
รีวิวเกม Pocket มอนสเตอร์บลู 1996 เปิดตัวโปเกมอนสู่โลกกว้าง
- Good Day's
- 74 views
รีวิวเกม Pocket มอนสเตอร์บลู ปี 1996 หลังจากความสำเร็จ ของเกม Pocket Monsters Red&Green ในบทความ รีวิวเกม Pocket เรดแอนด์กรีน ที่เปิดให้เล่น ก่อนหน้าเกมภาคนี้ ทางผู้ผลิตเกมอย่าง Game Freak และ Nintendo ก็ต้องการยกระดับคุณภาพ ของเกมต้นฉบับ ให้สมบูรณ์กว่าเดิม
หลังจากที่เกมภาคก่อน ในแฟรนไชส์โปเกมอน ได้วางรากฐานระบบการเล่นต่าง ๆ ที่แตกต่าง จากเกมในยุคเดียวกันเอาไว้ได้สำเร็จ ทางบริษัทผู้ผลิตก็ต้องการต่อยอดเกมโปเกมอน ให้กลายเป็นเกมที่มีคุณภาพ กับต้องการทำให้เกมขยายฐานเล่นได้กว้างขึ้น ยิ่งกว่าเดิม (7 กันยายน 2025) [1]
ซึ่งไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อแทนที่เกมต้นฉบับ ที่เปิดตัวให้เล่น เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ปี 1996 แต่เพื่อสร้างขึ้นมาให้ยกระดับมาตรฐาน กับปรับรายละเอียดหลายจุด ตามที่แฟนเกมเรียกร้อง จากเกมภาคก่อน
หลังจากตัวเกมโปเกมอนได้รับกระแสตอบรับที่ดี จากการค่อย ๆ เติบโตจากการบอกต่อ โดยเฉพาะเมื่อโปเกมอนลับ อย่างตัวละคร Mew ถูกพูดถึงตามในนิตยสาร ทำให้ยอดขายเกมพุ่งขึ้น อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ผลิตตัดสินใจออกเกมเวอร์ชันใหม่ ในชื่อโปเกมอน Monsters Blue (6 กันยายน 2025) [2]
ซึ่งวางจำหน่ายแบบสั่งซื้อพิเศษ ผ่านนิตยสาร CoroCoro Comic เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 1996 โดยการเติบโตนี้ เผยให้เห็นว่าเกมภาคใหม่ อย่างภาคมอนสเตอร์บลู ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้กลายเป็นภาคใหม่ แต่เป็นเกมเวอร์ชันอัปเกรด เพื่อตอบแทนแฟน ๆ ที่กำลังคลั่งไคล้เกมในซีรีส์
แม้ยอดขายโดยตรง จะไม่สูงเท่าภาคดั้งเดิม โดยอาจเป็นเพราะการจำหน่ายของตัวเกม ถูกจำกัดเอาไว้ในบางประเทศ แต่เกมภาคพัฒนาใหม่นี้ ก็ได้กลายเป็นเกมที่สามารถกวาดยอดขายรวมกว่า 31 ล้านชุดทั่วโลก หรือคิดเป็น 12% ของยอดขายเกมที่ใช้เล่น บนเครื่องเล่น Game Boy ทั้งหมด ในยุคนั้น
เกมภาคนี้ ออกแบบให้เป็นเกมที่แก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่เกมภาคก่อนมี โดยเฉพาะเรื่องภาพ หรือการบั๊กต่าง ๆ ภายในเกม เกมโปเกมอน MonstersBlue ปรับใหม่ให้มีความคมชัด และข้อความในเกม ก็ถูกปรับปรุงให้อ่านง่าย รวมถึงสอดคล้องกับเนื้อหามากขึ้น
ทำให้การเล่นโดยรวม มีความลื่นไหลกว่าเดิม โดยจุดนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทีมงานผู้ผลิต ที่ต้องการยกระดับคุณภาพเกมให้ดีขึ้น แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของเครื่องเล่นเกมบอย ที่มีหน่วยความจำเพียง 8 บิตก็ตาม นอกจากการแก้ไขกราฟิก กับข้อความต่าง ๆ แล้ว
เกมภาคนี้ ยังถูกใช้เป็นฐานการเล่นหลักของเกมในแฟรนไชส์ และวางแผนบุกตลาดโลก อย่างเป็นระบบ ซึ่งผลลัพธ์ คือซีรีส์เกมโปเกมอนสามารถครองตลาดอเมริกา และยุโรปได้ อย่างรวดเร็ว โดยในช่วงปี 1999 เพียงปีเดียว เกมมียอดขายมากกว่า 10 ล้านตลับ
เมื่อเข้าใจแล้วว่าเกมโปเกมอนภาคใหม่นี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อยกระดับมาตรฐานการเล่นเกม กับการแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ จากเกมที่มีให้เล่นก่อนหน้า ภายในหัวข้อถัดไป จะเป็นการพาทำความเข้าใจว่าเกมโปเกมอนภาคนี้ เล่นอย่างไร และแตกต่างจากเกมต้นฉบับเดิมตรงไหน
รูปแบบการเล่น ในเกมโปเกมอน ภาค MonstersBlue เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ ยังคงเป็นเกมแนว RPG ที่ผู้เล่นต้องสวมบทบาทเป็นเทรนเนอร์โปเกมอน เหมือนเดิม โดยการเริ่มต้นการผจญภัยในภูมิภาคที่มีชื่อว่าคันโต ด้วยการเลือกโปเกมอนคู่กาย 1 ตัว ใน 3 ตัวที่สามารถเล่นได้ (2025) [3]
อย่าง Bulbasaur, Charmander กับ Squirtle จากนั้น จุดหมายคือการเดินทางต่อสู้กับโปเกมอนป่า เพื่อเก็บข้อมูล และเอาชนะหัวหน้ายิมให้ครบ ทั้ง 8 คน เพื่อล่าตราประกาศเกียรติคุณ รวมถึงการปรับปรุงใหม่ คือการปรับแต่งให้การเล่นรู้สึกว่ามีระบบที่ลื่นกว่าเดิม กับมีข้อความในเกมที่อ่านง่ายขึ้น
แต่ยังคงหัวใจของเกมไว้ครบ อย่างระบบการแลกเปลี่ยนโปเกมอน ผ่าน Game Boy Link Cable ซึ่งยังคงเป็นเอกลักษณ์ในเกมภาคนี้ โดยโปเกมอนบางชนิด จะปรากฏเฉพาะเวอร์ชันนี้เท่านั้น เช่นตัวละคร Meowth หรือ Vulpix ทำให้ผู้เล่นต้องนำไปแลกเปลี่ยนกับเพื่อน ที่เล่นเกมเวอร์ชันเรดแอนด์กรีน
เกมโปเกมอนมอนสเตอร์บลู เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่อยากสัมผัสเกมเวอร์ชันสมบูรณ์ โดยเฉพาะแฟนพันธุ์แท้ที่เคยผิดหวัง กับภาพกราฟิกในเกม กับอาการบั๊กที่เกิดขึ้นระหว่างการเล่นเกม เกมภาคนี้ถูกปรับให้มีความเสถียรยิ่งกว่า และอาจทำให้ผู้เล่นกลุ่มนี้ ได้เห็นโปเกมอนในภาพลักษณ์ที่คมชัดยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นภาคที่นักสะสมเกมเก่ามักมองหา เพราะการจำหน่ายเพียงแค่ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกมกลายเป็นของหายาก ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ในมุมของผู้เล่นปัจจุบัน เกมโปเกมอนภาคมอนสเตอร์บลู เหมาะกับคนที่อยากศึกษาความเป็นมา ของการวางระบบโครงสร้างเกม ในแฟรนไชส์
หรือเหมาะกับคนที่ต้องการเข้าใจว่าทำไมผู้ผลิต ถึงเลือกเกมเวอร์ชันนี้ เป็นฐานพัฒนาเกม ให้กลายเป็นเกมที่พร้อมก้าวสู่เวทีโลก ในเวลาต่อมา
โปเกมอน ภาคมอนสเตอร์บลู อาจดูเป็นเพียงเวอร์ชันปรับปรุง จากที่พัฒนาต่อจากเกมในแฟรนไชส์โปเกมอน ภาคก่อนหน้า แต่ในความเป็นจริงนั้น เกมภาคนี้ เป็นการขัดเกลาตัวเกมใหม่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อกำจัดปัญหาของผู้เล่นที่พบเจอการบั๊กต่าง ๆ ภายในเกมโปเกมอน ภาคก่อนหน้า
จุดแข็งของเกมภาคนี้ คือการทำหน้าที่เป็นเกมเวอร์ชันปรับปรุงพิเศษ เพื่อให้ตัวเกมสมบูรณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขภาพกราฟิกให้คมชัดขึ้น หรือการปรับข้อความให้เข้าใจง่าย รวมถึงการปรับสมดุลเกม บางส่วน ทำให้การเล่นมีความลื่นไหลยิ่งกว่าเดิม
แม้จะมีการปรับปรุง แต่เกมภาคนี้ ไม่ได้เพิ่มเนื้อหาใหม่เข้ามามากนัก กลไกหลักยังคงเหมือนเกมก่อนหน้า เกือบทั้งหมด ทำให้ผู้เล่นบางคนรู้สึกว่าเป็นเพียงฉบับรีเมคใหม่ ที่มีการแก้ไขเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งการจัดจำหน่าย ยังจำกัดพื้นที่การขาย ทำให้เกมภาคนี้ เป็นเกมที่เข้าถึงยาก สำหรับแฟนเกมทั่วไป