
รีวิวเกม Yoshi 1991 ซีรีส์เกมมาริโอ ของทีมงาน Game Freak
- Good Day's
- 104 views
รีวิวเกม Yoshi 1991 หากพูดถึงเกมปริศนายุค 90 หลายคนคงนึกถึง Tetris หรือซีรีส์เกม Dr Mario ในบทความ รีวิวเกม DrMario World ก่อนหน้านี้ แต่ยังขาดไปอีก 1 เกมที่ถูกมองข้ามไป คือเกมโยชิภาคนี้ ที่เป็นต้นแบบของเกม Pokemon ในเวลาต่อมา ด้วยการใช้ทีมงานผู้ผลิตทีมเดียวกัน
สิ่งที่ทำให้เกมโยชิ จากแฟรนไชส์มาริโอนี้ ยังคงน่าสนใจอยู่จนถึงปัจจุบัน คือวิธีที่การจัดการกับกลไก และการนำเสนอเนื้อหาต่าง ๆ ภายในเกม เพราะไม่เพียงแค่มีวิธีการเล่นที่เข้าใจง่าย และเข้าถึงผู้เล่นทุกวัย แต่ยังซ่อนลูกเล่น ที่ทำให้แต่ละการตัดสินใจ ดูมีน้ำหนักมากขึ้น (25 สิงหาคม 2025) [1]
พร้อมทั้งใส่โหมด และรายละเอียดที่แตกต่างกันเข้าไป ในแต่ละแพลตฟอร์มการเล่น ซึ่งการมองลึกไปใน 2 ประเด็นนี้ จึงอาจช่วยอธิบายได้ชัดเจนว่า ทำไมเกมที่ดูมีการเล่นที่ง่าย ในตอนแรก ถึงมีคุณค่ามากกว่าที่ตาเห็น ในปัจจุบัน
การเล่นเกมไข่ปริศนา Yoshi ที่เปิดตัวให้เล่นตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม ปี 1991 คือการออกแบบเกมปริศนาให้ง่าย ต่อการเข้าถึง แต่ซ่อนความเสี่ยงกับซ่อนผลตอบแทนต่าง ๆ ในเกมไว้ในกลไกไข่ของโยชิ โดยผู้เล่นมีหน้าที่ควบคุมมาริโอ เพื่อรับบล็อกที่ตกลงมา (25 สิงหาคม 2025) [2]
การจับคู่บล็อกศัตรูชนิดเดียวกัน จะสามารถเคลียร์พื้นที่ในเกมได้ และจะทำให้ได้คะแนนทันที แต่หากจับคู่ครึ่งบน และครึ่งล่างของไข่โยชิเข้าด้วยกัน จะทำให้ผู้เล่นจะได้โบนัสพิเศษ เพิ่มเติม และยิ่งไข่ของโยชิใหญ่เท่าไหร่ คะแนนที่ได้รับ ก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นตามขนาดของไข่ที่กำจัด
กลไกการเล่นแบบนี้ จึงสร้างสมดุลระหว่างการเล่นที่อยู่ในโซนปลอดภัย หากเล่นแบบปกติ กับโซนความเสี่ยง ที่ต้องทำเพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่า เช่นผู้เล่นอาจเลือกเคลียร์บล็อกธรรมดา เพื่ออยู่รอด หรือเสี่ยงเก็บไข่โยชิที่มีการคูณคะแนนเพิ่มได้เอง
แม้เกมโยชิ จากปี 1991 จะเป็นเกมปริศนาขนาดเล็ก แต่การนำเสนอถูกออกแบบให้มีโหมด กับคอนเทนต์ที่หลากหลาย กำหนดให้การเล่นเกม จะต้องเคลียร์บล็อกทั้งหมด ในแต่ละด่านให้ได้ ทำให้ผู้เล่น มีทางเลือกแบบทั้งเล่นไปเรื่อย ๆ หรือเล่นแบบเพิ่มโจทย์ท้าทายให้กับตัวเอง (24 มิถุนายน 2025) [3]
นอกจากนี้ เกมยังมีโหมดผู้เล่น 2 คนที่ให้ตัวละครลุยจิ เป็นอีกหนึ่งตัวละคร ที่สามารถลงแข่งพร้อมกัน ในสนามแยกได้ หากใครชนะ 3 แมตช์ก่อน จะเป็นผู้ชนะทันที ความต่างนี้ เผยให้เห็นถึงการปรับสมดุลเกม ให้เหมาะกับการเล่นในแต่ละแพลตฟอร์ม
แม้จำนวนด่าน หรือคอนเทนต์จะมีไม่มาก แต่ด้วยโหมดที่ออกแบบมาหลายแบบ ทำให้เกมยังคงมีความยืดหยุ่น ทั้งการเข้าเล่นเพื่อทำคะแนน หรือเข้าเล่นเพื่อแข่งกับเพื่อน หรือเพิ่มความท้าทายสำหรับการเล่นให้กับตัวเอง เช่นการเพิ่มความเร็ว ของการจบรอบเกม ในแต่ละด่าน
