
เทคนิค การพายเรือแคนู ประวัติ ประเภทเรือ ประโยชน์
- sunflower
- 145 views
เทคนิค การพายเรือแคนู กิจกรรม กีฬาทางน้ำอีกประเภทหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมและชื่นชอบ จากกลุ่มนักผจญภัยกลางสายน้ำ หรือผู้ที่ต้องการพายเรือเพื่อเยี่ยมชมธรรมชาติ ผ่อนคลายจิตใจ เป็นกีฬาที่มีความเป็นมายาวนาน ที่พัฒนามาจากการพายเรือในชีวิตประจำวันของชาวบ้านโบราณแต่ก่อน
เรือแคนูเป็นพาหนะของคนโบราณ ที่มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการเดินทาง การล่าสัตว์ การค้าขาย และการสงคราม โดยชาวอินเดียแดง โดยลักษณะของเรือแคนู จะมีความแตกต่างกันไป ตามสภาพแวดล้อมที่อยู่
เรือแคนูของชาวเมารี ประเทศนิวซีแลนด์ ใช้ฝีพายถึง 80 คน เนื่องจากมีความยาวถึง 35 เมตร เรือแคนูของชาวอินเดียนแดง มักนิยมสร้างขึ้นจากหนังกวาง และเปลือกไม้เอิร์ซ ส่วนเรือแคนูของชาวอียิปต์ ทำมาจากเปลือกไม้พาพัยรัส
ต่อมาเรือแคนูเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น จากนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบการผจญภัยกลางน้ำ จึงทำให้ได้มีการจัดตั้ง สหพันธ์เรือแคนูนานาชาติ (I.C.F) ขึ้นในปี ค.ศ.1700 หลังจากนั้นเมื่อปี ค.ศ.1928 ได้มีการผลักดัน กีฬาเรือแคนู ให้เป็นกีฬาสาธิตในโอลิมปิกเกม
ที่มา: ประวัติเรือ แคนู-คยัค Canoe-Kakay สากล [1]
ปัจจุบันการแข่งขันกีฬาเรือแคนู ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ สปรินต์ กับ สลาลอม
การแข่งขันประเภทสปรินต์
เป็นกีฬาสาธิตในโอลิมปิก เมื่อปี 1924 ที่กรุงปารีส จนกระทั่ง การแข่งขันโอลิมปิก ที่กรุงเบอร์ลินในปี 1936 ได้มีการนำกีฬาเรือแคนู เข้าบรรจุให้มีการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดให้มีการแข่งขันทั้งหมด 9 รายการ โดยมีระยะการพายที่ไกลที่สุด อยู่ที่ 10,000 เมตร ซึ่งในปัจจุบัน ได้ลดลงให้เหลือระยะไกลสุดอยู่ที่ 1,000 เมตร
โดยในปี 1948 ได้มีการแข่งขันพายเรือแคนู ประเภทหญิงขึ้นเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังเป็นการครบรอบ 20 ปี ของกีฬาพายเรือแคนูในโอลิมปิก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ได้มีการเพิ่ม-ลด ประเภทการแข่งขันอยู่ตลอด ส่วนการแข่งพายเรือแคนู ประเภทชาย ได้มีการตัดทอนให้เหลือการแข่งขัน ทำให้การแข่งเรือแคนูชาย 1 ฝีพาย ในระยะ 200 เมตร ถูกนำออกจากโปรแกรมแข่งขัน เพื่อให้เกิดความเสมอภาคทางเพศ
การแข่งขันประเภทสลาลอม
ถูกจัดให้มีการแข่งขันในโอลิมปิกขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี 1972 ที่นครมิวนิค ประเทศเยอรมนี ก่อนที่การแข่งขันพายเรือแคนู จะถูกเลือนหายไปนานกว่า 20 ปี เนื่องจากอุปสรรคเกี่ยวกับสนามแข่งขัน จนกระทั่งในปี 1992 การแข่งขันพายเรือแคนู ได้กลับมาเป็นที่นิยม และได้รับการบรรจุลงแข่งอีกครั้ง ที่นครบาร์เซโลน่า ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน
