
แนะนำมาริโอ ปะทะดองกี้ ซีรีส์เกมพัซเซิล แนวแก้ไขปริศนา
- Good Day's
- 82 views
แนะนำมาริโอ ปะทะดองกี้ ซีรีส์เกมแนวปริศนาพัซเซิล 3 เกมของนินเท็นโด เกมในซีรีส์ Mario vs DonkeyKong นี้ ถือเป็น 1 ในซีรีส์เกมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะไม่ได้เน้นการผจญภัย เหมือนเกมภาคมาริโอหลัก แต่เลือกเล่าเรื่องเล็ก ๆ ด้วยกลุ่มตัวละครมินิมาริโอ กับดองกี้คองแทน
สิ่งที่ควรเข้าใจ ก่อนจะไปพบกับเกมแนะนำ ในแฟรนไชส์มาริโอ คือการทำความเข้าใจว่าเกมซีรีส์นี้ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อแข่งกับเกมมาริโอภาคหลัก โดยตรง แต่เป็นการสร้างขึ้นมา เพื่อให้เป็นเกมทดลองระบบการเล่นใหม่ ๆ ที่ทางบริษัทนินเท็นโด ต้องการนำเสนอออกมา (25 สิงหาคม 2025) [1]
อย่างการนำเสนอเรื่องราวความวุ่นวายของความขัดแย้ง ระหว่างมาริโอกับดองกี้คอง นำมาบีบเรื่องราวให้กระชับ และเพิ่มเข้าไปในเกมรูปแบบปริศนา ที่ใช้ระยะเวลาเล่นสั้น ๆ
เกมมาริโอปะทะดองกี้คอง ที่จะยกมานำเสนอจำนวน 3 เกม คือเกม MariovsDonkey Kong ปี 2004, เกม MariovsDonkeyKong ภาคที่ 2 ปี 2006 และเกม MiniMario & Friends Amiibo Challenge ที่เปิดตัวให้เล่นวันที่ 28 มกราคม ปี 2016 เปิดฉากด้วยความขัดแย้งต่าง ๆ ของมาริโอกับดองกี้คอง
ที่อาจเป็นความขัดแย้งที่ดูเล็กน้อย แต่ความขัดแย้งนี้ กลับบานปลายกลายเป็นศึกใหญ่ คือการที่กลุ่มของมินิมาริโอ ถูกดองกี้ลักพาไป เนื้อเรื่องในเกมมาริโอ ภาคแรก ที่เปิดเล่น วันที่ 24 พฤษภาคม ปี 2004 บน GameBoy Advance วางโครงเรื่องให้ดองกี้คอง ไม่ใช่วายร้ายที่จ้องจะทำร้าย Mario เหมือนเดิม
แต่เป็นคนที่อยากได้ของสะสม เหมือนเด็กที่ไม่สมหวัง ดองกี้คองจึงต้องการขโมยมินิมาริโอ ทั้ง 6 ตัวในแต่ละด่านเอามาเป็นของสะสมของตัวเอง จนกลายเป็นชนวนที่บังคับให้มาริโอ ต้องลงสนามไล่ล่า และแก้ปริศนาเพื่อนำของเล่น กลับคืนมาให้ได้ จนทำให้การเล่าเรื่องนี้ มีความโดดเด่น จนถึงเกมปี 2016
ซีรีส์เกมมาริโอปะทะดองกี้คองทั้ง 3 เกมนี้ หรือทั้งหมดในซีรีส์ ไม่ได้เป็นเกมที่ยาก เพราะศัตรูมีความดุดัน หรือมีความแข็งแกร่ง แต่ที่จะเล่นยาก ก็อาจเป็นเพราะการต้องคิดวางแผนล่วงหน้า อย่างเกมภาคแรก ในบทความ รีวิวเกมมาริโอปะทะดองกี้ ปี 2004 ที่เขียนไปก่อนหน้านี้
ที่ผู้เล่นต้องบังคับมาริโอให้กระโดด, พลิกตัว และเก็บกุญแจ เพื่อนำไปสู่ประตูปลายทาง โดยแต่ละด่านจะมี MiniMario หรือของเล่นที่ผู้เล่น ต้องช่วยเหลือ ซึ่งการเคลื่อนไหว ต้องใช้การคิดแบบเป็นขั้นตอน เช่นการใช้ตู้, ลิฟต์ หรือหมุนบล็อกต่าง ๆ เพื่อเปิดเส้นทางใหม่ (3 สิงหาคม 2025) [2]
โดยทุกการเคลื่อนไหว ถูกกำหนดเวลาไว้ให้ตัดสินใจ ในไม่กี่วินาที เมื่อเข้าสู่ภาคถัดไป อย่าเกมภาค 2 ที่เปิดให้เล่นเมื่อวันที่ 25 กันยายน ปี 2006 บนเครื่องเล่น Nintendo DS เกมเปลี่ยนแนวทางการเล่น มาเป็นการควบคุม MiniMario แทน เป็นรูปแบบการเล่นที่มีให้เล่น จนถึงเกมปี 2016
ซีรีส์เกมมาริโอปะทะดองกี้คอง มีให้เล่นทั้งหมด 7 ภาค ที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ขยายจักรวาลเกม ของแฟรนไชส์มาริโอ จากบริษัทผู้ผลิตนินเท็นโด โดยไม่ใช่เพียงแค่การเติมเกมใหม่ให้กับตลาดเกม ในยุคนั้น แต่เป็นการทดลองนำกลไกเกมปริศนา และแนวคิดสร้างสรรค์ นำมาผสานกับตัวละครที่คุ้นเคย
ซีรีส์นี้ จึงทำหน้าที่เหมือนเวทีเล็กที่นินเท็นโด ใช้ทดสอบแนวทางการเล่นใหม่ ๆ ที่มีการเล่าเรื่องที่เรียบง่าย และการออกแบบด่าน ที่มีความซับซ้อนขึ้นทีละขั้น หากผู้เล่นชนะด่านก่อนหน้าสำเร็จ
ซีรีส์เกมมาริโอ ปะทะ ดองกี้คอง เริ่มต้นครั้งแรก บน Game Boy Advance ที่ใช้เล่นเกม ภาคแรก โดยเป็นเหมือนทายาททางตรงของซีรีส์เกมดองกี้คอง ที่พัฒนาออกมา ตั้งแต่ปี 1994 จุดเริ่มนี้ ทำให้ผู้เล่นได้เห็นการผสมผสานระหว่างแพลตฟอร์ม แบบคลาสสิก กับการแก้ปริศนาโดยการใช้ความคิด
แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ซีรีส์นี้ ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคเครื่องเล่นเกม Nintendo DS เกมภาคที่ 2 ก็ได้มีการเปลี่ยนระบบการเล่น การควบคุมกลุ่มมินิมาริโอ แบบจริงจัง ซึ่งถือเป็นการพลิกแนวคิด จากเกมบังคับตัวละคร ไปเป็นเกมออกแบบทางเดิน ให้กับตัวละครแทน
นอกจากนี้ การขยายไปสู่ฟีเจอร์ชุมชน เช่นการสร้างด่าน, การแชร์ด่านออนไลน์ และการใช้ Amiibo เพื่อปลดล็อกกลุ่มมินิมาริโอ ที่มีความสามารถเฉพาะตัว ในเกมจากบทความ รีวิวเกม MariovsDonkey 2016 ก็ยิ่งตอกย้ำความหลากหลาย ของการเล่นเกมซีรีส์นี้ (17 สิงหาคม 2025) [3]
ซีรีส์เกมมาริโอปะทะดองกี้คอง ได้รับคำชมเรื่องการออกแบบที่เฉียบคม และการนำ Pauline ที่นำเอาตัวละครเสริมกลับมามีบทบาท ในเกม และยังได้รับการยกย่อง ว่าเป็นการยกระดับแนวคิด ของการเล่นเกมพัซเซิล บนแพลตฟอร์มให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผู้เล่นบางส่วนมองว่าซีรีส์นี้
เป็นเกมเฉพาะกลุ่มเกินไป เพราะความยากที่สะสมฟิกเกอร์ ที่ต้องใช้เล่นเกม ภาค MiniMario Friends AmiiboChallenge อาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดมากกว่าสนุก และสิ่งที่น่าสนใจต่อมา คือผู้เล่นจำนวนหนึ่งประมาณ 40% ไม่ได้คาดหวังให้เกมนี้ขายดี หรือกลายเป็นเกมกระแสหลัก
แต่กลับชื่นชมในความเป็นเกมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ในการออกแบบรูปแบบการเล่น และการเล่าเรื่อง โดยความคิดเห็นหลายส่วน บอกตรงกันว่าเกมซีรีส์นี้ ไม่ใช่เกมที่ทุกคน จะตกหลุมรักทันที แต่หากลองให้เวลากับเกมปริศนา จะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป จากเกมมาริโอภาคอื่น ๆ
แนะนำเกม มาริโอปะทะดองกี้ ซีรีส์เกมแนวปริศนาพัซเซิล ที่ไม่ใช่เกมที่ถูกสร้างมาเพื่อทุกคน แต่เป็นซีรีส์เกมที่สร้างเสน่ห์ผ่านความพอดี ระหว่างความเรียบง่ายของเนื้อเรื่อง กับความซับซ้อนของเกมปริศนา จุดเด่นอยู่ที่การผลักดันให้ผู้เล่น ใช้ความคิดมากกว่าการใช้นิ้วกดเล่นเกม แบบธรรมดา ๆ ทั่วไป
จุดแข็งของเกมซีรีส์นี้ คือการออกแบบเลเวลที่กะทัดรัด แต่ยังคงมีความท้าทาย ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังไขปริศนาเล็ก ๆ ที่ต้องใช้ทั้งสมอง และใช้เวลาในการแก้ไขปริศนาเหล่านี้ อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีความหลากหลายของโหมดเกม ที่มีการปรับเปลี่ยนการเล่นต่าง ๆ ในแต่ละภาค
ซีรีส์นี้เหมาะกับผู้เล่น ที่กำลังมองหาเกมปริศนาในขนาดพกพา เล่นได้สนุก ในระยะเวลาที่สั้น ๆ แต่ยังเต็มไปด้วยความท้าทาย และเหมาะสำหรับผู้เล่น ที่ชอบใช้เวลาไปกับการคิดแก้โจทย์ต่าง ๆ มากกว่าการวิ่งผจญภัยยาว ๆ เหมือนในเกมแฟรนไชส์มาริโอ ภาคหลัก