
รีวิว Pokemon เล็ทส์โกปิกาจู กับอีวุย 2018 เกมรีเมคภาคเยลโล่
- Good Day's
- 37 views
รีวิว Pokemon เล็ทส์โกปิกาจู และอีวุย ที่เปิดตัวให้เล่นในปี 2018 เกมที่ไม่ได้เป็นเพียงการรีเมค เกมภาค Yellow จากบทความ รีวิว Pokemon เยลโล่สเพชเชิล ปี 1998 แต่เป็นการปรับโครงสร้างใหม่ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการเล่นเกม ก็สามารถทำให้ผู้เล่นเข้าใจง่ายขึ้น โดยไม่ทำให้เสน่ห์เก่า ๆ หายไปได้
เกม Pokemon ภาคเล็ทส์โกปิกาจู ไม่ได้สร้างขึ้นมาให้เป็นภาคใหม่แบบเต็มตัว แต่เป็นการทดลองของผู้พัฒนาเกม จากแฟรนไชส์โปเกมอน ว่าซีรีส์โปเกมอน จะสามารถก้าวออกจากระบบการเล่นแบบเดิม ๆ ได้ หรือไม่ ด้วยการนำเอาภูมิภาค Kanto ที่ผู้เล่นคุ้นเคย นำกลับมาสร้างใหม่ (7 กันยายน 2025) [1]
บริษัทผู้ผลิตเกม อย่าง Game Freak ได้มีการตัดสินใจเปลี่ยนระบบการเล่นเกมโปเกมอน ครั้งใหญ่ ด้วยการสร้างเกมโปเกมอน ภาคเล็ทส์โกปิกาจูออกมา บน Nintendo Switch ในฐานะเกมหลักภาคแรก บนเครื่องเล่นเกมคอนโซลบ้าน โดยการนำเอาเกมคลาสสิก อย่าง Pokemon Yellow นำกลับมารีเมค
เพราะเป็นเกมภาคที่มีเอกลักษณ์ และเป็นที่รักของแฟนเกมรุ่นเก่า การหยิบเนื้อต่าง ๆ ของเกมภาค Yellow กลับมาเล่าใหม่ ในรูปแบบ 3D ที่เปิดตัวให้เล่น วันที่ 16 พฤศจิกายน ปี 2018 คือการวางสะพานเชื่อมระหว่างแฟนเกมที่เติบโตมา กับเกมโปเกมอน เข้ากับแฟนเกมรุ่นใหม่ (18 กันยายน 2025) [2]
จุดนี้สะท้อนให้เห็นถึงเจตนาของทีมพัฒนา ที่ไม่ได้ต้องการเพียงสร้างเกมภาคใหม่ แต่ต้องการทดสอบว่าเกมโปเกมอน ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับผู้เล่น ทุกยุคสมัยได้
เกมโปเกมอน ภาคเล็ทส์โกปิกาจู เป็นเกมที่นำเอาโครงเรื่องหลัก ในเกมภาคเยลโล่ ที่เปิดตัวให้เล่นไป เมื่อวันที่ 12 กันยายน ปี 1998 นำกลับมาพัฒนาใหม่ อย่างเช่น การนำภูมิภาค Kanto มาปรับปรุงให้ดูสมบูรณ์แบบขึ้นกว่าเดิม และการมีข้อจำกัด เกี่ยวกับโปเกมอน ที่สามารถครอบครองได้แค่ 151 ตัว
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือวิธีการเล่นในเกม โดยเกมใหม่นี้ แทนที่ระบบการต่อสู้ กับโปเกมอนแบบเดิม ด้วยระบบการจับโปเกมอน ซึ่งผู้เล่นต้องใช้การขว้าง Poke Ball เพื่อจับโปเกมอนแทน ทำให้เกมเน้นเรื่องการเข้าถึง มากกว่าความท้าทาย ที่ต้องใช้กลยุทธ์ในการเล่น เหมือนเกมภาคอื่น ๆ (2025) [3]
วิธีนี้ช่วยลดความซับซ้อน ของเนื้อหาในตัวเกมลง และผู้เล่นหน้าใหม่ สามารถเริ่มเล่นได้ทันที โดยไม่ต้องเรียนรู้ระบบต่อสู้มากมายก่อน จากผลสำรวจแฟนเกม พบว่าเกิน 50% ของผู้เล่นใหม่ มองว่าระบบจับแบบนี้ ทำให้เกมสนุกขึ้น และง่ายต่อการเข้าถึง