ที่มา: ทำความรู้จักกีฬาเรือแคนูในโอลิมปิก [2]
การแข่งขันพายเรือทั้ง 2 ประเภทนี้ อยู่ในความรับผิดชอบของ สหพันธ์เรือแคนูนานาชาติ (ICF) ที่รับผิดชอบการพายเรือแคนู ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
การแข่งขันเรือแคนูสปรินท์
เป็นการแข่งขันที่ใช้หลัก “ความเร็วบนเส้นทาง” โดยจะต้องพายอยู่บนผิวน้ำที่สงบ
การแข่งขันเรือแคนูสลาลอม
เป็นการแข่งขันที่ผู้แข่ง จะต้องพายเรือบนน้ำที่เชี่ยวกราก โดยเส้นทางน้ำที่ใช้พาย มักมีความลาดชัน ซึ่งผู้แข่งจะต้องพยายามแล่นเรือ ให้ได้ภายในรอบเดียว เพื่อแข่งขันกับเวลา
ที่มา: International Canoe Federation [3]
หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีในการ พายเรือแคนู ให้ถูกวิธีไม่จมน้ำ ได้ที่ kayak-thailand
การพายเรือแคนูเป็นการทำกิจกรรมที่มีแรงกระแทกต่ำ โดยการพายเรือเป็นประจำ จะช่วยในการปรับปรุงสมรรถภาพ ความแข็งแรง และความยืดหยุ่นของร่างกาย โดยมีประโยชน์หลัก ๆ ดังต่อไปนี้
หากมองดูจากแค่ภายนอก บางคนอาจจะสับสนระหว่าง “เรือแคนู” และ “เรือคายัค” เนื่องจากมีการใช้ชื่อเรียกแทนกันได้ แต่ทั้งนี้ เรือทั้ง 2 ประเภท กลับมีความแตกต่างพื้นฐาน อยู่บางประการ ได้แก่
เรือแคนู: เป็นเรือเปิด โดยผู้พายจะต้องนั่ง หรือคุกเข่าอยู่ภายในเรือแคนู จากนั้นใช้ไม้พายใบเดียว ในการขับเคลื่อนเรือไปตามกระแสน้ำ
เรือคายัค: เป็นเรือในลักษณะปิด ผู้พายจะนั่งบนเรือ ในลักษณะที่เหยียดขาติดกับพื้น โดยไม้พายที่ใช้ จะเป็นไม้พายใบคู่ ที่ใช้ในการขับเคลื่อนเรือ
ข้อยกเว้น
เรือแคนูบางลำ อาจออกแบบมาให้มีลักษณะปิด และเรือคายัคบางลำ อาจมีการออกแบบให้มีลักษณะเปิด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ตามลักษณะที่แตกต่างกันออกไป
กล่าวโดยสรุป เทคนิค การพายเรือแคนู เป็นบทความที่ได้รวบรวม ความรู้พื้นฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการพายเรือแคนู ไม่ว่าจะเป็นประวัติจุดเริ่มต้น เทคนิคการพายเรือ ประโยชน์ของกีฬาชนิดนี้ อีกทั้งยังไม่เปรียบเทียบระหว่าง เรือแคนูกับเรือคายัค เพื่อให้ผู้อ่านเห็นถึงความแตกต่าง และสามารถเลือกใช้เรือได้ตามประเภทการใช้งานที่ถูกต้อง
ปัจจุบันการแข่งขันเรือแคนู แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การแข่งขันเรือแคนูสปรินท์ กับการแข่งขันเรือแคนูสลาลอม
การแข่งขันเรือแคนูประเภทนี้ จะแข่งกันบนน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก เส้นทางน้ำมีความลาดชัน อีกทั้งยังต้องแข่งกับเวลา เพื่อให้ได้รับชัยชนะ