แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

วิธีฝึก กระโดดไกล กรีฑาประเภทลู่ลาน สู่ความสำเร็จ

วิธีฝึก กระโดดไกล

วิธีฝึก กระโดดไกล กีฬาที่จัดอยู่ในประเภทกรีฑา ที่มีความน่าตื่นเต้น เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยการใช้ร่างกาย ผสมผสานกับเทคนิค วิธีการ เพื่อให้ผู้แข่งสามารถกระโดดออกไปได้ในระยะที่ไกลที่สุด โดยในบทความนี้ ได้อธิบายเกี่ยวกับกฎ ทักษะพื้นฐาน ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการกระโดดไกล

  • ความเป็นมาของการกระโดดไกล
  • สถิติโลกการกระโดดไกล
  • ทักษะการเคลื่อนไหว

ประวัติความเป็นมาของการกระโดดไกล

กระโดดไกล เป็นกีฬาที่อยู่ในประเภทของกรีฑา ที่ได้รับการบรรจุอยู่ในโอลิมปิก เป็นกีฬาที่ผู้เข้าร่วมแข่งขัน จะต้องใช้ทักษะความแข็งแรง และความคล่องตัวเป็นพิเศษ โดยตัดสินผลการแพ้ชนะ จากระยะความไกลที่ผู้เข้าแข่งขันกระโดดได้

ในปี ค.ศ. 1896 กีฬากระโดดไกล จะมีแต่นักกีฬาเพศชายเท่านั้น จนกระทั่งต่อมา ในปี ค.ศ. 1948 ได้เริ่มมีการแข่งขันการกระโดดไกล ประเภทหญิง เข้ามาแข่งขันด้วย

ดังนั้นผู้เข้าร่วมแข่งขัน จำเป็นที่จะต้องมีปฏิภาณไหวพริบที่ดี มีการฝึกฝนทั้งทางร่างกายและเทคนิค เพื่อกะระยะทาง และกะจังหวะเวลากระโดด เพื่อให้สามารถกระโดดออกไปได้ไกลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้ ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับกติกา และข้อมูลพื้นฐานอื่น ๆ เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพ

ที่มา: ทักษะการกระโดดไกล [1]

สถิติโลก การกระโดดไกลประเภทหญิง

ผู้หญิงคนแรกที่ทำสถิติ การกระโดดไกลในระดับโลกคือ Marie Mejzlikova ที่ทำสถิติการกระโดดได้ 5.16 เมตร โดยต่อมาในปี 1922 เขายังได้ทำลายสถิติเดิมของตัวเอง ด้วยการกระโดดได้ไกลถึง 5.30 เมตร ซึ่งสามารถรักษาสถิตินี้ไว้ได้นานถึง 30 ปี

จนกระทั่ง ปี 1988 Galina Chistyakova ได้ทำลายสถิติเก่าลง ด้วยการกระโดดได้ไกลถึง 7.52 เมตร ที่เมืองเลนินกราด จนกระทั่ง ในปี 1994 ได้เกือบมีผู้มาทำลายสถิติได้แบบใกล้เคียงที่สุด คือ แจ็กกี้ จอยเนอร์-เคอร์ซี ซึ่งทำการกระโดดไว้ได้ 7.49 เมตร เป็นจำนวนถึง 2 ครั้งด้วยกัน

ที่มา: Long Jump [2]

สถิติโลก การกระโดดไกลประเภทชาย

ปีเตอร์ โอคอนเนอร์ นักกีฬาชาวไอริช เป็นนักกีฬากระโดดไกลชายคนแรก ที่ทำสถิติการกระโดดไกลได้ถึง 7.61 เมตร และได้รับการบันทึกสถิติโลกไว้ครั้งแรก เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1901 ต่อมาในปี 1935 เจสซี โอเวนส์ นักกีฬาจากสหรัฐอเมริกา ได้ทำลายสถิติการกระโดดไกล ด้วยการกระโดดได้ 8.13 เมตร ซึ่งเป็นสถิติที่คงอยู่นานถึง 25 ปี

