
รีวิว Pokemon แพลตตินัม เกมภาคเสริมของซีรีส์เกมโปเกมอน เจน 4
- Good Day's
- 46 views
รีวิว Pokemon แพลตตินัม เกมที่เปิดตัวในปี 2008 บนเครื่อง Nintendo DS เกมที่ถูกมองว่าเป็นเพียงภาคเสริมของ Diamond & Pearl ในบทความ รีวิว Pokemon ไดมอนด์เพิร์ล ก่อนหน้านี้ แต่กลับเป็นเกมที่แสดงให้เห็นว่าเกมภาคเสริม ก็สามารถพัฒนาไปได้ไกล กว่าการแก้ไขข้อบกพร่องที่เกมเก่ามี
Pokemon ภาค Platinum ที่เปิดตัวครั้งแรก ในญี่ปุ่นช่วงเดือน 13 กันยายน ปี 2008 มักถูกมองว่าเป็นภาคเสริม ของ Diamond&Pearl ของปี 2006 แต่สิ่งที่เกมเสริมนี้ทำได้ดีกว่า คือการที่ไม่ได้เป็นแค่เกม ที่แก้ไขข้อบกพร่องเดิมที่เกมภาคเก่ามี (3 กันยายน 2025) [1]
แต่ยังมีการเพิ่มมิติใหม่ ๆ ด้วยเนื้อหาพิเศษ อย่าง Distortion World และระบบการเล่นที่ถูกปรับให้สมดุลกว่าเข้าไป จนทำให้การเล่นเหล่านี้ ทำให้เกมภาคนี้ ถูกจัดอันดับให้ติด Top 20 ของเกมขายดีตลอดกาล ที่ใช้เล่นบนเครื่องเกมนินเท็นโด DS
Pokemon Platinum เกมภาคเสริมของเจเนอเรชัน 4 ของแฟรนไชส์โปเกมอน ถูกพัฒนาขึ้นหลังจากเกมภาคหลัก เปิดตัวได้เพียง 2 ปี โดยเป้าหมายหลักในการสร้างเกม คือการขยายขอบเขตของเจน 4 ให้สมบูรณ์ขึ้น ไม่ใช่แค่การทำให้กลายเป็นเกม ภาคแก้ไขข้อบกพร่องที่มี (7 กันยายน 2025) [2]
โดยเกมนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่ทางบริษัท Game Freak เลือกสร้างพื้นที่การเล่นใหม่ อย่างระบบ Distortion World ซึ่งแตกต่างจากโลกโปเกมอนที่ผู้เล่นเคยสัมผัสมา โดยสิ้นเชิง ทำให้เกมโปเกมอนภาคแพลตตินัม ถูกยกให้เป็นเกมเวอร์ชันปรับปรุง ที่มีเนื้อหาลึกกว่าเกมภาคหลัก
แม้ตัวเกมจะขายได้ราว ๆ 7.6 ล้านชุด แต่หากมองในบริบทแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จสูงมาก เพราะภาคนี้ คือภาคเสริมที่ทำยอดขายได้มากกว่าเกมภาคหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน และยังครองสัดส่วนราว 4 ถึง 5% ของยอดขายรวมทั้งหมด บน Nintendo DS ที่มีเกมขายรวมมากกว่า 150 ล้านชุด
แม้เกมโปเกมอน แพลตตินัม จะพาผู้เล่นกลับมาที่ภูมิภาค Sinnoh แต่รายละเอียดภายในเกม ถูกปรับขยายให้มีความหลากหลายขึ้น แบบเห็นได้ชัด เช่นการเพิ่มมอนสเตอร์ที่มีในเกม จาก 151 ให้มีมากกว่า 200 ตัว ทำให้ผู้เล่นสามารถพบเจอโปเกมอนได้หลากหลายยิ่งขึ้น (2025) [3]
นอกจากนี้ ยังปรับระบบการต่อสู้ให้เร็วขึ้น ด้วยการลดเวลาการโหลด และการเคลื่อนไหวที่เคยเป็นจุดอ่อน ของเกมภาคก่อน ทำให้เกมเพลย์โดยรวมลื่นไหลขึ้นกว่าเดิม ส่วนที่ทำให้เกมภาคนี้ แตกต่างออกไปจากเกมภาคหลักอย่างแท้จริง คือการเพิ่ม DistortionWorld พื้นที่พิเศษที่ท้าทายยิ่งขึ้น
โดยผู้เล่นต้องเดินบนผนัง และแก้ปริศนาในสภาพแวดล้อมเหนือความเป็นจริง ซึ่งเป็นการทดลองเชิงการออกแบบ ที่ไม่เคยมีในเกมภาคก่อนหน้าเลย นอกจากนี้ ยังเพิ่ม Battle Frontier ที่ให้ผู้เล่นทดสอบกลยุทธ์ต่อสู้ ได้ยาวนานขึ้น หลังจบเนื้อเรื่องของตัวเกม
