แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

เจาะลึก กีฬาขี่ม้า ความเป็นมา ท่าทางการขี่ และอุปกรณ์ที่จำเป็น

เจาะลึก กีฬาขี่ม้า

เจาะลึก กีฬาขี่ม้า กีฬาที่อาศัยความไว้ใจซึ่งกันและกัน ระหว่างคนและสัตว์ เป็นกีฬาที่เริ่มมีการพัฒนา มาจากการใช้ม้า ในการขับเคลื่อน ทำการศึก ในตั้งแต่สมัยอดีต เป็นกีฬาที่มีประโยชน์มากมาย ต่อทั้งร่างกาย จิตใจ ช่วยปรับบุคลิก สร้างความมั่นใจ พร้อมพัฒนาทักษะในด้านอื่น ๆด้วย

  • ทำความรู้จักกีฬาขี่ม้า
  • ท่าขี่ม้าพื้นฐาน
  • ประเภทของกีฬาแข่งม้า

กีฬาขี่ม้า คืออะไร

ม้าเป็นสัตว์ที่ถูกนำมาขี่เป็นครั้งแรกเมื่อประมาณ 3,500 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งได้มีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการขี่ม้าเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยบริเวณใกล้แม่น้ำนีเปอร์และแม่น้ำดอน ผู้คนได้มีการเริ่มใช้บังเหียนกับม้า

ซึ่งในยุคแรก หลักฐานโบราณที่เกี่ยวข้องกับการใช้ม้าที่ชัดเจนที่สุดคือ การใช้ม้าในการขับเคลื่อนและการทำงาน เมื่อประมาณ 2,500 ปีก่อนคริสตกาล ได้เริ่มมีการใช้รถม้าในสงคราม ฝึกม้าให้เป็นทหารม้า จึงเป็นเหตุการณ์ที่ชัดเจนที่สุด ที่กล่าวได้ว่า ม้าเป็นสัตว์ที่มีบทบาทสำคัญ ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ทั่วโลก

ซึ่งม้าเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอเมริกาเหนือ และได้เริ่มสูญพันธุ์ในช่วงปลายยุคน้ำแข็ง โดยนักสำรวจชาวยุโรป ได้มีการนำม้ากลับมายังอเมริกาเหนือ ในปี ค.ศ. 1493 โดยการเดินทางของโคลัมบัส ทำให้ต่อมาในปี ค.ศ. 1900 กีฬาขี่ม้า ได้รับการแนะนำในโอลิมปิกฤดูร้อน

ที่มา: Equestrianism [1]

กีฬาขี่ม้าในประเทศไทย

สำหรับประเทศไทย กีฬาขี่ม้าได้เริ่มมีความแพร่หลาย และได้รับความนิยม จนกระทั่งในปี 1976 ได้เริ่มก่อตั้งสมาคมขี่ม้าขึ้น มีชื่อว่า สมาคมนักขี่ม้าสมัครเล่นแห่งประเทศไทย (TAEA) โดยพลเอกกฤช ปุณณกันต์ และคณะ ที่กองพลทหารม้า และในปี 1977 ได้เริ่มเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมโอลิมปิกแห่งประเทศไทย

ในปี 1993 ได้มีการเปลี่ยนชื่อสมาคมเป็น “สมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย” (TEF) และหลังจากนั้นหนึ่งปี (1994) ได้มีการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันขี่ม้า ในกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 12 ที่เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประเทศไทยสามารถคว้าเหรียญทองแดงมาได้

จนกระทั่งในปี 2014 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเป็นตัวแทนนักกีฬาจากประเทศไทย ในการเข้าร่วมแข่งขัน การขี่ม้าประเภทศิลปะบังคับม้าประเภททีม ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้

ที่มา: เปิดประวัติกีฬาเอเชียนเกมส์ : ขี่ม้า [2]

ท่าพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้นฝึกขี่ม้า

สำหรับนักขี่ม้ามือใหม่ กีฬาขี่ม้า การควบคุมม้า น่าจะเป็นเรื่องที่มีความท้าทายอยู่มาก เนื่องจากอาจเกิดความกังวลเกี่ยวกับอันตราย ต้องขี่ม้าอย่างไร โดยบทความนี้ ได้ยกเอาตัวอย่างท่าการขี่ม้าง่าย ๆ 4 ท่า ที่เป็นท่าพื้นฐาน มาให้คุณสามารถฝึกได้ด้วยตัวเอง

