
เทคนิค การทุ่มน้ำหนัก กรีฑาประเภทลานที่น่าสนใจ
- sunflower
- 210 views
เทคนิค การทุ่มน้ำหนัก เป็นกรีฑาประเภทลาน ที่จำเป็นต้องอาศัยร่างกายที่มีโครงสร้างใหญ่สูง แข็งแรง มีความคล่องตัวและความรวดเร็ว กล้ามเนื้อและระบบประสาท สามารถทำงานประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการทุ่มลูกน้ำหนักออกไปข้างหน้า ซึ่งผู้ที่ทุ่มได้ไกลที่สุด ถือเป็นผู้ชนะ
หลักฐานแรกของการทุ่มน้ำหนัก ถูกพบเจอในแนวที่ราบสูงของสกอตแลนด์ โดยย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 1 ในศตวรรษที่ 16 พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ได้ทรงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เนื่องจากความสามารถในการแข่งขันขว้างน้ำหนักและค้อน จึงทำให้ชื่อเสียงของพระองค์ถูกกล่าวขานและพูดถึงอย่างแพร่หลาย
ซึ่งการแข่งขันขว้างน้ำหนักสมัยใหม่ เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคกลาง จากการขว้างลูกปืนใหญ่ของทหาร ซึ่งการแข่งขันขว้างน้ำหนัก ได้รับการบันทึกเป็นครั้งแรก ที่สกอตแลนด์ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 และได้กลายเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่ง ที่ถูกบรรจุเข้าร่วมในการแข่งขัน ชิงแชมป์สมัครเล่นของอังกฤษซึ่งเริ่มต้นในปี 1866
โดยผู้แข่งขันขว้างน้ำหนักจากภายในวงกลม ที่ได้มีการทำเครื่องหมายไว้ ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 2.135 เมตร โดยมีกระดานวางเท้า หรือ กระดานหยุด ที่มีความสูง 10 เซนติเมตร อยู่ตรงที่ด้านหน้าวงกลม โดยวัดระยะทาง จากด้านในของเส้นรอบวงกลม ไปยังเครื่องหมายที่ใกล้ที่สุด ภายใต้กฎของ IAAF และ WMA
ที่มา: Shot put [1]
ย้อนกลับไปในอดีต สถิติโลกประเภททุ่มน้ำหนักหญิง ถูกครอบครองโดย นักกีฬาชาวเยอรมนีและสหภาพโซเวียต ซึ่งในปัจจุบัน Natalya Lisovskaya ผู้แข่งขันจากสหภาพโซเวียด เป็นผู้ถือครองสถิติโลก โดยสามารถขว้างได้ถึง 22.63 เมตร ในปี 1987
ซึ่งสถิติการทุ่มน้ำหนักคนแรกของประเภทหญิง ในปี 1924 คือ 10.15 เมตร โดย Violette Gouraud-Morris ชาวฝรั่งเศส ซึ่ง 45 ปีต่อมา ในปี 1969 Nadezhda Chizhova เป็นนักทุ่มน้ำหนักหญิงคนแรก ที่ทำระยะได้ถึง 20.09 เมตร
ในปี 1909 Ralph Rose นักขว้างน้ำหนักประเภทชายคนแรก ที่สามารถสร้างสถิติโลก ด้วยระยะ 15.54 เมตร ซึ่งสหรัฐอเมริกา ถือเป็นกำลังสำคัญ และผู้นำในการสร้างสถิติโลก ประเภทการขว้างน้ำหนัก
ต่อมาในปี 1960 Bill Nieder and Parry O’Brien ผู้ที่สามารถสร้างสถิติโลกได้ใหม่ โดย Nieder เป็นคนแรกที่สามารถทำลายสถิติ 20 เมตร ซึ่งในขณะเดียวกัน O’Brien ก็สามารถสร้างสถิติติดต่อกันได้ถึง 9 ครั้ง ในช่วงระหว่างปี 1953 – 1956
ซึ่งต่อมา Tomasz Majewski นักกีฬายิงปืน จากโปแลนด์ ได้กลายมาเป็นนักกีฬาทุ่มน้ำหนักคนที่สาม ในประวัติศาสตร์โอลิมปิก ที่สามารถคว้าแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน ขึ้นในระหว่างปี 2008 และ ปี 2012
ที่มา: Shot Put [2]
การถือลูกน้ำหนัก เพื่อเตรียมในการทุ่มนั้น สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งขึ้นอยู่กับความสั้นและความยาวของนิ้วมือ รวมถึงความถนัดของนักกีฬา ซึ่งการถือลูกน้ำหนักที่ถูกต้อง จะช่วยให้นักกีฬาทุ่มน้ำหนักไปได้ไกล โดยการถือลูกน้ำหนัก มี 3 วิธีดังนี้
ที่มา: การทุ่มน้ำหนัก [3]
โดยทั่วไป การทุ่มน้ำหนักมักจะใช้เทคนิคอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ การร่อนและการหมุน
การร่อน
ให้นักกีฬายืนถอยหลัง ที่บริเวณด้านหลังของวงแหวน ซึ่งถ้าถนัดข้างไหน ให้ยืนด้วยเท้าข้างนั้นมากกว่า จากนั้นก้มตัวลง แล้วผลักเท่าซ้ายไปข้างหลัง เข้าหาแผ่นรองเท้า และลงเท้าขวา เป็นการเคลื่อนไหว “ร่อน” ข้ามวงแหวน เมื่อนักกีฬาอยู่ด้านหน้าของวงแหวน จะทำการดันจากขาหลัง แล้วหมุนไปข้างหน้า จากนั้นทำการโยนลูกน้ำหนัก เป็นเทคนิคที่ได้รับการพัฒนาโดย Parry O’Brien
การหมุน
ให้นักกีฬายืนหันหน้าไปทางดด้านหลังในวงแหวน ด้วยท่าทางที่สมดุล สำหรับนักกีฬาที่ถนัดขวา ให้หมุนด้วยเท้าซ้าย ไปทางด้านหน้าของวงกลม โดยเท้าขวาจะต้องลงตรงกลางของวงแหวน ขาซ้ายเคลื่อนไปที่รองแผ่นเท้า แล้วทำการโยนลูกน้ำหนัก เป็นเทคนิคที่พัฒนาขึ้นโดย Viktor Alexeyev
หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Shot Put ได้ที่ physio
หากผู้เข้าแข่งขัน ทำผิดกฎข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ จะถือว่าเป็นการฟาวล์ทันที ได้แก่
กล่าวโดยสรุป เทคนิค การทุ่มน้ำหนัก เป็นกีฬาที่จัดอยู่ในประเภทของกรีฑา โดยบทความนี้ ได้รวบรวมเอาจุดกำเนิด เทคนิคการทุ่มน้ำหนัก วิธีการถือลูกทุ่ม และกติกาในการแข่ง ซึ่งทั้งหมดถือเป็นข้อมูลพื้นฐาน สำหรับผู้ที่สนใจในกีฬาชนิดนี้ ควรทำความเข้าใจและเรียนรู้ ก่อนการเริ่มลงมือปฏิบัติจริงในสนาม
กรีฑาทุ่มน้ำหนัก เป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการฝึกฝน ควรเป็นผู้ที่มีลักษณะรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแรง
ถือว่าผิดกติกา จะถูกปรับฟาวล์ทันที ซึ่งในการแข่งขัน จะต้องได้ยินการขานชื่อก่อน จึงจะเข้าสู่วงแหวนได้