ถามให้แน่ เลี้ยงสวีเดนแลปฮุนด์ ง่ายไหม ถ้าไม่ได้อยู่บนหิมะ
- Pet Noi
- 49 views
เลี้ยงสวีเดนแลปฮุนด์ ง่ายไหม เมื่อหมาพันธุ์ที่เกิดมาในท่ามกลางหิมะ ต้องย้ายมาอยู่ในบ้านที่แดดแรง ฝุ่นเยอะ และจังหวะชีวิตไม่เหมือนเดิม คำถามไม่ใช่แค่ว่า พวกมันอยู่ได้ไหม แต่ทาสหมาพร้อมไหม ที่จะปรับชีวิตให้คล้ายบ้านเดิมของน้อง
“สวีเดนแลปฮุนด์” เป็นหมาพื้นเมืองที่ถูกใช้ต้อนกวาง ในแถบสแกนดิเนเวีย มาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 ขนสองชั้นหนาแน่นของมัน ถูกออกแบบมาเพื่อทนอุณหภูมิติดลบ 20 องศา ได้แบบไม่สะทกสะท้าน
แต่เมื่อเข้าปี 2020 เป็นต้นมา อัตราเลี้ยงสวีเดนแลปฮุนด์นอกยุโรป เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 11.4% ต่อปี คำถามคือ เมื่อหมาที่เติบโตมากับลมหนาว ต้องมาอยู่ในบ้านเรา ลมหายใจของพวกมัน จะเปลี่ยนไปแค่ไหน
“สวีเดนแลปฮุนด์” ถูกหล่อหลอมจากลมหนาว และแสงจาง ๆ ของขั้วโลกเหนือ เป็นสุนัขขนาดกลาง จากประเทศสวีเดน พวกมันมีวลีประจำตัวว่า “ความงามสีดำแห่งนอร์แลนด์” ด้วยขนสองชั้นไม่ได้แค่กันหนาว แต่ยังทำหน้าที่เป็นฉนวน ที่อ่านอุณหภูมิไม่เป็น เมื่อเจอแดดเมืองไทย (27 กันยายน 2025) [1]
แม้จะมีความยืดหยุ่นในธรรมชาติ แต่แดดร้อนจัดของไทยเรา อาจทำให้ระบบหายใจ ต้องทำงานหนักขึ้น จากหมาที่เคยวิ่งบนหิมะ อาจต้องเรียนรู้ใหม่ว่า “พื้นกระเบื้องร้อน ๆ” ไม่ได้ชวนให้ออกล่า การเปลี่ยนจากหิมะสู่แดด ไม่ใช่แค่เปลี่ยนพื้นผิว แต่มันคือการเปลี่ยนทั้งจังหวะของชีวิต
เมื่อหมาที่เคยวิ่งลุยหิมะ กลับนิ่งเงียบอยู่มุมห้อง ในวันที่อุณหภูมิเกิน 35 องศา ทาสหมาหลายคนเข้าใจว่า นี่คือนิสัยแท้จริงของน้อง ทั้งที่จริงอาจเป็นเพียง “ภาวะสงบนิ่งจากภายนอก” สวีเดนแลปฮุนด์เป็นสายพันธุ์ ที่สื่อสารผ่านสายตา ไม่ใช่เสียง จึงอาจถูกตีความว่าเงียบ
แต่เงียบเพราะนิสัย กับเงียบเพราะร่างกายปรับตัวไม่ได้ นี่ถือว่าต่างกันโดยสิ้นเชิง เคยมีเคสในแถบเอเชีย ที่รายงานว่า 1 ใน 3 ของหมาพันธุ์นี้ แสดงอาการอ่อนแรงในช่วงหน้าร้อน บางตัวลดกิจกรรมลงเกิน 40% โดยไม่มีพฤติกรรมดื้อ เสียงเห่าที่น้อยลง อาจไม่ใช่ความเรียบร้อย
แต่อาจคือการพักร่างเพราะความร้อน คำถามคือ เราดูออกไหมว่าน้องเงียบเพราะนิ่ง หรือเพราะเหนื่อยเกินจะพูดกันแน่ อย่างไรก็ตาม สุนัขสายพันธุ์นี้เคยใกล้สูญพันธุ์ ในกลางศตวรรษที่ 20 แต่ผู้เพาะพันธุ์กลับฟื้นฟูพวกมันกลับมาได้ ปัจจุบันจึงกลายเป็น “สุนัขหายาก” ในทันที (2025) [2]
บ้านของ Swedish Lapphund ไม่ใช่แค่หลังคาในแถบหนาว แต่มันคือวิถีชีวิตที่มีลมเย็น ความเงียบ และพื้นที่ให้มัน รวมถึง สมูทคอลลี่ vs รัฟคอลลี่ ได้ทำหน้าที่ต่าง ๆ พอมาอยู่ในเมืองไทย ที่มีรถแล่นไม่หยุด เสียงไม่หาย และอากาศไม่เย็นเลย แม้แต่คืนเดียว
