
สูตรแทงบอล ฉบับเซียน สเต็ปเดียวไม่พลาดสักบิล
- Pet Noi
- 264 views
สูตรแทงบอล ฉบับเซียน กลุ่มคนที่เป็นเซียนบอล พวกเขามีสูตรการแทงบอลยังไง ให้ทุกสเต็ปไม่พลาดเลยสักบิล ให้การแทงบอลในแต่ละครั้ง นักพนันบอลได้พัฒนาฝีมือให้ดีขึ้น โดยในส่วนของวันนี้ บล็อกจะมา สอนแทงบอล ฉบับมืออาชีพ ด้วยรูปแบบการแทงบอลยอดนิยม
ด้วยการเดิมพันพนันกีฬาฟุตบอล ทุก ๆ ครั้งที่จะเริ่มแทงบอล นักพนันจะต้องมี สูตรแทงบอล ประจำตัว เพื่อนำมาใช้ในการเดิมพัน และวิเคราะห์ราคาบอลให้เป็น ซึ่งสูตรที่ว่านี้ นักพนันบอลแต่ละคน จะมีสูตรการแทงบอลไม่เหมือนกัน แล้วแต่ว่าจะถนัดแบบไหน โดยสูตรมันก็เหมือนเป็นตัวช่วย หรือกลยุทธ์ต่าง ๆ
ที่จะเพิ่มโอกาสให้นักพนันชนะเกม หากถามว่ามีความสำคัญไหม ก็มีความสำคัญในระดับหนึ่ง อย่างนักพนันบอลหน้าใหม่ ที่ไม่มีทริคแทงบอลอะไรเลย ส่วนน้อยมาก ๆ ที่จะชนะเกม แต่ถ้าได้เริ่มแทงบอลในบิลต่อไป นักพนันบอลหน้าใหม่จะเริ่มมีสูตร เพื่อช่วยให้ตัวเองชนะการเดิมพัน
การแทงบอลด้วยรูปแบบ “ สเต็ป ” หรือ “ บอลชุด ” เป็น สูตรแทงบอล ที่ได้รับความนิยมในวงการฟุตบอล รวมไปถึงวงการกีฬาอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอล ที่ได้จัดการแข่งขันในระดับประเทศ และระดับโลก ซึ่งการแทงบอลรูปแบบนี้
สร้างความท้าทายให้กับนักพนันบอล นั่นก็คือ การทายผลให้ถูกต้องทุกคู่ในบิลเดียว หากนักพนันบอลทายถูกทั้งหมด แน่นอนว่า นักพนันบอลจะได้รับค่าตอบแทน แต่หากทายผิดเพียง 1 คู่ หรือ 2 คู่ขึ้นไป การแทงบอลสเต็ปจะเสียทั้งหมด ทั้งนี้ รูปแบบการ เล่นบอลออนไลน์ ประเภทบอลชุด
แนะนำว่าให้นำทริคดังต่อไปนี้ ไปปรับใช้ในการแทงบอล ไม่ว่าจะเป็น การวิเคราะห์ฟอร์มการเล่น, การวิเคราะห์สถิติย้อนหลัง, การเลือกทีมที่มีความได้เปรียบ, การเลือกเดิมพันในลีกที่คุ้นเคย และการหลีกเลี่ยงทีมที่มีความเสี่ยงสูง เป็นต้น
การแทงบอลด้วยรูปแบบ “ แฮนดิแคป ” ( Handicap ) เป็นรูปแบบการพนันมันนี่ไลน์ โดยสูตรนี้จะเน้นใช้ ทฤษฎีความน่าจะเป็นของอัตราต่อรอง เป็นการวัดว่าทีมไหนมีความน่าจะเป็น ที่จะมีผลลัพธ์เฉพาะ ซึ่งรูปแบบนี้ได้รับความนิยม ในโซนพื้นที่อเมริกา แต่ถ้าพูดอีกความหมายหนึ่ง
“ แฮนดิแคป ” หมายถึง อัตราต่อรองของผลลัพธ์ต่าง ๆ ของเกมการแข่งขัน ที่ไม่นึกถึงสเปรดของแต้ม โดยทีมเต็งจะต้องมีอัตราต่อรอง ในแบบมันนี่ไลน์ติดลบ ส่วนทีมรองจะต้องมีอัตราต่อรอง ในแบบมันนี่ไลน์บวก แต่ถ้าทั้ง 2 ทีมมีคะแนนเท่ากัน อาจมีอัตราต่อรองติดลบได้ ในเวลาเดียวกัน [1]
