
โดนบัญชีม้า เปิดบัญชีใหม่ได้ไหม คำถามสำคัญที่ห้ามมองข้าม
- Pet Noi
- 112 views
โดนบัญชีม้า เปิดบัญชีใหม่ได้ไหม คำถามที่หลายคนมองข้าม ทั้งที่อาจเปลี่ยนเส้นทางชีวิต บัญชีที่ให้ใครยืมใช้ อาจย้อนกลับมาผูกโยงเรา กับคดีโดยไม่รู้ตัว ก่อนคิดจะเปิดใหม่ ลองทบทวนให้ครบ ว่าเราพร้อมรับผิดชอบ กับอดีตที่ผ่านมาแค่ไหน
“บัญชีม้า” คือบัญชีธนาคารใดธนาคารหนึ่ง ที่เจ้าของยอมให้คนอื่นใช้ โดยไม่ได้ควบคุมเอง แต่กลับถูกบุคคลอื่นใช้งานแทน โดยส่วนใหญ่มักถูกใช้เป็น “ตัวกลาง” ในการฟอกเงิน หรือรับเงินผิดกฎหมาย บ้างก็หลอกลวงด้วยข้ออ้างต่าง ๆ เป็นต้น (24 มิถุนายน 2024) [1]
อีกทั้งมีคดีเกี่ยวกับบัญชีม้า เพิ่มขึ้นกว่า 80% ในช่วงปี 2021 – 2023 เนื่องจากหลายคนไม่ทราบว่า บัญชีม้า คืออะไร โดยเฉพาะในกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากธปท. ระบุว่า ผู้เสียหายจากบัญชีม้า มีมูลค่าความเสียหายเฉลี่ยสูงถึง 240,000 บาทต่อราย
บัญชีม้าคือบัญชีธนาคารต่าง ๆ ที่เปิดด้วยชื่อของบุคคลจริง แต่กลับถูกควบคุม หรือใช้โดยคนอื่นที่อยู่เบื้องหลัง มักใช้ซ่อนตัวตนของมิจฉาชีพ ซึ่งอาจจะโดนกลโกงบางอย่างมา อาทิเช่น หลอกล่อด้วยค่าตอบแทน หรือหลอกว่าโอนเงินผิด เป็นต้น (สืบค้นเมื่อ 17 กันยายน 2025) [2]
ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2566 หรือช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายนในปี พ.ศ. 2566 มีรายงานว่า กว่า 67% ของคดีฉ้อโกงออนไลน์ มีบัญชีม้าเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยตรง คนที่เผลอยื่นบัญชีให้คนอื่นใช้ มักไม่รู้เลยว่า ตัวเองกำลังเข้าใกล้ “ความผิดอาญา” โดยไม่ตั้งใจ
หลายบัญชีถูกใช้เพียงไม่กี่วัน ก่อนจะถูกปิดทิ้ง ทิ้งไว้แค่ “รอยเท้า” ที่ย้อนกลับมาหาเจ้าของบัญชีตัวจริง อย่ามองบัญชีตัวเอง เป็นแค่ข้อมูลทางการเงิน เพราะมันอาจกลายเป็น “เครื่องมือทางอาญา” ได้ในพริบตา ดังนั้น ควรรู้ทันภัยพวกนี้เอาไว้ เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
หลายคนยอมให้คนอื่นใช้บัญชีตัวเอง เพราะเข้าใจว่า เป็นแค่การช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเห็นว่าไม่เสียหายอะไร บางกรณีมาพร้อมข้อเสนอที่น่าดึงดูด อาทิเช่น ค่าตอบแทนจูงใจ หรือคำพูดที่ฟังดู “ไม่เป็นทางการ แต่ไว้ใจได้” ในกลุ่มนักศึกษา และคนวัยเริ่มทำงาน มีรายงานว่า 1 ใน 4
ไม่รู้ว่า การให้ยืมบัญชีอาจเข้าข่ายฟอกเงิน พฤติกรรมแบบนี้มักเกิดจากการไม่เข้าใจ “บริบททางกฎหมาย” มากกว่าจะตั้งใจทำผิด แค่การส่งบัตร ATM ให้คนอื่นใช้ ก็อาจนำไปสู่คดีอาญาได้ จุดเริ่มต้นที่ดูเหมือนไม่มีอะไร อาจกลายเป็น “เงื่อนไขแฝง” ที่ดึงคนธรรมดา ๆ เข้าสู่วงจรผิดกฎหมาย โดยไม่รู้ตัว
หลายธนาคารในประเทศไทย เริ่มใช้ระบบ AI ในปี 2024 เพื่อตรวจสอบพฤติกรรม ก่อนอนุมัติเปิดบัญชีใหม่ โดยอิงจาก Blacklist กลางร่วมกับปปง. ล่าสุดมีรายงานว่า คนที่เคยถูกแจ้งความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า มีโอกาสถูกปฏิเสธ การเปิดบัญชีใหม่สูงถึง 82%
