รีวิวมาริโอปาร์ตี้ Island Tour เกมที่แยกผู้เล่น ออกจากกัน
- Good Day's
- 128 views
รีวิวมาริโอปาร์ตี้ Island Tour ปี 2013 มีเกมไม่กี่ซีรีส์ ที่สามารถปลุกเสียงหัวเราะ กับเสียงเฮฮา บนโซฟาได้เท่ากับซีรีส์เกม MarioParty อย่างในบทความ รีวิวมาริโอ Party 10 พาทำความรู้จักซีรีส์เกม ของบริษัทนินเท็นโด ที่ไม่ได้ตั้งใจแค่ให้เล่นชนะ แต่เป็นเกมปาร์ตี้ ที่อยากให้รู้จักคำว่าโดนแกล้ง
แม้เกมภาคทัวร์เกาะ ของแฟรนไชส์ Mario จะยังคงคำว่า Party เหมือนเดิม แต่สิ่งที่เกมภาคนี้ ทำออกมาต่างไปจากภาคก่อน อย่างเกมปาร์ตี้ดีเอส ในบทความ รีวิวมาริโอปาร์ตี้ DS คือการซ่อนแนวคิด ในวิธีเล่น ที่แทบไม่มีใครพูดถึง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้แยกผู้เล่นออกจากสิ่งเดิม ๆ (18 กรกฎาคม 2025) [1]
ด้วยโครงสร้างที่ออกแบบมา เพื่อให้แต่ละคน มีจังหวะของตัวเองมากขึ้น เช่นการเดินทางในเกมแบบแยก เพื่อให้ผู้เล่นแต่ละคนมีจังหวะการเล่นที่รวดเร็วขึ้น หรือการออกแบบโหมดการแข่งขัน แบบเดี่ยว
1 ในการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด ในซีรีส์เกม Mario Party ภาค IslandTour ที่เปิดตัวให้เล่น วันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 2013 คือการออกแบบระบบเดิน ที่ไม่ต้องรอเทิร์นการเล่นของผู้เล่นคนอื่น ทุกคนที่พบเจอกันบนบอร์ดเกมปาร์ตี้ ภาคนี้ สามารถทอยลูกเต๋า และเดินในเทิร์นของตัวเอง (9 มิถุนายน 2025) [2]
โดยไม่ต้องรอให้คนอื่นเล่นจบรอบ ซึ่งเป็นการลดความล่าช้าจากระบบการเล่น แบบดั้งเดิม ในซีรีส์ก่อนหน้า แม้ในเชิงเทคนิคจะช่วยให้เกมเร็วขึ้น และเหมาะกับลักษณะการเล่น บนเครื่องพกพา แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกลับส่งผลต่อบรรยากาศของเกม โดยเฉพาะในสิ่งที่เรียกว่าปาร์ตี้
เพราะการไม่ต้องรอ หมายถึงการไม่ต้องเห็นการกระทำ ของเพื่อนร่วมทีม ผู้เล่นจะไม่ได้มีโอกาสคิด หรือวางแผน รวมถึงไม่สามารถเล่นตามเกมของคนอื่นได้ เกมมาริโอปาร์ตี้ภาคนี้ จึงกลายเป็นเกมที่เหมาะกับคนที่ต้องการเล่นเกมที่มีเส้นทางส่วนตัวมากกว่า ผู้เล่นที่ต้องการเล่นเกมแบบใช้ความร่วมมือ
มาริโอ ภาค IslandTour ออกแบบกระดานแต่ละแบบ ให้มีทางเดินเฉพาะตัว และบางบอร์ดเกม ถึงขั้นเป็นการแข่งขันแบบต้องใช้ Point เป็นการแข่งขันที่ไม่อนุญาตให้ผู้เล่น เข้ามาขัดขวาง หรือไม่สามารถเดินเข้ามาเส้นทางการเดิน ของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นการแย่งช่อง หรือการใช้ไอเทมหยุดคู่แข่ง เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้ ถูกตัดออกไปจากการเล่นแบบเดิม ของเกมมาริโอปาร์ตี้ ในแฟรนไชส์มาริโอ และอาจส่งผลให้เกมในภาคนี้ คล้ายกับการเป็นเกมที่เน้นเล่นคนเดียว มากกว่าเน้นการใช้แผนวางกลยุทธ์ ร่วมกับเพื่อน
