
รีวิว Pokemon เอ็กซ์วาย เกมแรกยุค 3D ในเจเนอเรชันที่ 6
- Good Day's
- 46 views
รีวิว Pokemon เอ็กซ์วาย ก่อนปี 2013 ภาพของโปเกมอนในสายตาผู้เล่น คือโลกแบบ 2D ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสไปรต์เล็ก ๆ เหมือนกับเกมในบทความ รีวิวโปเกมอน แบล็ค 2 ที่เปิดให้เล่นเมื่อปี 2009 แต่การมาถึงของเกมภาคนี้ ได้เปลี่ยนความรับรู้นี้ไปทั้งหมด เพราะทุกสิ่งถูกยกเครื่องใหม่ ในรูปแบบ 3D
หากเกมโปเกมอน ภาค Black 2 เคยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าโลกของเกมโปเกมอน ในแฟรนไชส์นี้ สามารถเล่าเรื่องราวต่อได้ เกมภาค X Y ก็คือการประกาศว่าโลกเกมแฟรนไชส์โปเกมอนนี้ ก็พร้อมจะรีเซ็ตภาพลักษณ์ ของตัวเองใหม่ทั้งหมดได้เหมือนกัน (7 กันยายน 2025) [1]
โดยเป็นการขยับเข้าสู่ยุคเครื่องเล่นเกม 3DS แบบเต็มตัว ไม่เพียงแค่เปลี่ยนงานภาพของเกม แต่ทีมงานผู้ผลิตเกมยังได้มีการสร้างกติกาการเล่นใหม่ กับได้ทดลองระบบการเล่น ที่ไม่เคยมีมาก่อน ขึ้นมาให้ได้เล่น
การพัฒนาเกม Pokemon ภาค XY ที่เปิดตัวให้เล่น วันที่ 12 ตุลาคม ปี 2013 ถือเป็นการก้าวที่เสี่ยงที่สุด ของ GameFreak ในการสร้างเกมเจเนอเรชันใหม่ขึ้นมา เพราะนี่คือภาคแรกที่ต้องย้ายระบบ จากเกมที่ต้องใช้เล่นบนเครื่องเล่นเกม Nintendo DS มาสู่เครื่องเล่นเกม Nintendo 3DS (27 กันยายน 2025) [2]
และต้องเปลี่ยนภาพของเกมทั้งหมด จากภาพกราฟิก 2D Sprite Based ที่ใช้มากว่า 15 ปี มาเป็นการเรนเดอร์ภาพกราฟิก แบบ 3D เต็มรูปแบบแทน ซึ่งหมายถึงการสร้างโมเดลใหม่ ให้โปเกมอนทุกตัว กว่า 700 สายพันธุ์ ไม่ใช่เพียงการอัปสเกลกราฟิก เหมือนที่ผ่านมา
ความเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้ภาคนี้ กลายเป็นเกมที่ใช้เวลาพัฒนา กับลงทุนด้านกราฟิกสูงสุด ในประวัติศาสตร์เกมในแฟรนไชส์ และทีมงานยอมรับภายหลัง ว่าเป็นการทดลองที่ยากกว่าที่คิดเกือบ 80% ของทรัพยากร ที่ถูกทุ่มไปกับการสร้างโมเดลโปเกมอนใหม่ และการสร้างแอนิเมชันใหม่ ทั้งหมด
แม้เกม Pokemon ภาค X & Y ที่เปิดให้เล่นปี 2013 จะมีการพลิกโฉมในด้านกราฟิก กับการเปิดตัวระบบใหม่ แต่แกนกลางหลักของการเล่นเกม ยังคงยึดตามสูตรดั้งเดิมของเกมในซีรีส์โปเกมอน คือการออกเดินทาง, จับโปเกมอน, ฝึกฝนโปเกมอน และต่อสู้กับยิมต่าง ๆ เพื่อมุ่งสู่การเป็นแชมป์ (2025) [3]
ความต่อเนื่องนี้ ทำให้แฟนเกมที่เคยเล่นเกมภาคก่อน รู้สึกคุ้นเคยและไม่หลงทางกับระบบการเล่นใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน การเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ เข้าไป เช่น Character Customization กับระบบออนไลน์ ก็ทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่ มีเหตุผลมากพอที่จะเข้ามาลองสัมผัสเกมนี้ โดยไม่รู้สึกว่าถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
แม้ในสมัยนั้น ระบบออนไลน์ ยังไม่ใช่แกนหลักของเกม แต่การที่มีผู้เล่นเลือกใช้ฟังก์ชันนี้ต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าระบบใหม่ ไม่ใช่ฟีเจอร์เสริมธรรมดา แต่เป็นการทดลองที่ปูทางสู่อนาคต ของระบบมัลติเพลเยอร์ ในซีรีส์เกมแฟรนไชส์โปเกมอน