สิ่งที่ทำให้เกมโปเกมอนภาคเสริมภาคนี้ ถูกจดจำ คือการเป็นเกมที่นำข้อผิดพลาดจากเกมภาคก่อน มาขัดเกลาใหม่ ให้กลายเป็นเกมเวอร์ชันเสริมที่สมบูรณ์กว่า และเป็นการเปิดประตูใหม่ของเกมเจน 4 อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการสร้างโลกเหนือความจริง และการปรับสมดุลระบบเล่นให้ลงตัวขึ้น
สิ่งที่ทำให้เกมภาคแพลตตินัม ต่างจากทุกภาคก่อนหน้า คือการเปิดตัว DistortionWorld พื้นที่เหนือความจริงที่ไม่มีแรงโน้ม ผู้เล่นต้องเดินบนกำแพง เพื่อแก้ปริศนา และต่อสู้ในบรรยากาศที่มีความบิดเบี้ยว การออกแบบนี้ ถือเป็นการทดลองเกมเพลย์
ที่ทางผู้สร้างเกมไม่เคยทำมาก่อน ในเกมหลัก ทำให้เกมภาคนี้ ได้รับการจดจำในฐานะเกมภาคที่กล้าท้าทายสูตรการเล่นเกม ที่อยู่แบบเดิม ๆ ให้กลายเป็นระบบการเล่นเกมใหม่ ที่ผู้เล่นยังคงชื่นชอบได้สำเร็จ
นอกจากนี้ เกมโปเกมอนแพลตตินัม ยังขยายความท้าทายหลังจบเนื้อเรื่อง ด้วยการเพิ่ม BattleFrontier เข้าไป ระบบเหล่านี้ ทำให้ผู้เล่นสามารถทดสอบทีม กับกลยุทธ์การต่อสู้ได้ต่อเนื่อง โดยไม่รู้สึกว่าถ้าหากเล่นจบเกมแล้ว เกมจะไม่มีความสนุกอะไรให้เล่นต่อเพิ่มเติม
แม้เกมภาคเสริม ของภาคหลักในเจนที่ 4 นี้ จะใช้ภูมิภาค Sinnoh เดียวกัน แต่รายละเอียดหลายอย่างถูกปรับปรุงใหม่ให้มีความสด และสมดุลมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในแต่ละภูมิภาคจะมีการเพิ่มมอนสเตอร์จาก 151 ตัว เป็น 200 ตัว ช่วยให้สามารถเข้าถึงโปเกมอนหลากหลายชนิดได้ ตั้งแต่ช่วงต้นเกม
โดยไม่ต้องรอหลังจบเรื่องหลัก เหมือนในเกมภาคก่อน การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ นี้ ทำให้เส้นทางการเล่นมีความสมดุล กับเป็นมิตรกับผู้เล่นมากขึ้น และความแตกต่างที่สำคัญอีก 1 สิ่ง คือการเล่าเรื่องในตัวเกม เกมภาคนี้ทีม Galactic จะมีบทบาทเด่นมากขึ้น และ Giratina จะกลายเป็นตัวดำเนินเรื่องราวหลัก
ต่างจากเกมภาคหลัก ที่โฟกัสไปที่ Dialga และ Palkia นอกจากนี้ เกมยังปรับความเร็ว และการโหลดในระบบต่อสู้ให้เร็วขึ้น จนทำให้เกมภาคแพลตตินัม กลายเป็นเกมภาคที่สมบูรณ์แบบกว่า ในสายตาของแฟน ๆ เกมซีรีส์นี้หลายคน
เกมโปเกมอนแพลตตินัม คือเกมที่สร้างหลักฐานว่าการเป็นเกมภาคเสริม ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นเกมที่มีบทบาทเด่นกว่าได้ ด้วยการขยายขอบเขตเรื่องราว และระบบการเล่นให้เข้มข้นขึ้น กว่าภาคหลัก การปรับสมดุล ความเร็ว และการออกแบบพื้นที่ใหม่นี้ ทำให้เกมนี้ยังถูกพูดถึง แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 15 ปี
เกมโปเกมอนภาคนี้ เหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการความท้าทายแบบยาว ๆ โดยผู้เล่นที่สนใจการวางกลยุทธ์ระยะยาว จะได้สนุก กับ BattleFrontier เป็นโหมดขยายเกม หลังจากจบเนื้อเรื่องหลัก และเหมาะกับแฟนเกมที่อยากสัมผัสบรรยากาศแปลกใหม่ ที่สมบูรณ์กว่าเกมภาคหลัก
เกมภาคนี้ อาจไม่เหมาะกับคนที่มองหาเกมที่เล่นไม่ยาก และไม่ต้องใช้เวลาเล่นนาน เพราะเกมภาคแพลตตินัม ออกแบบมาเพื่อเน้นความท้าทาย กับการต้องลงทุนเรื่องเวลาในการเล่น อย่างจริงจัง ผู้ที่ไม่สนใจระบบแข่งขัน เช่น BattleFrontier อาจรู้สึกว่าเกมไม่มีความแตกต่าง จากภาคหลักมากพอ