แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

ยูโด ศิลปะป้องกันตัว กิจกรรมเสริมสร้างความสมดุลให้ร่างกาย

sunflower
12 พ.ค. 25
17:23
206 views

ยูโด ศิลปะป้องกันตัว กีฬาที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกพัฒนามาจากการต่อสู้แบบโบราณ ที่เรียกกันว่า ยิวยิตสู เป็นเทคนิคการต่อสู้ที่เน้นการใช้ทักษะการทุ่มและการล็อกตัวมากกว่าการใช้ความรุนแรงปะทะกันโดยตรง จึงเป็นกีฬาที่ถือว่ามีความปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลทั่วโลก

จุดเริ่มต้นของกีฬายูโด
เทคนิคที่น่ารู้เกี่ยวกับยูโด
กติกาและการแต่งกายพื้นฐานของยูโด

จุดกำเนิดของยูโด

ยูโดเป็นศิลปะการต่อสู้สมัยใหม่ ที่ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1882 โดย ดร.จิโกโร คาโน ผู้ที่พัฒนากีฬาชนิดนี้ขึ้นมาจากพื้นฐานของยิวยิตสู (ศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมญี่ปุ่น) โดยคาโนได้เลือกเอาเทคนิค และท่าทางที่มีประสิทธิภาพของยิวยิตสู มาใช้ในกีฬายูโด เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถใช้เพื่อป้องกันตัว และพัฒนาร่างกายไปแบบพร้อมๆกัน

คำว่า “ยูโด” หมายถึง “ทางแห่งความอ่อนโยน” ที่เป็นเหมือนหลักการสำคัญของศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้ โดยวิธีการใช้พลังของคู่ต่อสู้เพื่อเอาชนะ นอกจากนี้ยังสามารถนำเทคนิคของกีฬายูโด ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

ที่มา: (Judo) คืออะไร? [1]

กีฬายูโด กับเทคนิคการต่อสู้ที่น่ารู้

ในการฝึกยูโด จะประกอบด้วยเทคนิคการฝึก 2 ประเภท นั่นคือ นาเกวาซะ (เทคนิคการทุ่ม) และคาตาเมวาซะ (เทคนิคการล็อกและการจับยึด) โดยสามารถอธิบายได้ ดังนี้:

นาเกวาซะ เป็นเทคนิคที่เน้นเรื่องด้าน การทุ่มคู่ต่อสู้ลงพื้น โดยเทคนิคนี้ ผู้เล่นจะต้องอาศัยการใช้แรงและการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามในการเอาชนะ โดยจะต้องมีการจับจังหวะและควบคุมสมดุลที่ดี ซึ่งผู้เล่นจะต้องฝึกการยืน การเคลื่อนที่ รวมถึงการจับคู่ต่อสู้ให้ถูกต้องตามวิธี เพื่อให้ผู้เล่นสามารถทำการทุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คาตาเมวาซะ เทคนิคนี้จะถูกใช้เมื่อคู่ต่อสู้ ถูกทุ่มลงพื้นแล้ว โดยเทคนิคนี้จะประกอบด้วย การล็อกข้อต่อ รัดข้อเท้า และการกดทับ ที่ต้องอาศัยทักษะความแม่นยำและการควบคุม เพื่อให้ผู้เล่นเอาชนะฝั่งตรงข้ามได้โดยไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ

ซึ่งการฝึกเทคนิคทั้ง 2 เทคนิคนี้ นอกจากจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการต่อสู้ของผู้เล่นแล้ว ยังช่วยให้ผู้เล่นมีร่างกายที่แข็งแรงได้อีกด้วย

ที่มา: ศิลปะการต่อสู้และปรัชญาแห่งความอ่อนโยน [2]

ยูโด กีฬาที่เป็นมากกว่าศิลปะการต่อสู้

กีฬายูโดเป็นศิลปะการต่อสู้ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งหลักการสำคัญของกีฬาชนิดนี้คือ Seiryoku Zen’yo ที่หมายถึง การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และ Jita Kyoei ที่มีความหมายว่า ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

Seiryoku Zen’yo เป็นหลักการที่สอนให้เรา รู้จักใช้พลังงานและทรัพยากรที่มีอยู่ อย่างชาญฉลาด เรียนรู้การใช้พลังจากฝั่งตรงข้าม แทนการต่อต้านโดยตรง เป็นเทคนิคที่สามารถนำไปใช้ได้ ทั้งในการต่อสู้ และในชีวิตประจำวัน

Jita Kyoei เป็นหลักการที่เน้นย้ำถึงการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นแนวคิดที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานรวมกับผู้อื่น ช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

กติกาพื้นฐานของยูโด

การแข่งขันยูโดจะถูกจัดขึ้นบนเสื่อทาทามิ ขนาด 14 x 14 เมตร เป็นพื้นที่สำหรับต่อสู้ 10 x 10 เมตร ซึ่งนะกีฬาจะต้องโค้งคำนับก่อนที่จะเหยียบลงบนเสื่อทุกครั้ง และต้องโค้งคำนับต่อคู่ต่อสู้ทั้งก่อน-หลัง การแข่งขัน
ในการแต่งกายจะต้องสวมชุดกิ (เครื่องแบบ) ที่เหมาะสม ผู้ด้วยเข็มขัดแบบปม และเครื่องแบบจะต้องมีความสูงไม่เกิน 5 ซม. จากข้อเท้าและข้อมือ
ในการแข่งขัน จะใช้ระยะเวลาในการแข่งประมาณ 5 นาที โดยจะมีการชนะเกิดขึ้น เมื่อนักกีฬาฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้รับอิปปง กรณีไม่มีการมอบอิปปง ผู้เล่นที่มีคะแนนสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ และหากผู้เล่นทั้ง 2 ฝั่ง ได้คะแนนเท่ากัน จะถูกตัดสินด้วยคะแนนทองคำนั่นเอง
กรณีมีผู้ทำละเมิดกฎเล็กน้อย (ชิโด) หรือ การทำผิดกฎแบบร้ายแรง (ฮันโซกุเกะ) หากผู้เล่นทำชิโด 4 ครั้ง หรือฮันโซกุ 1 ครั้ง ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามจะได้รับฮิปปง และเป็นผู้ชนะทันที
ในการแข่งขันยูโด ห้ามนักกีฬาใช้เทคนิคที่นอกเหนือกติกา ห้ามโจมตีข้อต่อ (นอกเหนือจากข้อศอก) หรือกระทำการเตะ ต่อย การสัมผัสใบหน้าฝ่ายตรงข้าม รวมถึงการทำให้บาดเจ็บโดยเจตนาเด็ดขาด