สิ่งใดที่ทำให้เกมโปเกมอน ภาคเอ็กซ์แอนด์วาย โดดเด่นต่างจากเกมในแฟรนไชส์ภาคก่อน ๆ เพราะเกมภาคนี้ เลือกจะสร้างโลกใหม่ ที่ข้ามเส้นเรื่องราวเดิม ๆ ไปทั้งหมด และเป็นเกมที่ถูกยกระดับใหม่ ให้กลายเป็นเกมต้นตำรับที่เกมภาคต่อ ๆ ไป ในแฟรนไชส์เกมโปเกมอน นำไปพัฒนาต่อ
สิ่งที่ทำให้เกม ภาคเอ็กซ์วาย กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของใครหลายคน คือการนำเสนอโปเกมอน ประเภทนางฟ้าออกมาเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ การเพิ่มสายพันธุ์นี้ ไม่ใช่การเสริมสีสันเฉย ๆ แต่คือการแก้สมดุลการต่อสู้ที่เคยบิดเบี้ยว
จากความแข็งแกร่ง ของโปเกมอน ประเภทมังกร ผลลัพธ์คือการสร้างความยุติธรรมใหม่ ให้กับระบบการเล่น ที่แฟนเกมเห็นตรงกัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้การแข่งขัน กับการสร้างทีมมีความหลากหลายมากขึ้น และอีกจุดเด่นสำคัญ คือ Mega Evolution
เป็นฟีเจอร์ที่จะพลิกการต่อสู้ ในแบบที่ไม่มีภาคไหนทำได้มาก่อน รวมถึงการยกระดับภาพกราฟิก 3D ที่ทำให้โปเกมอน มีภาพเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนกับว่ามีชีวิตอยู่จริง เป็นครั้งแรก ยิ่งตอกย้ำว่าภาคนี้ คือจุดเปลี่ยนที่แฟนเกมแฟรนไชส์นี้ ไม่อาจมองข้าม
เกมโปเกมอน ภาคนี้ ทีมพัฒนาเลือกเส้นทางตรงข้าม โดยสิ้นเชิง คือการเริ่มใหม่ บนแพลตฟอร์มเครื่องเล่นเกมใหม่ โดยตัวเกมจะปรับเปลี่ยนไปทุกอย่าง ตั้งแต่โมเดลโปเกมอน ไปจนถึงการจัดวางภูมิภาคที่ให้ผู้เล่นได้เล่น พร้อมกับถูกสร้างขึ้นมา
เพื่อประกาศว่านี่คือโปเกมอนยุค 3D อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการอัปเกรดกราฟิกเล็กน้อย เหมือนที่เคยทำมาก่อนเกมภาคเสริมก่อน ๆ การข้ามจากเครื่องเล่นเกม DS ไปสู่เครื่องเล่นเกม 3DS จึงเปรียบเสมือนการเปิดประตูเข้าสู่โลกอีกใบ
และความต่างอีกจุดที่เด่นชัด คือกลยุทธ์การวางจำหน่ายพร้อมกัน ทั่วโลก เป็นครั้งแรกของการเปิดตัวเกม ที่มักเปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่นก่อนเสมอ ก่อนจะทยอยเข้าสู่ตลาดเกม ในประเทศอื่น ๆ ต่อ
เกมโปเกมอน ภาค X&Y อาจไม่ใช่เกมเริ่มต้นเจเนอเรชันใหม่ที่โดดเด่นที่สุด ในด้านเนื้อเรื่อง หรือความท้าทาย แต่กลับเป็นเกมที่มีคุณค่าในตัวของตัวเอง อย่างการกล้าพลิกหน้าประวัติศาสตร์ ของเกมทั้งหมดในแฟรนไชส์นี้ เช่นการเปิดตัวประเภทของโปเกมอนใหม่ ๆ ออกมาให้ได้พบเจอ
เกมภาคเอ็กซ์วาย เหมาะกับผู้เล่นที่อยากสัมผัสการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งในแง่ภาพกราฟิก 3D เต็มรูปแบบ กับอยากลองเล่นระบบใหม่ ๆ อย่าง Mega Evolution ที่พลิกสมดุลการต่อสู้ต่าง ๆ ในเกมให้เปลี่ยนไปจากเดิม และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนเกมรุ่นเก่า ที่ติดตามเกมตามมา ตั้งแต่ยุคเกม 2D
เกมโปเกมอนภาคนี้ อาจไม่เหมาะกับผู้ที่คาดหวังความเข้มข้น ในเนื้อเรื่องแบบเกมภาคก่อน เพราะเกมภาค XY เน้นการเปิดโลกใหม่ มากกว่าการเล่าต่อ อีกทั้งยังขึ้นชื่อว่ามีความยากต่ำ กว่าเกมภาคก่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้เล่นสายฮาร์ดคอร์ บางส่วนวิจารณ์ว่าเกมเล่นง่ายเกินไป