ทำไม สุนัขชิลเลอร์ ฮาวนด์ ไม่ค่อยมีคนเลี้ยงในไทย ?
- Pet Noi
- 123 views
สุนัขชิลเลอร์ ฮาวนด์ ทำไมไม่ค่อยมีทาสหมา เลี้ยงในประเทศไทย ทั้งที่น้องมีความสามารถรอบด้าน ทั้งล่าเก่ง วิ่งเร็ว จงรักภักดีต่อเจ้าของเป็นพิเศษ บางทีเหตุผลอาจไม่ได้อยู่ที่น้อง แต่เป็นเพราะบ้านเรา ยังไม่พร้อมพอจะรองรับนิสัย และความต้องการของ Schiller Hound ก็ได้
สุนัขชิลเลอร์ ฮาวนด์ เป็นสายพันธุ์หมาบ้าน ฉายา “นักล่าจากสวีเดน” ได้รับการรับรองจาก FCI ตั้งแต่ปี 1952 มีจุดเด่นด้านความเร็ว ความอึด และการตามกลิ่นได้แม่นยำ น้องสามารถไล่ล่าเป็นระยะทาง หลายกิโลเมตรในป่า โดยไม่หลงทิศ แถมยังขึ้นชื่อเรื่อง ความจงรักภักดีต่อเจ้าของ (19 ตุลาคม 2024) [1]
สุนัขชิลเลอร์ฮาวนด์ ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นในสวีเดน เพื่อใช้ในการล่ากวาง โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเขากว้างใหญ่ ด้วยความสามารถในการวิ่งไกล 7 – 12 กิโลเมตรต่อวันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เหนื่อยง่าย น้องจึงต้องการพื้นที่
และกิจกรรมที่ช่วยระบายพลังงาน ออกอย่างสม่ำเสมอ แม้จะไม่ได้ซุกซนแบบสายพันธุ์ สุนัขบราซิลเลี่ยน เทอร์เรีย แต่ชิลเลอร์ก็ไม่ใช่น้องหมา ที่จะอยู่นิ่ง ๆ ได้ทั้งวัน หากไม่ได้รับการออกกำลังกาย ที่มันเพียงพอ
อาจเกิดพฤติกรรมเบื่อ เครียด หรือแสดงออกทางเสียง และการขุดพื้นได้ พลังงานที่สูงเกินมาตรฐาน ของหมาบ้านทั่ว ๆ ไป ทำให้น้องไม่เหมาะกับการเลี้ยง ในพื้นที่แคบ หรือการปล่อยให้อยู่ลำพัง เป็นเวลานาน ๆ
ชิลเลอร์ฮาวนด์เป็นสุนัขนักล่า ที่ถูกออกแบบมาให้วิ่งในป่ากว้าง ไม่ใช่ทางเดินแคบ ๆ ในอพาร์ตเมนต์ พื้นที่ที่เหมาะสมในการเลี้ยง ไม่ควรต่ำกว่า 30 – 50 ตารางเมตร สำหรับการเคลื่อนไหว อิสระในแต่ละวัน และควรมีเวลาออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน
อย่างน้อยวันละ 90 – 120 นาที สุนัขพันธุ์นี้ไม่สามารถอยู่ได้ ด้วยการพาเดินแค่รอบหมู่บ้าน วันละ 15 นาที เพราะพลังงานในตัวน้อง ต้องถูกระบายออกจริงจัง ไม่อย่างนั้น จะเกิดความเครียดสะสม หรือมีพฤติกรรมทำลายข้าวของ
หากไม่มีสนามหญ้า หรือพื้นที่กึ่งเปิด ที่ปล่อยให้วิ่งได้อย่างปลอดภัย น้องอาจไม่ได้ใช้ศักยภาพของตัวเองเลย และสุดท้ายอาจกลายเป็นหมาที่ “เฉา” แม้จะมีรูปลักษณ์แข็งแรง รูปร่างได้สัดส่วน กล้ามเนื้อสง่างาม มีความแข็งแกร่งก็ตาม (2025) [2]
แม้ Schiller Hound จะมีศักยภาพสูง แต่ก็แทบไม่มีให้เห็นในไทยเลย เหตุผลหลัก คือ “สภาพอากาศร้อนชื้น” ที่ไม่เหมาะกับร่างกาย ของสุนัขสายพันธุ์ขนาดกลาง จากสแกนดิเนเวีย อีกทั้งความต้องการพื้นที่กว้าง และกิจกรรมระดับสูง ก็ขัดแย้งกับไลฟ์สไตล์คนไทย
นอกจากนี้ ชิลเลอร์ยังเป็นพันธุ์ ที่ไม่อยู่ในกระแสในปี 2025 หรือปีไหน ๆ เลย ทำให้การนำเข้า การผสมพันธุ์ และข้อมูลดูแลมีอยู่อย่างจำกัด จึงไม่จูงใจให้คนเลี้ยงหน้าใหม่ ลองเปิดใจ ทำให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา น้องยังคงเป็นหมาหายาก ที่อยู่เฉพาะในกลุ่มนักล่า หรือฟาร์มเฉพาะทางในยุโรปเท่านั้น
สุนัขชิลเลอร์ฮาวนด์ ได้รับการพัฒนามาเพื่อการล่า ในสภาพแวดล้อมหนาวเย็น ของประเทศสวีเดน มีขน 2 ชั้นที่ทนต่อความเย็น และความชื้น แต่ไม่เหมาะกับอุณหภูมิสูงจัด อย่างเมืองไทยที่เฉลี่ย 35 – 40 องศา เนื่องจากความร้อนได้ส่งผลให้สุนัข
แม้เป็นพันธุ์ที่แข็งแรง พัฒนามาเพื่อความอึด ก็อาจเสี่ยงต่อการ เกิดอาการฮีทสโตรก หรือเหนื่อยเร็ว เมื่อถูกบังคับให้ทำกิจกรรมสูง ภายใต้แดดจัด อีกทั้งชิลเลอร์ต้องการระบายพลังงาน ผ่านกิจกรรมกลางแจ้ง อาทิเช่น วิ่งหรือเดินอย่างน้อย 60 – 120 นาทีต่อวัน
หากทำในช่วงที่ร้อนจัด ยังเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรือเหนื่อยล้าได้ง่าย ส่วนนี้แตกต่างจากสุนัขบราซิลเลี่ยน หมาบ้านจากบราซิล สายพันธุ์พื้นเมืองที่ปัจจุบันในปี 2025 กำลังได้รับการยอมรับทั่วโลก เนื่องจากปรับตัวได้เก่ง ในทุกสภาพแวดล้อม (13 กันยายน 2024) [3]
หากชิลเลอร์ฮาวนด์พูดได้ น้องอาจจะบอกเจ้าของว่า “เสียงรถ เสียงแตร และกลิ่นเมือง ช่างน่าปวดหัวเหลือเกิน” เพราะธรรมชาติของชิลเลอร์ คือ สุนัขล่าสัตว์ในป่าที่อาศัยความนิ่ง เงียบ และสมาธิในการตามกลิ่น อย่างแม่นยำ สิ่งแวดล้อมในเมือง ไม่ว่าจะเป็น เสียงดัง ความพลุกพล่าน
หรือแม้แต่การเดินบนทางเท้าที่คับแคบ อาจกลายเป็นความเครียดเรื้อรัง ที่น้องสื่อสารออกมาไม่ได้ แม้ชิลเลอร์จะเป็นหมาฉลาด และปรับตัวได้บ้าง แต่การต้องอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่สวนทางกับธรรมชาติของตัวเอง อาจทำให้ศักยภาพไม่ถูกใช้อย่างเต็มที่ และกลายเป็นสุนัขที่ดู “เฉยชา” หรือ “หงุดหงิด” ได้
Schiller Hound ไม่ได้เป็นหมาที่ไม่ดี แต่เป็นสายพันธุ์ที่ต้องการทั้งพื้นที่ อากาศ และกิจกรรมเฉพาะทาง ซึ่งสวนทางกับไลฟ์สไตล์ ของทาสหมาในไทย แม้น้องจะมีความสามารถสูง แต่น้องอาจยังไม่เจอสภาพแวดล้อม ที่ “ใช่” สำหรับการใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพ
บางทีเหตุผลที่ชิลเลอร์ ยังไม่เป็นสายพันธุ์สุนัข ที่นิยมในไทย อาจไม่ใช่เพราะน้อง ไม่เหมาะกับบ้านเราเสียทีเดียว แต่เป็นเพราะยังไม่มีใคร เล่าเรื่องของน้อง ให้ทาสหมารู้จักมากพอ เมื่อไม่มีข้อมูล ไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับน้อง การตัดสินใจก็ย่อมไม่เกิดขึ้น
หากชิลเลอร์ ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีพื้นที่ให้วิ่ง มีอากาศที่เย็นพอ และเจ้าของที่เข้าใจ น้องอาจกลายเป็นคู่หูนักล่า ที่ทรงพลังที่สุดก็ได้ เพราะบางครั้ง ความสามารถก็ไม่ได้หายไปไหน แค่น้องอยู่ผิดที่เท่านั้นเอง