เกมโยชิ ภาคนี้ ไม่ได้เป็นเพียงปริศนาขนาดเล็ก ที่นำเอามาริโอมาเป็นจุดขาย แต่ยังเป็นเกมที่ผู้พัฒนา ต้องการสร้างเกมเล็ก ๆ ในเวลาจำกัด เพื่อปูทางสู่โปรเจกต์ใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น ในอนาคต เหมือนกับการพัฒนาเกมภาคต่อ ของเกมซีรีส์ Dr Mario ภาคล่าสุด ที่เปิดตัวให้เล่นไป ในปี 2019 ที่ผ่านมา
เกมภาคนี้ คือผลงานความร่วมมือครั้งแรก ระหว่าง Game Freak และ Nintendo ก่อนที่ชื่อทีมพัฒนาเล็ก ๆ นี้ จะกลายเป็นผู้สร้างซีรีส์ Pokemon ที่โด่งดังในภายหลัง เกมถูกพัฒนาขึ้นในเวลาเพียง 6 เดือน โดยมี Satoshi Tajiri เป็นผู้กำกับการสร้างเกม
โดยเกมเล็ก ๆ อย่างเกมโยชิ ไม่ได้เป็นแค่เกมปริศนา เหมือนเกมทั่วไป แต่เป็นเกมที่ทดสอบระบบการเล่น ที่ทีมงานยุคแรกของบริษัทนินเท็นโด ที่มองโปรเจกต์นี้เอาไว้ เพื่อช่วยทีมงานของเขาให้มีทุนสร้างเกม และได้มีโอกาสพัฒนาเกมผลงานขนาดใหญ่ ต่อไป
ซึ่งการใช้ชื่อโยชิ กับมาริโอเป็นตัวชูโรง ถือว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยการันตียอดขายของเกม โดยวันแรกที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่น เกมทำยอดไปกว่า 500,000 ชุด ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จมาก ในยุคนั้น
สิ่งที่ทำให้เกมโยชิภาคนี้ มีเอกลักษณ์มากขึ้น คือการถูกวางจำหน่ายพร้อมกัน บนเครื่องเล่นเกม NES และเครื่องเล่น GameBoy โดยแต่ละเวอร์ชัน จะถูกปรับเพื่อให้เหมาะกับเครื่องเกมที่เล่น โดยในเวอร์ชัน NES ด่านในเกม จะสามารถรองรับกองบล็อกได้ สูงสุด 8 ชิ้น ต่อ 1 คอลัมน์ พร้อมภาพกราฟิกสีสัน
และเอฟเฟกต์เสียงที่ดึงดูด แต่หากเล่นเกมผ่าน GameBoy เกมจะถูกปรับขนาดลง โดยด่านแต่ละด่านที่เล่น สามารถกองบล็อกได้ เพียง 7 ชิ้น เพื่อให้สอดคล้องกับขนาดหน้าจอ และประสิทธิภาพเครื่องเล่นเกม ความต่างนี้อาจดูเล็กน้อย แต่ส่งผลโดยตรงต่อจังหวะการเล่นเกม โดยตรง
รีวิวเกม Yoshi จากปี 1991 เกมที่อาจไม่ใช่เกมปริศนาที่ยืนระยะได้ยาวนาน เหมือนเกมคู่แข่งที่เกิดขึ้นมาในยุคเดียวกัน แต่การเล่นเกมแบบที่มีระบบการเล่นวนซ้ำ และต้องพึ่งพาโชคในการเล่นสูง ที่ต้องกำจัดไข่ของโยชิเพื่อเก็บคะแนน กลับเป็นจุดแข็งสำคัญของการเล่นเกม ที่ไม่มีเกมใด ในแฟรนไชส์เหมือน
ข้อดีเกมโยชิภาคนี้ คือความเรียบง่าย ที่ผู้เล่นสามารถเข้าถึงได้ทุกวัย ระบบการเล่นเกมปริศนา แบบจับคู่บล็อก และการเก็บคะแนนจากไข่ของโยชิ ทำให้เกมนี้ สร้างความแตกต่างจากเกมปริศนา ยุคเดียวกัน และความแตกต่างนี้ ช่วยให้ในอีกเพียง 6 เดือน เกมมียอดขายได้กว่า 500,000 ชุด ในวันแรกที่ญี่ปุ่น
ข้อเสียหลักของเกมโยชิภาคนี้ คือความซ้ำซากและการพึ่งพาโชคในการเล่นสูง เมื่อเล่นไปนาน ๆ ผู้เล่นจะรู้สึกว่ากลยุทธ์มีข้อจำกัดในการใช้ และรูปแบบเกมเพลย์ไม่ลึกพอ สำหรับการเล่นต่อเนื่อง อีกทั้งจำนวนคอนเทนต์ยังน้อยกว่าเกมคู่แข่ง ที่เปิดตัวให้เล่นในยุคเดียวกัน