
ฟินแลนด์สปิตซ์ vs ชิบะอินุ สายไหนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ?
- Pet Noi
- 134 views
ฟินแลนด์สปิตซ์ vs ชิบะอินุ เป็นการเปรียบเทียบ ที่ทาสหมาหลายคนสงสัย เพราะทั้ง 2 สายพันธุ์มีเสน่ห์ และบุคลิกต่างกันอย่างชัดเจน การเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ ไม่เพียงช่วยให้สุนัขมีความสุข แต่ยังทำให้เจ้าของดูแล ได้อย่างราบรื่น ตลอดระยะเวลาหลายปีที่อยู่ร่วมกัน
“ฟินแลนด์สปิตซ์” เป็นสุนัขประจำชาติฟินแลนด์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเสียงเห่า และความว่องไว ส่วน “ชิบะอินุ” จากญี่ปุ่น เป็นสุนัขขนาดเล็กที่มีนิสัยอิสระ ซื่อสัตย์ ถ้าถามว่า ซื้อสุนัขชิบะ คุ้มไหม ก็คือคุ้ม แต่ทว่า การรู้จักพื้นฐานของทั้ง 2 สายพันธุ์ก่อน จะช่วยให้ทาสหมามองเห็นความต่าง ก่อนตัดสินใจเลือกได้
“ฟินแลนด์สปิตซ์” หรือฟินกี้ มีประวัติย้อนไปหลาย 100 ปี ในแถบสแกนดิเนเวีย ประเทศฟินแลนด์ ถูกพัฒนาให้เป็นสุนัขล่าสัตว์ทุกชนิด โดยเฉพาะนกป่า บางตัวสามารถไล่ล่าหมี ด้วยเสียงเห่าที่ชัดเจน ทนต่ออากาศหนาวเย็น ถึงขั้นรุนแรงได้ดี (2 เมษายน 2025) [1]
ส่วน “ชิบะอินุ” เป็นหนึ่งในสายพันธุ์โบราณของญี่ปุ่น ที่มีร่องรอยตั้งแต่ยุคโคฟุง ราว ๆ ศตวรรษที่ 3 – 6 พวกมันถูกเลี้ยงเพื่อช่วยล่าสัตว์ เนื่องจากเป็นสุนัขที่คล่องแคล่ว เข้ากับสภาพภูมิประเทศ ที่เป็นภูเขาของประเทศญี่ปุ่น (9 พฤษภาคม 2025) [2]
อย่างไรก็ตาม ด้วยความแตกต่างของภูมิประเทศ วิถีชีวิตผู้คน รวมถึงวิธีการเลี้ยง จึงหล่อหลอมให้ทั้ง 2 สายพันธุ์ มีบุคลิก และความสามารถเฉพาะตัว ที่มีทั้งความเหมือนกัน อย่างเรื่องการล่าสัตว์ และทั้งเรื่องที่แตกต่างกัน เป็นต้น
ฟินกี้มีลักษณะเด่น คือ ขนสองชั้นสีทองแดง หรือแดงอมส้ม ขนชั้นนอกกันน้ำ และขนชั้นในหนานุ่ม หูตั้งแหลม ดวงตารูปอัลมอนด์ และหางขดพาดบนหลังอย่างสง่างาม ขนาดตัวอยู่ในเกณฑ์กลาง น้ำหนักเฉลี่ย 11 – 13 กก. ส่วนชิบะมีขนสองชั้นเช่นกัน
แต่สั้นกว่าและมีหลายสี อาทิเช่น แดง, ดำ – แทน และขาว ใบหน้ามีโครงกระดูกชัด หูตั้ง ตาเล็กคล้ายสามเหลี่ยม หางขดหรือม้วนเป็นวง การสังเกตสีขน รูปร่างหู รวมถึงลักษณะหาง สามารถช่วยให้ทาสหมา แยกความต่างของทั้ง 2 สายพันธุ์ได้ แม้ในครั้งแรกที่เจอ
ฟินกี้ & ชิบะ แม้มีรูปร่างคล้ายสุนัขจิ้งจอก แต่มีความต่างที่ชัดเจน ฟินกี้มีเสียงเห่าชัดและดัง เหมาะกับงานเฝ้าระวัง ในขณะที่ชิบะอินุมีเสียงเงียบกว่า แต่ไวต่อสิ่งรอบตัว ฟินกี้มักเปิดเผย เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า ส่วนชิบะจะเลือกไว้ใจ เฉพาะคนใกล้ชิด
ด้านพลังงาน ฟินกี้ต้องการการออกกำลังกายสูง ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ขณะที่ชิบะอินุปรับตัวได้ดี กับชีวิตในเมือง ถ้ามีเวลาพาเดินทุกวัน ความต่างเหล่านี้ ทำให้การเลือกขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม บวกไลฟ์สไตล์ของเจ้าของเป็นหลัก