เมื่อเกมกระดานบอร์ดเกม ภาค IslandTour จากแฟรนไชส์มาริโอ ถูกออกแบบให้ผู้เล่น ต้องแยกกันเดิน และเส้นชัยของเกม กลายเป็นการเล่นที่มีเป้าหมายแบบเฉพาะตัว สิ่งที่ตามมาคือบรรยากาศของการแข่งขัน ที่อาจทำให้ดูห่างเหินจากสิ่งที่ผู้เล่นคุ้นเคย อย่างเช่น การเล่นเกมปาร์ตี้ เพื่อทำภารกิจกับเพื่อน
และสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมด ที่เป็นผลกระทบตามมา อาจเป็นการยอมแลกสิ่งที่จำเป็นต้องตัดออกไปบางอย่าง เพื่อให้ซีรีส์เกมของแฟรนไชส์ สามารถเดินหน้าได้ต่อไป
การที่บริษัทผู้พัฒนาเกม Hudson Soft ที่พัฒนาเกมมาริโอปาร์ตี้ ร่วมกับบริษัทนินเท็นโด ได้เริ่มทดลองเปลี่ยนโครงสร้างการเล่น แบบดั้งเดิม อย่างที่แฟนเกมเคยเล่น ในเกมปาร์ตี้ ภาคที่ 9 ที่เปิดตัวให้เล่นเมื่อปี 2012 อย่างแนวคิดการรวมกลุ่มในรถคันเดียว ที่ผู้เล่นทั้งหมด จะต้องเดินไปในทิศทางเดียวกัน
มาเป็นการเล่นคนเดียว เพื่อเป้าหมายของตัวเอง แม้การปรับเปลี่ยนการเล่น จะได้รับเสียงตอบรับก้ำกึ่ง แต่เป็นทิศทางใหม่ ของการสร้างเกมจากบริษัท ที่อยากให้เป็นเกมภาคแรกของซีรีส์ ที่ถูกออกแบบเพื่อให้สามารถเล่นได้ บนเครื่องพกพา โดยมีเส้นทางการเล่าเรื่อง และมีวิธีการเล่น เป็นของตัวเอง
สิ่งที่หายไปจากเกมมาริโอปาร์ตี้ ปี 2016 ภาคทัวร์เกาะ ถูกตัดออกไป คือระบบ Turn Based เป็นระบบการเล่นที่ผู้เล่นจะต้องรอฝั่งตรงข้ามเล่นเสร็จก่อน ผู้เล่นถึงจะได้เล่นต่อในเทิร์นของตัวเอง แม้ว่าระบบนี้จะมีระยะเวลาการเล่นที่ยาวนาน แต่ก็ยังคงเป็นระบบการเล่นที่แฟนเกมเดิมยังชื่นชอบ (2025) [3]
แต่สิ่งที่ทดแทนเข้ามา ในเกมมาริโอปาร์ตี้ภาคนี้ คือความสนุกของการทำตามแผนของตัวเอง ที่ไม่อาจมีใครเข้ามาขัดขวาง และเป็นเกมที่มีรอบเล่นจบเร็ว โดยเป็นรูปแบบการเล่น ที่ผู้ผลิตต้องการทำให้เกมที่ใช้เล่น บนเครื่องเล่นเกมพกพาทุกเกม กลายเป็นเกมที่เข้าถึงสะดวก และเล่นแล้วได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
เกมมาริโอ ปาร์ตี้ ภาค IslandTour แนวบอร์ดเกม ที่มีระบบการเล่นแตกต่างจากเกมภาคเดิม ในซีรีส์เกือบทั้งหมด อย่างการปรับให้การเล่นเกม ที่ต้องรอเทิร์นผู้เล่นคนอื่นก่อน ให้กลายเป็นการเล่นคนเดียว ถึงแม้จะเป็นแนวการเล่นใหม่ที่อาจไม่ตอบโจทย์ แต่ก็เป็นระบบที่วางไว้ เผื่อเกมภาคต่อไป ในอนาคต
หากคำว่าปาร์ตี้ของใครหลายคน หมายถึงการช่วยกันทำภารกิจต่าง ๆ หรือการช่วยเหลือกัน หาทางชนะศัตรูในเกม นั่นอาจทำให้ปาร์ตี้ ของเกมมาริโอปาร์ตี้ ภาคทัวร์เกาะนี้ ต่างออกไป เนื่องจากเกมนี้ จะถูกออกแบบมาให้เล่นคนเดียว โดยไม่ใช้ความร่วมมือของเพื่อน แต่จะยังคงความสนุกแบบเกมปาร์ตี้เอาไว้
เสียงจากผู้เล่น อาจสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกที่ก้ำกึ่ง โดยผู้เล่นบางคน อาจรู้สึกว่าตนเอง กำลังเล่นแข่งกับระบบคอมพิวเตอร์ หรืออาจทำให้บางคน รู้สึกว่าเกมนี้ อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการมีทีม สำหรับเล่นเกม และก็ยังมีบางคนบอกว่า เกมนี้ เป็นเกมที่ต้องการทำให้ผู้เล่น เข้าใจภารกิจของตัวเองมากขึ้น