คำถามจึงไม่ใช่ว่า สุนัขสายพันธุ์นี้ รวมถึงการ เลี้ยงฟินนิช ฮาวนด์ เลี้ยงง่ายไหม แต่คือทาสหมายอมเปลี่ยนอะไรได้บ้าง เพื่อให้พวกมันอยู่ไหว อยู่ได้นานในประเทศไทย เพราะบ้านที่ดีสำหรับหมา หรือสำหรับ บาสเซ็ต อาร์เตเซียง นอร์ม็อง อาจไม่ใช่แค่บ้านที่เราสบายใจจะอยู่
Swedish Lapphund อาจดูนิ่งในสายตาคนไม่รู้จัก แต่ในสายเลือดแท้จริง น้องคือหมาที่ขยับเมื่อมีเป้าหมาย พวกมันไม่ได้เรียกร้องเสียงดัง แต่มีพลังแฝงที่ต้องถูกปลดปล่อย ออกมาอย่างมีทิศ มีทาง ถ้าไม่เข้าใจจังหวะนี้ พฤติกรรมจะค่อย ๆ บิดเบี้ยว กลายเป็นความเครียด บางตัวอาจกลายเป็นหมาเฉื่อย
แต่จริง ๆ แล้วคือหมดแรง ไม่ต้องพาออกล่าเหมือนเดิม แค่มีเวลาร่วมมือกันในบ้าน อย่างสม่ำเสมอ เพราะหมาพลังสูง ไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่ต้องการคนที่ “มองพลังออก” เท่านั้นเอง ปัจจุบันจึงได้รับความนิยม โดยเฉพาะในประเทศต้นทาง และถูกยกระดับให้เป็น “สุนัขเพื่อนเล่น” ทันที (2025) [3]
ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา มีสวีเดนแลปฮุนด์ที่ขึ้นทะเบียนทั่วโลก ประมาณ 1,200 ตัว และกระจุกตัวในสแกนดิเนเวียกว่า 80% นี่ไม่ใช่หมาที่กระโดดเข้าบ้านใครก็ได้ น้องเติบโตมาพร้อมความเงียบ อุณหภูมิติดลบ และจังหวะชีวิตที่ค่อยเป็นค่อยไป หลาย ๆ บ้านในเอเชียเข้าใจว่า พวกมันเลี้ยงยาก
เพราะไม่วิ่ง ไม่เล่น ไม่อ้อนเหมือนหมาพันธุ์นิยมอื่น ๆ แต่จริง ๆ แล้ว นี่อาจเป็นหมาที่ต้องการพื้นที่บางอย่าง ที่เรายังไม่เคยสร้างให้ พื้นที่ที่ไม่ใช่แค่ลานวิ่ง ในพื้นที่ต้นทาง หมาพันธุ์นี้จะถูกให้ทำภารกิจ อาทิเช่น เฝ้าสังเกต หรือเตือนภัยในหมู่บ้านหิมะ พอไม่มีอะไรให้ทำ น้องจึงปิดเสียงตัวเอง
และหายไปในมุมเงียบของบ้าน ความยากจึงไม่ใช่ที่ตัวหมา แต่คือเราไม่เคยมองเห็น “ช่องว่างธรรมชาติ” ที่มันเคยมี บางทีคำว่าเลี้ยงยาก อาจเป็นแค่ความไม่เข้าใจ และสิ่งที่น้องต้องการที่สุด อาจไม่ใช่ของเล่นใหม่ หรือขนมกินเล่นทั่ว ๆ ไป แต่อาจเป็น “พื้นที่ที่พวกมันได้เป็นตัวเอง”
Swedish Lapphund อาจไม่ได้ต้องการพื้นที่ใหญ่ แต่ต้องการพื้นที่ที่ฟังน้องออก เพราะการเลี้ยงง่ายหรือยาก ไม่ได้วัดจากนิสัยของหมา แต่จากความพร้อมของคนฟัง หรือเจ้าของหมา สวีเดนแลปฮุนด์ไม่ได้เรียกร้องอะไร นอกจาก “พื้นที่ที่น้องไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร”
การอยู่ในไทยที่อากาศชื้น ร้อน และไม่มีหิมะ อาจทำให้ธรรมชาติของ Swedish Lapphund ต้องเบรกตัวเอง บางครั้งพวกมันดูเรียบร้อย เพราะไม่เหลือที่ให้วิ่ง ไม่เหลืออากาศให้สูดอย่างสบายใจ พื้นที่กับอากาศไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้ามันคือพื้นฐาน ที่ทำให้น้องรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง
บางทีเราอาจไม่ได้อยากได้หมา ที่เลี้ยงง่ายเท่านั้น แต่อยากได้หมา ที่ไม่ทำให้เราเหนื่อย แต่ในความจริง ทุกความสัมพันธ์ต้องการความพยายาม จากทั้งสองฝั่ง ทั้งเจ้าของกับสุนัข เพราะความเข้าใจ ไม่ได้เกิดจากนิสัยของหมา แต่มักเริ่มจากใจของคน