  • ท่าเดิน
    เป็นท่าแรกที่ควรทำความเข้าใจ โดยเริ่มจากการจับบังเหียนม้าให้แน่น จากนั้นใช้เท้าซ้ายเหยียบบนโกลนม้า เมื่อนั่งบนม้าแล้ว ให้ก้มหน้าลง อัดน่องขาทั้ง 2 ข้าง แล้วใช้เท้าสะกิดม้าเพื่อให้ม้าเริ่มเดิน และเมื่อต้องการให้ม้าหยุดเดิน ให้ดึงบังเหียนทั้ง 2 ข้างขึ้น โดยไม่ต้องตึงมากเกินไป
  • ท่าวิ่งเรียบ
    สามารถแบ่งได้เป็น 2 ท่า คือ ท่าวิ่งเรียบนั่ง และท่าวิ่งเรียบยกตัว ซึ่งทั้ง 2 ท่านี้ จะใช้วิธีการขี่คล้ายกับท่าเดิน คือเป็นการให้ม้าเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ โดยประจังหวะเป็นการวิ่ง ซึ่งท่าวิ่งเรียบนั่ง นักกีฬาจะนั่งติดกับอานม้าตลอด ส่วนท่าวิ่งเรียบยก นักกีฬาจะสลับระหว่างนั่งกับลุกขึ้น โดยห้ามยกก้นลอยขึ้นมา
  • ท่าวิ่งโขยก
    เป็นท่าที่ต้องใช้ทักษะและฝีมือในการขี่ม้าอยู่ระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นการขี่มา ที่จะต้องเตือนน่องอยู่ตลอดเวลา ผู้ขี่จะต้องจับบังเหียนอย่างมั่นคง ใช้น่องขายึดตัวม้า แล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงไป และกำหนดขาที่จะก้าวก่อน ซึ่งท่าวิ่งโขยกนี้ ผู้ขี่ม้าต้องคอยสังเกตอาการของม้า และมีสติอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันการพลาดตกจากตัวม้าได้
  • ท่าวิ่งควบ
    เป็นการเคลื่อนไหวม้าที่เร็วที่สุด โดยให้เท้าข้างใดข้างหนึ่งนำก่อน แล้วให้เท้าอีกข้าง ก้าวมาในตำแหน่งส้นเท้าหลังของเท้าแรก และทำการลงน้ำหนักไปที่เท้าหน้า เตือนน่องม้าเพื่อกระตุ้นให้ม้าออกวิ่ง ในจังหวะที่ต่อเนื่อง หากวิ่งม้าเป็นระยะเวลานาน ควรมีการพักม้าในระหว่างทางด้วย

หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สอนวิธีขี่ม้าแบบง่ายๆ  ได้ที่ charnveeresortkhaoyai

ประเภทของกีฬาขี่ม้า

เจาะลึก กีฬาขี่ม้า

กีฬาขี่ม้า เป็นกีฬาที่อาศัยความสัมพันธ์ ความเชื่อใจ และการยอมรับซึ่งกันและกัน ระหว่างคนและม้า เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันคว้าชัยชนะมาได้ โดยกีฬาแข่งม้า แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้

  • ศิลปการบังคับม้า (Dressage)
  • กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Show jumping)
  • อีเว้นติ้ง (Eventing)
  • รถม้า (Driving)
  • ยิมนาสติกบนหลังม้า (Vaulting)
  • การขี่ม้าวิบาก (Endurance)


โดยในการแข่งขันโอลิมปิก จะมีเพียง 3 ประเภทแรกเท่านั้น ที่ได้บรรจุเข้าแข่งขัน โดย 3 ประเภทที่ว่า ได้แก่ ศิลปะการบังคับม้า ,กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง และอีเว้นติ้ง

  • ศิลปการบังคับม้า
    ก่อนเริ่มการแข่งขัน นักกีฬาจะต้องทำแบบทดสอบ นั่นคือการทำท่าต่าง ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยแต่ละท่าจะมีคะแนนข้อละ 10 คะแนนซึ่งผู้ที่ได้คะแนนทั้งหมดรวมกันมากที่สุด คือผู้ชนะ
  • กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง
    คือนักกีฬาจะต้องกระโดดข้ามเครื่องกีดขว้าง โดยที่ไม้ขวางไม่ตก ภายในระยะเวลาที่กำหนด จะมีคะแนนเป็น 0 เพราะหากนักกีฬาไม่สามารถข้ามสิ่งกีดขวางได้ คะแนนจะติดลบลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้นคะแนนเป็น 0 จึงเป็นคะแนนที่ดีที่สุด
  • อีเว้นติ้ง
    เป็นประเภทที่ให้ความสนุก ตื่นเต้น และเร้าใจ ซึ่งการแข่งขันประเภทนี้ นักกีฬาจะสามารถมีโอกาส ในการแก้ตัวได้ในวันต่อไป เนื่องจาก การขี่ม้าประเภทนี้ นักกีฬาจะต้องทำการทดสอบถึง 3 แบบ นั่นคือ ศิลปะการบังคับม้า ,ข้ามภูมิประเทศ และกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง โดยเอาคะแนนการทดสอบทั้งหมดมารวมกัน ซึ่งผู้ที่เสียคะแนนน้อยที่สุด จะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันนั้น ๆ