ฟินกี้เป็นสุนัขที่กระตือรือร้น ช่างสื่อสาร มีบันทึกการประกวดเสียงเห่า ในฟินแลนด์ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1890 เพื่อคัดเลือกสุนัขที่มีเสียงเด่น บวกความว่องไว พวกมันมีสัญชาตญาณการล่าสูง ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง
บวกต้องการการกระตุ้น ทางจิตใจอย่างต่อเนื่อง ส่วนสุนัขชิบะ มีประวัติเลี้ยงในญี่ปุ่น มากกว่า 2,000 ปี ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นอิสระ บวกการระมัดระวังตัว แม้จะรักเจ้าของมาก แต่ก็ยังรักษาพื้นที่ส่วนตัว พวกมันมีความอดทน ต่อการฝึกในระดับปานกลาง
และมักจะตัดสินใจเอง หากไม่เห็นด้วยกับคำสั่ง ดังนั้น การที่ทาสหมาเข้าใจ พฤติกรรมเหล่านี้ก่อน จึงเป็นเรื่องสำคัญ นั่นก็เพื่อให้ทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ มีชีวิตที่สมดุล เข้ากับเจ้าของในปัจจุบัน ให้มากที่สุด
ฟินกี้ต้องการการออกกำลังกาย กลางแจ้งทุกวัน อย่างน้อย 1 – 2 ชั่วโมง ไม่ก็การเดินเล่น ๆ สบาย ๆ ในสนามหญ้ากว้าง ๆ ภายในบ้านที่มีรั้วแข็งแรง เพื่อปลดปล่อยพลังงาน และป้องกันความเครียด พวกมันยังต้องการการกระตุ้น ด้วยการฝึกอบรม บวกต้องการคำชมเชย กับขนมจากเจ้าของ (2025) [3]
ส่วนสุนัขชิบะ แม้จะไม่ต้องการการออกกำลังกาย ที่หนักเท่าฟินกี้ แต่ก็ยังต้องเดิน ต้องเล่นทุกวัน ประมาณ 30 – 60 นาที เพื่อรักษาสุขภาพกับอารมณ์ การดูแลขนทั้ง 2 สายพันธุ์ค่อนข้างง่าย เพียงแปรงขนสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง ยกเว้นช่วงผลัดขน ที่อาจต้องแปรงทุกวัน
นอกจากนี้ การฝึกวินัยตั้งแต่เล็ก ๆ สำคัญมาก โดยฟินกี้จะตอบสนอง ต่อคำสั่งซ้ำ ๆ ได้ดี หากเจ้าของมีการฝึกฝนอบรมอยู่บ่อย ๆ ส่วนชิบะอินุจะต้องใช้ความสม่ำเสมอ บวกความอดทนเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นหมาที่ไม่ชอบ ฟังคำสั่งซ้ำ ๆ ซาก ๆ
การเลือกฟินกี้ หรือชิบะ ขึ้นอยู่กับว่าทาสหมามีเวลา และพลังเพียงพอ สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง มากน้อยแค่ไหน ฟินกี้เหมาะกับคน ที่ชอบการออกกำลังกาย ร่วมกับสุนัข ส่วนชิบะเหมาะกับคน ที่ต้องการเพื่อนซื่อสัตย์ ที่สามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตในเมือง ได้ง่ายกว่า
ถ้าทาสหมาชอบใช้เวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง อาทิเช่น วิ่ง เดินป่า หรือเล่นกีฬากับสุนัข Finnish Spitz อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แต่ถ้าชอบใช้เวลาสบาย ๆ ในบ้านมากกว่า และต้องการสุนัขที่ไม่ต้องการ การออกกำลังกายหนัก Shiba Inu อาจเหมาะกว่า
Finnish Spitz จะอยู่ได้ดีกับทาสหมาที่มีเวลา ชอบทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงมีพื้นที่เพียงพอ ให้พวกมันได้ปลดปล่อยพลังงาน ส่วน Shiba Inu จะเข้ากับทาสหมาที่ต้องการสุนัขอิสระ มีเสน่ห์เฉพาะตัว และสามารถอยู่ร่วมกัน ด้วยการเคารพพื้นที่ส่วนตัว ของกันและกัน