ที่มา: Judo Rules [3]

เครื่องแต่งกายยูโด

สำหรับการแต่งกายในการฝึกหรือแข่งขันยูโด ผู้เล่นจะต้องสวมชุดเฉพาะที่เรียกว่า Judoji ซึ่งเป็นชุดที่มีลักษณะพื้นฐานมาจากเครื่องแต่งกายของชาวญี่ปุ่น

เสื้อ
เสื้อจะมีลักษณะคล้ายกับเสื้อกิโมโน ที่เกิดจากการถักทอด้วยด้ายดิบสีขาว มีความหนาและแข็งแรง แต่อ่อนนิ่ม โดยลักษณะของเสื้อตรงส่วนแขนและลำตัวจะกว้างหลวม ตัวยาวคลุมถึงก้น ช่วงแขนมีความยาวถึงครึ่งแขนท่อนล่าง มีความเบาบางแต่แข็งแรง เพื่อให้เสื้อสามารถระบายความร้อนของร่างกายได้ดี
กางเกง
กางเกงยูโดจะมีลักษณะคล้ายกางเกงจีน ผลิตจากผ้าดิบ บริเวณขอบเอวจะมีเชือกร้อยรัดเอว โดยเกงเกงจะต้องมีความหลวม และยาวประมาณครึ่งขาท่อนล่าง เพื่อให้ผู้สวมใส่เคลื่อนไหวได้อย่างถนัด
สายคาดเอว
ผลิตจากผ้าที่นำมาเย็บซ้อนกัน ให้มีความหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร มีความกว้าง 2 นิ้ว โดยความยาวจะต้องคาดเอวผู้สวมใส่ได้ 2 รอบ พร้อมเหลือชายไว้สำหรับผูกเงื่อนพิรอด ซึ่งจะต้องเหลือชายไว้ข้างละ 15 เซนติเมตร นอกจากนี้ สายคาดเอวยังเป็นสิ่งที่แสดงถึง ระดับความสามารถของนักกีฬาด้วย

หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Judo ได้ที่ wikipedia

มารยาทและการแสดงความเคารพของกีฬายูโด

สำหรับมารยาททั่วไปของกีฬายูโดนั้น นักกีฬายูโดที่ดี จะต้องให้ความเคารพต่อสถานที่ และครูบาร์อาจารย์ ด้วยการกระทำ และกริยาต่างๆ เช่น:

ทั้งในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน ผู้เล่นจะต้องไม่พูดคุยกันเสียงดัง เนื่องจากอาจเป็นการรบกวนสมาธิของผู้อื่น
ผู้เล่นจะต้องไม่ใช้คำพูดที่หยาบคาย ในการพูดคุยกันในทีม หรือกับคู่แข่งขันฝั่งตรงข้าม
ในการฝึกซ้อมและแข่งขัน ผู้เล่นจะต้องปฏิบัติตนด้วยความสุภาพ ไม่ตลกคะนอง
ผู้เล่นกีฬายูโด ห้ามสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ฝึกเป็นอันขาด
ในการฝึกซ้อมและแข่งขันทุกครั้ง ห้ามผู้เล่นสวมรองเท้าขึ้นไปเหยียบบนเสื่อยูโด

การแสดงความเคารพ
กีฬายูโดมีวิธีการแสดงความเคารพอยู่ 2 วิธี คือการนั่งและยืน

เมื่อผู้เล่นไปถึงสถานที่ฝึก สิ่งแรกที่ผู้เล่นควรทำคือ การแสดงความเคารพต่อสิ่งที่ตั้งบูชาประจำสถานที่
ก่อนเริ่มฝึกซ้อมในแต่ละครั้ง เมื่อผู้เล่นขึ้นเบาะ จะต้องแสดงความเคารพต่อที่บูชาอีกครั้ง
ก่อนและหลังการฝึกซ้อม ผู้เล่นทั้งสองฝ่าย จะต้องโค้งทำความเคารพซึ่งกันและกัน
หลังจากที่ฝึกและเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ผู้เล่นจะต้องแสดงความเคารพต่อที่บูชาอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน

สรุปแล้ว ยูโด ศิลปะป้องกันตัว

สรุปแล้ว ยูโด ศิลปะป้องกันตัว กีฬาที่มีเทคนิคการต่อสู้ที่ซับซ้อน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ฝึกสมาธิ และพัฒนาบุคลิกภาพ กีฬาที่เป็นมากกว่าศิลปะการต่อสู้ เพราะสามารถนำเทคนิคต่างๆมาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหา หรือสถานการณ์คับขันในชีวิตประจำวันได้ เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ที่ต้องการเรียนรู้ไว้ทั้งเพื่อด้านกีฬา และเพื่อป้องกันตัวเอง