ที่มา: “กีฬาขี่ม้า” การแข่งขันที่ต้องเชื่อใจกัน [3]

อุปกรณ์ขี่ม้าที่ควรมีติดไว้

  • เสื้อผ้าสำหรับผู้ขี่
    ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย กระชับ และพอดีตัว โดยเสื้อควรเป็นเสื้อโปโลแขนสั้น กางเกงควรเป็นขายาว เพื่อลดการเสียดสีระหว่างผู้ขี่กับม้า
  • หมวกกันน็อก
    ควรเลือกใช้หมวกกันน็อกที่มีความทนทาน แข็งแรง สามารถป้องกันแรงกระแทก โดยภายในตัวหมวก ควรเสริมด้วยฟองน้ำ เพื่อเพิ่มความสบาย ทั้งนี้ควรเลือกหมวกกันน็อกที่พอดีกับศีรษะ เพื่อให้การป้องกันสามารถแสดงผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • รองเท้าขี่ม้า
    รองเท้าบูตเป็นรองเท้าที่เหมาะสำหรับการขี่ม้า เนื่องจากผลิจขึ้นจากวัสดุหนัง พื้นรองเท้ามีความนุ่มในระดับที่พอดี ทำให้สวมใส่ได้สบาย ป้องกันการปวดเท้าในขณะขี่ม้า ซึ่งรองเท้าบูตสูงครึ่งน่อง ถือเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
  • ถุงมือขี่ม้า
    เพื่อป้องกันอาการมือพอง จากการจับสายบังเหียนม้า เพิ่มความแข็งแรงในการยึดเกาะ ช่วยให้ผู้ขี่สามารถบังคับม้าได้ดียิ่งขึ้น โดยถุงมือที่ควรเลือกใช้ ควรเป็นถุงมือผ้าหรือถุงมือหนัง

ประโยชน์ในการขี่ม้า

  • ช่วยปรับบุคลิกภาพ
    การขี่ม้า นักกีฬาจะต้องทรงตัวอยู่บนม้าตลอด ด้วยท่าทางหลังตรง อกผาย ไหล่ผึ่ง และเมื่อทำเป็นประจำจะทำให้เกิดเป็นความเคยชิน จนติดเป็นนิสัย จึงทำให้ผู้ฝึกกีฬาชนิดนี้ มีบุคลิกภาพที่ดูสง่างาม
  • กล้ามเนื้อแข็งแรง
    ในการขี่ม้า เมื่อม้าเริ่มมีการเคลื่อนไหว ร่างกายของผู้ขี่จะต้องทำการปรับความสมดุล ให้เข้ากับจังหวะของม้า ซึ่งกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายจะต้องทำงานประสานกัน ถือเป็นกีฬาที่ช่วยในเรื่องกายภาพบำบัด และช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
  • สร้างสมาธิและความอดทน
    ในการบังคับและควบคุมม้า นักกีฬาจะต้องมีสมาธิอย่างสูง จิตใจต้องจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ อีกทั้งการฝึกขี่ม้าให้คล่อง ให้คุณมีความเข้าใจในพฤติกรรมของม้า จำเป็นต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมากในการฝึกฝน เพื่อให้คุณสามารถขี่ม้าได้อย่างคล่องแคล่ว

สรุปแล้ว เจาะลึก กีฬาขี่ม้า

สรุปแล้ว เจาะลึก กีฬาขี่ม้า เป็นกีฬาอีกหนึ่งประเภท ที่อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ทุกคนเปิดใจลองเรียนรู้และฝึกฝน อาจเริ่มจากการขี่ม้าเป็นงานอดิเรก เพื่อฝึกบุคลิกภาพ สมาธิ และความมั่นใจ เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้คุณมีจิตใจที่อ่อนโยนกับสัตว์ การสร้างความผูกพัน ระหว่างคนกับสัตว์ เพื่อให้เกิดเป็นความรัก

ฝึกขี่ม้าได้อะไร?

ในการฝึกขี่ม้า ผู้ฝึกจะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะ ฝึกความอดทน ความอุตสาหะ สร้างความเห็นอกเห็นใจ และการสื่อสาร ระหว่างคนกับม้า

ทำไมนักกีฬาขี่ม้าส่วนมาก ถึงใส่เสื้อโปโล?

เนื่องจากเสื้อโปโลแขนสั้น จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้สวมใส่ ในขณะที่ฝึกฝน หรือ แข่งขี่ม้า นั่นเอง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง