
รีวิวมาริโอ Party 2 อะไรเปลี่ยนไปบ้าง จากเกมภาคแรกที่ผ่านมา
- Good Day's
- 224 views
รีวิวมาริโอ Party 2 แนะนำเกมมาริโอปาร์ตี้ ภาคต่อ ของเกมที่เขียนรีวิวไป ในบทความ รีวิวมาริโอ Party 1998 ก่อนหน้านี้ เกม MarioParty ภาคที่ 2 คือหนึ่งในเกมที่ไม่ได้พลิกสูตร จากภาคแรก แต่ทางบริษัทผู้ผลิต เลือกนำเอาเสียงสะท้อน จากคำติชม นำมาพัฒนาเป็นเกมที่มีจังหวะการเล่นที่ลื่นไหลกว่า
ซีรีส์เกม Mario Party ภาคที่สอง จากแฟรนไชส์มาริโอ เป็นเกมที่สืบสานการเล่นเกม บนกระดานบอร์ดเกม ต่อจากเกมมาริโอปาร์ตี้ ภาคแรก และสิ่งที่แตกต่างออกไป จากผู้พัฒนาเกมของบริษัทนินเท็นโด ภาคก่อนหน้า คือการขัดเกลาเกมขึ้นมาแทน เพื่อให้ผู้เล่น พบเจอกับการเล่นที่ลื่นมากกว่าเดิม [1]
และระบบที่ปรับเปลี่ยนใหม่ต่าง ๆ ของตัวเกม จะช่วยเพิ่มอารมณ์การมีส่วนร่วมให้กับผู้เล่น แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงในภาคนี้ จะไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ทุกอย่างที่เกมภาค 2 ปรับเปลี่ยน จะรู้สึกได้ทันที ตั้งแต่การเล่นเทิร์นแรก
ซีรีส์เกมมาริโอ Party 2 วางจำหน่ายเมื่อปี 1999 ห่างจากการเปิดตัวเกมภาคแรก 1 ปี และสิ่งที่ตัวภาคใหม่นี้เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่กระดานบอร์ดเกม หรือการเพิ่มมินิเกมใหม่ ๆ เข้าไป แนวคิดการพัฒนาเกมมาริโอปาร์ตี้ ภาคสอง ยังคงใช้ทีมผู้ผลิตทีมเดิม ครั้งนี้ ทีมพัฒนาไม่ได้เพิ่มของใหม่เข้าไป อย่างเดียว [2]
แต่เลือกจะปรับสมดุล ของความสนุกให้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่จังหวะของเกม, ความเร็วระหว่างเทิร์นการเล่น จนถึงบรรยากาศต่าง ๆ บนกระดานเกม ทุกอย่างถูกปรับให้รองรับการเล่นร่วมกัน กับเพื่อนได้ไหลลื่นกว่าเดิม สิ่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการฟังเสียงของผู้เล่นจริง จากเกมภาคก่อนหน้า
การใส่ชุดคอสตูมตามธีมกระดาน เช่นคาวบอย, นักบินอวกาศ หรือโจรสลัด เพิ่มเข้าไป คือการเพิ่มบุคลิกของตัวเกม ให้ผู้เล่นรู้สึกว่าไม่ได้แค่หมุนลูกเต๋า แต่รู้สึกเหมือนกำลังเข้าสู่ดินแดนใหม่ ๆ ทุกครั้ง ที่เปลี่ยนกระดานการเล่น
ระบบการเล่น และพื้นฐานต่าง ๆ หลักของเกมมาริโอปาร์ตี้ 2 ยังเหมือนเดิมกับการเล่นเกมภาคแรก อย่างเช่นการทอยลูกเต๋า เพื่อเดินไปช่องต่อไป บนกระดาน หรือเก็บเหรียญ เพื่อนำไปแลกซื้อดาว เป็นต้น แต่สิ่งที่ทำให้ MarioParty 2 มีความโดดเด่นมากกว่าเดิม คือการขัดเกลาการไหลของระบบการเล่น
เช่นการจัดเมนูให้เลือกง่ายขึ้น หรือการทำให้เกมมีความลื่นไหลกว่าเดิม สิ่งเหล่านี้ ถูกปรับเพราะเคยเป็นปัญหา ในเกมภาคแรก การทำให้ผู้เล่นรู้สึกต่อเนื่อง กับจังหวะการเล่น หรือการทำให้ผู้เล่นไม่ต้องรอนาน จุดนี้เอง ทำให้ MarioParty ภาคสอง เปลี่ยนจากเกมที่ต้องพึ่งโชคในการทอยลูกเต๋า เป็นหลัก [3]
กลายเป็นเกมที่เริ่มมีการวางแผน แทรกเข้ามา เพื่อชนะเกม โดยระบบไอเทม ไม่ได้ทำให้เกมซับซ้อน แต่ช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกว่า มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่แค่ยอมรับผลจากการทอยลูกเต๋า เพียงอย่างเดียว เป็นต้น