แม้ไม่มีหมายจับ และมีธนาคารแห่งหนึ่ง ได้ออกมารายงานในช่วงต้นปี 2025 ว่า ระบบแจ้งเตือนพฤติกรรมซ้ำซ้อนจากเบอร์มือถือ และอีเมลถูกใช้งานจริงแล้ว การ “เริ่มต้นใหม่” อาจไม่ง่าย ถ้าอดีตเราถูกบันทึกเป็นจุดเสี่ยงในระบบ ที่ไม่มีวันลืม
บัญชีม้าไม่ใช่แค่เครื่องมือรับเงิน แต่คือ “สะพานข้อมูลทางการเงิน” ที่เชื่อมมิจฉาชีพกับเหยื่อ อย่างแนบเนียน โดยข้อมูลทางการเงินที่ว่านี้ เป็นข้อมูลที่นักลงทุน ใช้ในการพิจารณาขั้นพื้นฐาน เกี่ยวกับการเงินของตัวเอง (2025) [3]
ธุรกรรมที่เกิดขึ้นในบัญชีเหล่านี้ มักเคลื่อนตัวเร็วในเวลาไม่กี่นาที ก่อนจะกระจายออกเป็นชั้น ๆ ผ่านบัญชีอื่น การตามรอยเงินที่ผ่านบัญชีม้า จึงยากพอ ๆ กับการไล่จับเงาในที่มืด ทุกครั้งที่บัญชีถูกใช้ แม้เจ้าของบัญชีจะไม่เกี่ยวข้อง โดยตรงก็ตาม
แต่ถ้าพูดในทางกฎหมายแล้ว “ความเชื่อมโยง” ยังคงอยู่ สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่แค่คดี แต่คือการถูกผูกชื่อ ไว้กับวงจรอาชญากรรม ที่ไม่มีวันรู้ปลายทาง การเป็นสะพานเชื่อมเงิน โดยไม่รู้ตัว อาจกลายเป็นจุดเชื่อม ที่ตัดไม่ขาดไปตลอดชีวิต
ทุกยอดเงินที่ถูกดูดจากเหยื่อ ปลายทางมักสิ้นสุดในบัญชี ที่เจ้าของไม่ทันได้สงสัยว่า “กำลังเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรม” แม้ไม่มีเจตนา แต่เมื่อชื่อเราอยู่บนสมุดบัญชี เงินผิดกฎหมายก็มีที่มา “ผ่านตัวเรา” ไปแล้ว พ.ร.บ.ฟอกเงินระบุชัดว่า การยินยอมให้ใช้บัญชี
โดยไม่รู้วัตถุประสงค์ ถือว่าประมาทจนมีผลทางกฎหมาย จึงส่งผลให้มีคนถูกดำเนินคดี ฐานเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า เพิ่มขึ้นกว่า 3.2 เท่า ในช่วงปี 2023 โดยเกือบครึ่งเป็นคนที่อ้างว่าไม่รู้เรื่อง หลายคนต้องใช้เวลานับปี ในการพิสูจน์ตัวเอง ทั้งในชั้นสอบสวนและศาล
สุดท้ายแล้ว จากคนธรรมดา ๆ ที่แค่เปิดบัญชีให้เพื่อน ไม่ก็ให้เพื่อนใช้บัญชีแทน กลายเป็น “ผู้ต้องหา” ที่ถูกจำกัดสิทธิ์ทางการเงิน ไปอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้น การรู้เท่าทันกลโกงต่าง ๆ เหล่านี้ อาจจะช่วยให้รู้จักป้องกันตัวเอง และไม่เสียเหลี่ยมให้ใครง่าย ๆ
โดนบัญชีม้า อาจยังเปิดบัญชีใหม่ได้ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีจะราบรื่นเหมือนเดิม สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่แค่เอกสาร แต่คือประวัติพฤติกรรม ที่ระบบธนาคารเริ่มจับตามากขึ้น ก่อนจะเริ่มใหม่ต้องแน่ใจว่า เราเข้าใจผลสะท้อนของอดีต และพร้อมรับผิดชอบในทุกก้าว ต่อไปไหม
การเปิดบัญชีใหม่ อาจไม่ยากเท่าการกู้คืนความเชื่อมั่น ในระบบที่ไม่ลืมอดีต ชื่อเราบนสมุดบัญชีอาจสะอาด แต่ชื่อเดียวกันในระบบกลาง อาจยังอยู่ในโซนสีเทา จนอาจเกิดข้อสงสัยว่า บัญชีม้า โดนแบนกี่ปี ซึ่งการเดินต่อจริง ๆ เริ่มจากความโปร่งใส ไม่ใช่แค่มีบัญชีให้ใช้
การเปิดบัญชีใหม่ ไม่ธนาคารใดธนาคารหนึ่ง อาจง่ายกว่าการเปิดใจยอมรับ สิ่งที่เคยเกิดขึ้น เพราะระบบอาจลืมชื่อเราได้ แต่สังคมอาจยังตั้งคำถาม เริ่มใหม่จริง ๆ ไม่ได้อยู่ที่ธนาคาร แต่อยู่ที่เรากล้าเปลี่ยนแปลงตัวเองแค่ไหน