เมื่อเข้าใจแล้วว่าเกมภาคนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างแฟนเกมรุ่นเก่า กับผู้เล่นรุ่นใหม่ คำถามต่อไป คือแล้วอะไรเป็นจุดแข็ง ที่ทำให้เกมนี้ สามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง และสิ่งใดที่ทำให้เกมภาคนี้ แตกต่างจากภาคก่อนหน้า
1 ในจุดเด่นที่ทำให้เกมภาคเล็ทส์โกปิกาจู แตกต่างออกไป คือการนำภูมิภาคคันโต นำกลับมาถ่ายทอดใหม่ ในรูปแบบภาพ 3D ที่สดใส และเป็นมิตร โดยภาพกับแอนิเมชันในเกม ถูกออกแบบให้ดูอบอุ่น กว่าเกมภาคหลักก่อนหน้า ทำให้เกมนี้ ถูกยกให้เป็นเกมโปเกมอนแบบครอบครัว
ที่ใครก็สามารถเริ่มต้นเล่นได้ทันที โดยเฉพาะการมีคู่หู อย่าง Pikachu หรือ Eevee ที่แสดงอารมณ์ และโต้ตอบกับผู้เล่นได้ ตลอดการผจญภัย จุดนี้ กลายเป็นเสน่ห์ที่แฟนเกมกว่า 68% ในผลโพลแฟนดอม จากปี 2018 ยกให้เป็นความพิเศษที่เกมภาคอื่นไม่มี
และอีก 1 จุดแข็งคือการเชื่อมต่อกับ Pokemon GO ที่ทำให้ผู้เล่นที่เล่นบนมือถือ สามารถส่งโปเกมอนเข้าสู่เกม บนเครื่องเล่นเกม Switch ได้ ฟีเจอร์นี้ ไม่เพียงดึงผู้เล่นใหม่เข้ามา แต่ยังสร้างความรู้สึกว่าเกมนี้ เป็นสะพานเชื่อมระหว่างแพลตฟอร์มมือถือ กับเครื่องเล่นเกมคอนโซลบ้านเข้าด้วยกัน
เมื่อเทียบกับเกมภาคที่นำมารีเมค หรือเทียบกับเกมภาคที่เปิดตัวให้เล่นก่อนหน้า อย่างเกม Ultra Sun & Moon ปี 2017 เกมทั้งหมด ยังคงโครงสร้างเกมแนว RPG ที่เหมือนกัน แต่เกมภาคเล็ทส์โกปิกาจูนี้ เลือกรีเซ็ตระบบการเล่นเกม ให้เรียบง่ายลง ด้วยการตัดระบบต่อสู้ กับโปเกมอนออกไป
และแทนที่ด้วยการจับโปเกมอนแทน ทั้งหมด เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของเกมแฟรนไชส์โปเกมอน ส่งผลให้จังหวะการเล่นเกมต่าง ๆ เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งผู้เล่นไม่ต้องใช้กลยุทธ์ในการต่อสู้ที่ซับซ้อน แต่เน้นความแม่นยำ กับความสนุก ในการขว้างลูกบอลแทน
แม้เกมโปเกมอน ภาคเล็ทส์โกปิกาจูกับอีวุย จะถูกวิจารณ์ว่าเป็นเกมที่มีเนื้อหา หรือมีการเล่าเรื่องราวในเกมที่ดูเบาเกินไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมภาคนี้ ประสบความสำเร็จ ในการทำหน้าที่นำภาพจำ ของภูมิภาค Kanto ในเวอร์ชันดั้งเดิม นำมาปรับปรุงใหม่ให้สวยงามกว่าเดิม
เกมโปเกมอน ภาคนี้ เหมาะกับผู้เล่นหน้าใหม่ ที่อยากเริ่มเล่นเกมแฟรนไชส์โปเกมอน โดยไม่ต้องเจอกับระบบการเล่นที่ดูซับซ้อน รวมถึงเหมาะกับผู้เล่นที่คุ้นเคย กับการเล่นเกมแนวการจับ PokemonGO มาก่อน เพราะการนำเสนอเนื้อหาต่าง ๆ ของเกมภาคนี้ ถูกถ่ายทอดใหม่ ในรูปแบบ 3D ที่ดูสดใส
เกมโปเกมอนภาคนี้ อาจไม่เหมาะกับแฟนเกมที่ชื่นชอบการเล่นเกม แบบต้องใช้กลยุทธ์ในการเล่น เช่นการเพาะพันธุ์ หรือการวางแผนการต่อสู้ กับโปเกมอนตัวอื่น ๆ เพราะเกมภาคเล็ทส์โกปิกาจู เลือกตัดระบบการต่อสู้ กับโปเกมอนออกไป ทั้งหมด เพราะต้องการให้เกมเข้าถึงง่าย สำหรับทุกวัย