เกมมาริโอปาร์ตี้ ภาคที่สอง เป็นเกมที่หยิบเสียงสะท้อน จากผู้เล่น และเก็บเอาข้อผิดพลาด นำมาพัฒนาเป็นเกมที่มีมาตรฐานมากกว่าเดิม โดยทุกองค์ประกอบที่ปรับขึ้นมาใหม่ ทำให้ซีรีส์มาริโอปาร์ตี้ ภาคที่ 2 ไม่เสียเอกลักษณ์เดิมไป แต่มีระบบใหม่ ๆ บางอย่างที่แก้ไข จากข้อมูลผิดเข้ามาแทน
จึงทำให้เกมนี้ กลายเป็นเกมการแข่งขันบนสนามเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่ ให้ผู้คนเล่นแสดงฝีมือ และมีความตั้งใจในการเล่นเกม เพื่อชนะคู่แข่งให้ได้มากขึ้น
เกมมาริโอปาร์ตี้ 2 ได้มีการเพิ่มระบบ Battle Minigame เข้าไป เพื่อเป็นการบังคับให้ผู้เล่น ทั้งหมด วางเหรียญลงกลางกระดาน แล้วเข้าไปแข่งขันในมินิเกมพิเศษกัน และหากใครชนะ จะได้รับเงินรางวัลที่วางเอาไว้ทั้งหมด เกมจะพาผู้เล่นเข้าสู่โหมดตึงเครียด โดยอัตโนมัติ
เพราะระบบการเล่นเกม จะให้ความรู้สึกว่าทุกเทิร์น อาจมีด่านที่จะต้องเดิมพันสูงซ่อนอยู่ จากเกมเดิมที่เน้นเสียงหัวเราะ รูปแบบ Battle Game เดิม ที่เคยเล่นในเกมภาคแรก กลับมีการเติมจังหวะที่ผู้เล่น ต้องคิดจริงจังมากขึ้น ในการเล่นเกมภาคที่ 2 สิ่งนี้ คือความเข้มที่แทรกมาในเกม
นอกจากระบบแบทเทิลแล้ว ในโหมด 1 ต่อ 1 ยังมีระบบที่จะเพิ่มมิติใหม่ในการเจอกัน แบบตัวต่อตัว เพื่อชิงไอเทม หรือเหรียญในเกม การวางระบบแบบนี้ จะเปลี่ยนจากเกมปาร์ตี้ที่ต้องพึ่งโชค ให้เป็นเกมที่จะต้องพิสูจน์ฝีมือของตัวเอง
คะแนนของเกมมาริโอปาร์ตี้ ภาคสอง ที่จะนำมาเขียนในหัวข้อนี้ เป็นข้อมูลจากเว็บจัดอันดับ IMDb โดยเป็นเรตติ้งที่เกิดขึ้นมา จากเสียงตอบรับจากผู้เล่น ซึ่งตัวเกมมาริโอ ภาคที่ 2 มีคะแนนเปิดเผยทั้งหมด จำนวน 8 / 10 เรตติ้ง เป็นคะแนนที่ได้รับจากผู้ใช้งานเว็บ 792 คน โดยมีรายละเอียดการลงคะแนน ดังนี้
1 : 1.9% : 15, 2 : 0.4% : 3, 3 : 0.6% : 5, 4 : 0.9% : 7, 5 : 2.5% : 20, 6 : 5.7% : 45, 7 : 16.5% : 131, 8 : 32.4% : 257, 9 : 18.3% : 145 และ 10 : 20.7% : 164 [4]
รีวิวมาริโอ ปาร์ตี้ 2 ซีรีส์เกมน่าเล่นที่ตามเก็บข้อผิดพลาดต่าง ๆ จากเกมภาคก่อนหน้า นำมาปรับปรุงใหม่ ให้กลายเป็นเกมภาคต่อเวอร์ชันที่ดีกว่า ทั้งจังหวะของเกม, ความลื่นต่อการเล่น, การเพิ่มระบบไอเทมใหม่ ๆ เข้าไป และมีมินิเกม ที่ผู้เล่นจะต้องใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจ ให้มากขึ้นกว่าเดิม
ไอเทมในเกม MarioParty ภาคสอง ไม่ได้ทำให้มีเวลาการเล่นที่ยืดออกไป แบบไร้เหตุผล แต่กลับเพิ่มจังหวะให้ผู้เล่น จะต้องคิดก่อนทอยลูกเต๋า ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาคแรกยังขาดไป การพกสิ่งของบางอย่าง จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่ามีสิทธิ์ควบคุมทิศทางเกมได้ ไม่ใช่แค่ปล่อยให้ลูกเต๋า และช่องสุ่ม เป็นตัวตัดสินชะตา
สิ่งที่เกมภาค 2 ทำ ไม่ใช่การเปลี่ยนปรับปรุงเกม แต่เป็นการแก้ให้ทุกอย่างไหลลื่นขึ้น โดยไม่ทำลายเอกลักษณ์เดิม การที่เกมภาคนี้ได้รับคะแนนเรตติ้งสูงขึ้น เห็นชัดว่าเกมฟังเสียงผู้เล่น จากภาคแรก และอาจทำให้เข้าใจว่า การจะต้องมีเกมภาคต่อ ไม่จำเป็นต้องเป็นเกมที่ดีที่สุด แต่ต้องรู้ว่าอะไรควรปรับปรุง