ต่อมาในการแข่งขันโอลิมปิก ปี 1968 บ็อบ บีมอน ได้ทำลายสถิติการกระโดดไกล ด้วยระยะทาง 8.90 เมตร และในปัจจุบัน สถิติการกระโดดไกลประเภทชาย มีระยะทางไกลถึง 8.95 เมตร ซึ่งกระโดดโดย ไมค์ พาวเวลล์ ผู้ชนะการแข่งขันกระโดดไกลชิงแชมป์โลก เมื่อปี 1991

กติกาการเล่นกีฬากระโดดไกล

วิธีฝึก กระโดดไกล

สำหรับกติกาที่ใช้ในการแข่งขัน การกระโดดไกล ในกีฬาโอลิมปิกนั้น เป็นกติกาพื้นฐานที่ยึดถือ และปฏิบัติใช้กันมาทั่วโลก มีดังนี้

  • ทางที่ใช้ในการวิ่งก่อนออกตัว จะต้องมีความกว้าง 22 เมตร และมีความยาว 40 เมตร
  • กระดานสำหรับการใช้กระโดดนั้น จะต้องทาด้วยสีขาวเท่านั้น
  • ในช่วงจังหวะการกระโดดนั้น นักกีฬาจะต้องเหยียบไม่เกินความยาวของกระดานสำหรับการเริ่มกระโดด หากมีร่องรอยการเหยียบ จะถูกตัดฟาวล์ทันที
  • หลุมทรายที่ใช้ในการกระโดดไกล ต้องมีระยะห่างจากกระดานเริ่มกระโดด และจุดสิ้นสุด ประมาณ 10 เมตร โดยหลุมทรายควรมีความกว้างอย่างน้อย 75 เมตร
  • ในกรณีที่นักกีฬามีจำนวนน้อยกว่า 8 คน ผู้แข่งขันจะทำการแข่งทีละคน โดยสามารถทำการกระโดดได้ 6 ครั้ง / คน แต่ในกรณีที่มีผู้แข่งมากกว่า 8 คน ผู้แข่งขันจะกระโดดได้ 3 ครั้ง / คน เท่านั้น
  • สำหรับการวัดระยะทาง จะเริ่มวัดจากรอยที่ปรากฏบนหลุมทราย ที่อยู่ใกล้กับกระดานเริ่มกระโดดมากที่สุด
  • นักกีฬา 1 คน จะมีระยะเวลามาตรฐาน สำหรับการแข่งอยู่ที่ประมาณ 30 นาที

ที่มา: กติกากระโดดไกล มีอะไรบ้าง พื้นฐานการกระโดดไกลที่นักกีฬาหน้าใหม่ควรรู้ [3]

ทักษะการเคลื่อนไหวของกีฬากระโดดไกล

การกระโดดไกล เป็นกีฬาที่สามารถเล่นได้ง่าย ๆ ใช้แค่รองเท้ากีฬา และสถานที่สำหรับการกระโดดเท่านั้น โดยกีฬาชนิดนี้ จะประกอบด้วยทักษะวิธีเล่น ดังต่อไปนี้