การเดิมพันฟุตบอลด้วยรูปแบบ “ สูง – ต่ำ ” ( Over – Under ) เป็น สูตรแทงบอล ที่เว็บไซต์ หรือคาสิโนจะตั้งตัวเลข สำหรับสถิติในเกมการแข่งขันออกมา ซึ่งนักพนันบอลจะต้องทายว่า ตัวเลขจริง ๆ ในเกมการแข่งขันนั้น จะออกมาเป็นสูง หรือต่ำกว่าตัวเลขที่ถูกกำหนดไว้
โดยสถิติที่ใช้กันมากที่สุด คือ “ คะแนนรวมของทั้ง 2 ทีม ” ทั้งนี้ คะแนนรวมจะถูกคำนวณ จากคะแนนของทั้ง 2 ทีมในการแข่งขัน นอกจากกีฬาฟุตบอล ที่ใช้รูปแบบการเดิมพันนี้ ยังมีกีฬาอื่น ๆ อีก อาทิเช่น เบสบอล บาสเกตบอล และอเมริกันฟุตบอล เป็นต้น [2]
การเดิมพันฟุตบอลด้วยรูปแบบ “ สเปรด ” ( Spread ) เป็น สูตรแทงบอล เกี่ยวกับผลลัพธ์ของเหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้นในการแข่งขัน โดยค่าตอบแทนที่นักพนันจะได้รับ ขึ้นอยู่กับความแม่นยำ และการใช้สูตรในการแทงบอล แทนที่จะตัดสินแค่ว่าชนะ หรือแพ้
ทั้งนี้ การเดิมพันแบบสเปรด จะมีตัวเลขที่ถูกกำหนดไว้โดยเว็บไซต์ หรือเจ้ามือ ซึ่งนักพนันจะต้องให้แต้มต่อทีม ที่มีเปอร์เซ็นต์ได้เปรียบกว่า แล้วถ้า 2 ทีมนี้แข่งขันกัน ทีมที่นักพนันได้เดิมพันไว้ มีอัตราการชนะมากกว่า นักพนันมีสิทธิ์จะได้รับค่าตอบแทน [3]
สำหรับขั้นตอนการแทงบอลสด ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ในขณะที่เกมกำลังแข่งขันกันอยู่ จะมีขั้นตอนการเดิมพันง่าย ๆ 4 ขั้นตอน โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
ผลก็คือ สูตรการเดิมพันฟุตบอลต่าง ๆ คือ ทริคที่ช่วยเพิ่มโอกาสการชนะเกม นั่นก็คือการเลือกประเภทการแทงบอล ที่ตัวนักพนันบอลมีความถนัด มีความเข้าใจในรูปแบบต่าง ๆ นี่จะทำให้วิเคราะห์ราคาบอลเป็น อีกทั้งจะทำให้ทุกบิล ทุกคู่ที่เดิมพันไป มีโอกาสชนะ 70% ขึ้นไป
หากถามว่าการแทงบอล มีข้อควรระวังให้นักพนันบอล ได้พินิจพิจารณาไหม แน่นอนว่า การแทงบอลเป็นเกมพนัน นอกจากจะให้ความบันเทิง และค่าตอบแทนแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้มันแลกมากับพฤติกรรม รวมถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่อาจเปลี่ยนไปของตัวนักพนัน ยกตัวอย่างเช่น สัญญาณการติดพนัน,
ผลกระทบต่อครอบครัวร้อยละ 49.15, ปัญหาหนี้สินร้อยละ 27.11 และปัญหาสุขภาพจิตใจ พฤติกรรม ร้อยละ 22.03 นอกจากนี้ นักพนันบอลที่เอาแต่เดิมพัน อาจจะได้รับผลกระทบ จากการพักผ่อนไม่เพียงพอได้ นี่อาจส่งผลกระทบให้เกิดภาวะอื่น ๆ ตามมา อาทิเช่น อารมณ์หงุดหงิด, ก้าวร้าวมากขึ้น, ร่างกายเจ็บป่วย, ร่างกายอ่อนล้า, สมาธิสั้น เป็นต้น
ถ้ามีความสนใจจะแทงบอล จะนั่งดูบอล หรือแฟนชวนดูบอล แต่ว่าคุณแทงไม่เป็น ดูไม่เป็น อาจจะต้องมาเรียนรู้คำศัพท์ เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลก่อน ยกตัวอย่างเช่น