มีเสียงเตือน แต่ผลของมันส่งเสียงดัง ในวันที่เราต้องใช้สิทธิ์ คิดให้ดีก่อน “เสียชื่อ” เพราะบางครั้งมันย้อนกลับมาหาเรา ได้นานกว่าที่คิด
โดนแบนจากบัญชีธนาคาร ไม่ได้หมายถึงแค่การปิดบัญชี แต่คือการถูกกันออกจากระบบการเงิน โดยปริยาย ชื่อของเราจะยังถูกผูกไว้ กับเครือข่ายข้อมูลความเสี่ยง แม้ไม่ได้มีคดีติดตัวก็ตาม ผลลัพธ์คือการถูกมองว่า ไม่น่าเชื่อถือในโลกที่ทุกธุรกรรม ขึ้นอยู่กับความโปร่งใส
บางคนคิดว่าแค่ถูกแบนบัญชี คือเรื่องชั่วคราว แต่ในความเป็นจริง มันคือจุดตัดของความน่าเชื่อถือ การขาดสิทธิ์ทางการเงิน เพียงไม่กี่ปี อาจสะเทือนต่อทั้งเครดิต และความมั่นคงระยะยาว อย่ารอให้โอกาสหลุดลอย เพราะเรามองว่ามันเป็นแค่เรื่องของ “ชื่อบนบัญชี”