  • การออกตัววิ่ง
    ผู้แข่งขัน จะต้องออกตัวจากจุดเริ่มต้น จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มระดับความเร็ว ไปให้ถึงระดับจุดที่สูงสุด เมื่อถึงจุดกระโดด ให้ผู้เล่นรักษาจังหวะในการออกตัววิ่ง เพื่อให้ความเร็วเป็นตัวช่วยให้นักกีฬากระโดดได้ไกลมากขึ้น
  • จังหวะการกระโดด
    นักกีฬาจะต้องรักษาความสัมพันธ์ของการก้าว และการกระโดด ให้สัมพันธ์กัน โดยการหยุดตรงจุดเริ่มกระโดด และย่อตัวลงเล็กน้อย เพื่อส่งแรงทั้งหมดไปใช้ในการสปริงตัวขึ้นไปในอากาศ
  • จังหวะลอยตัวบนอากาศ
    เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลาเพียงเสี้ยวนาที โดยมีเทคนิคที่นิยมใช้อยู่ 2 อย่าง คือ การซอยเท้าในลักษณะคล้ายกับการวิ่งในอากาศ กับอีกหนึ่งวิธี คือการนอนหงาย เพื่อให้ร่างกายของคุณอยู่ในอากาศได้นานขึ้น
  • จังหวะการลงพื้น
    เป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งขั้นตอนนี้ นักกีฬาจะต้องหาเทคนิคเฉพาะตัวมาใช้ เพื่อให้ตัวผู้แข่งลอยอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานาน และสามารถลงสู่พื้นได้แบบมั่นคง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใช้ในการตัดสินผลแพ้ชนะ

สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการกระโดดไกล

สิ่งที่ควรทำในการกระโดดไกล

  • นักกีฬาควรฝึกซ้อมการกระโดดอย่างต่อเนื่องและเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความรวดเร็วให้กับร่างกาย
  • ควรหาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาเทคนิค และรูปแบบของการกระโดดไกล
  • นักกีฬาควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎ และระเบียบข้อบังคับ ในการแข่งขันกระโดดไกล
  • นักกีฬาต้องมีเป้าหมายในการแข่งขัน และมีทัศนคติที่ดีต่อเพื่อนที่ร่วมเข้าแข่งขันด้วยกัน
  • นักกีฬาควรกล้าที่จะถาม-ตอบ และขอคำแนะนำ เทคนิคต่าง ๆ จากโค้ชที่มีประสบการณ์ เพื่อนำมาใช้ในการปรับแต่งทักษะของตัวผู้แข่งเอง


สิ่งที่ไม่ควรทำในการกระโดดไกล

  • นักกีฬาที่ดี ไม่ควรละเลยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และการอบอุ่นเตรียมร่างกาย ก่อนการฝึกซ้อมหรือแข่งขันทุกครั้ง
  • ในระหว่างการเคลื่อนไหว นักกีฬาไม่ควรคิดมากจนเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของนักกีฬา
  • อย่าให้ความผิดพลาด มาทำให้ความตั้งใจของคุณลดน้อยลง แต่ให้นำความผิดพลาด มาเป็นบทเรียนในการแก้ไขเพื่อพัฒนาทักษะ ไม่ให้เกิดความผิดพลาดแบบซ้ำสอง
  • ไม่ควรนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่นมากเกินไป ควรโฟกัสและมุ่งเน้นไปที่เป้าหมาย และเจตนาเพื่อความก้าวหน้าส่วนบุคคล

หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mastering the Art of Long Jump ได้ที่ athleteplus

โดยสรุปแล้ว วิธีฝึก กระโดดไกล

โดยสรุปแล้ว วิธีฝึก กระโดดไกล เป็นบทความที่รวบรวมความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ ประวัติ กติกา และทักษะในการกระโดดไกล สำหรับนักกีฬามือใหม่ ที่อยากฝึกซ้อมการกระโดดไกลด้วยตนเอง โดยสามารถฝึกได้ทั้งที่บ้าน หรือสนามกีฬาใกล้บ้าน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นก่อนการพัฒนาไปเป็นนักกีฬามืออาชีพ

การกระโดดไกลคืออะไร?

การกระโดดไกล ผู้แข่งจะต้องวิ่งเร็วไปตามทางวิ่งจนถึงกระดานกระโดด จากนั้นจึงหยุด และทำการกระโดดลงไปในหลุมทราย ให้ได้ระยะทางที่ไกลที่สุด

การกระโดดไกลวัดระยะทางอย่างไร?

การวัดระยะทาง จะเริ่มวัดจากเส้นเริ่มต้น กับส้นเท้าด้านหลังของผู้แข่ง ที่ประทับรอยไว้ในหลุมทราย ที่กระโดดลงไปนั่นเอง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง