แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

ประวัติ วอลเลย์บอล เทคนิคการเล่นและประโยชน์ที่ได้รับ

ประวัติ วอลเลย์บอล

ประวัติ วอลเลย์บอล กีฬายอดนิยม มีประวัติมามากว่า 120 ปี มีการเริ่มเล่นในปี ค.ศ. 1895 โดยนายวิลเลียม จี. มอร์แกน ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. ในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ที่ได้ดัดแปลงกติกามาจากเทนนิส เพื่อสร้างกีฬาที่เหมาะสม สำหรับการออกกำลังกายในร่ม

  • ประวัติ วอลเลย์บอล ที่น่ารู้
  • ทักษะพื้นฐานในการเล่นวอลเลย์บอล
  • กติกาและการนับคะแนน

ประวัติ กีฬาวอลเลย์บอล 

วอลเลย์บอลถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ.1895 โดย William G. Morgan ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษา ของสมาคม Young Men’s Christian Association ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้คิดค้นกีฬาสำหรับใช้เล่นในช่วงฤดูหนาว เป็นการเล่นกีฬาในร่ม เพื่อออกกำลังกายในยามหิมะตก

วอลเลย์บอล เป็นกีฬาที่เกิดขึ้นจากการนำอุปกรณ์ และวิธีการเล่น ของกีฬา เทนนิส และบาสเกตบอล (Basketball)มารวมกัน ซึ่งเป็นความคิดสร้างสรรค์ของนายวิลเลียม จี. มอร์แกน และได้มีการตั้งชื่อกีฬาชนิดนี้ว่า มินโทเนตต์ นั่นเอง

หลังจากที่ได้รับคำแนะนำจาก ศาสตราจารย์อัลเฟรด ที. เฮลสเตด ชื่อมินโทเนตต์ ได้มีการถูกเปลี่ยนเป็น “วอลเลย์บอล” ในปี ค.ศ. 1896  และมีการใช้ชื่อนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

ที่มา: ประวัติวอลเลย์บอล ข้อมูล กีฬาวอลเลย์บอล [1]

การนำวอลเลย์บอลเข้ามาในประเทศไทย

กีฬาวอลเลย์บอล มีการนำเข้ามาในประเทศไทยช่วงไหน ยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่ชัดเจน แต่ชาวไทยบางกลุ่ม เริ่มมีการเล่นและแข่งขันวอลเลย์บอล ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยในปี 2477 กรมพลศึกษาได้จัดพิมพ์กติกาวอลเลย์บอลเผยแพร่ โดยอาจารย์นพคุณ พงษ์สุวรรณ โดยจัดให้มีการแข่งขันกีฬาประจำปี และได้บรรจุกีฬาวอลเลย์บอลหญิง เข้าไว้ในรายการแข่งขันเป็นครั้งแรก โดยใช้กติกาการเล่นระบบ 9 คน

ต่อมากีฬาวอลเลย์บอลก็ได้ถูกพัฒนามาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 2500 ได้มีการประชุมจัดตั้งสมาคม โดยวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2502 ได้มีการจัดตั้งสมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย (Amateur Volleyball Association of Thailand) ขึ้นอย่างเป็นทางการ และได้เปลี่ยนระบบการแข่งขันเป็น 6 คน

ที่มา: วอลเลย์บอล [2]

ทักษะการเล่นวอลเลย์บอลพื้นฐาน

  • การอันเดอร์บอล
    • ให้ใช้แขนท่อนล่างในการรับลูกบอล จากการเสิร์ฟ หรือการตบของฝ่ายตรงข้าม
    • ผู้เล่นต้องยืนในท่าที่มั่นคง โดยแยกขาออกจากกันเล็กน้อย และงอเข่าเล็กน้อย เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม
    • แขนทั้งสองข้างของผู้เล่น ต้องเหยียดตรงและชิดกัน เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับการรับลูกที่กว้าง พร้อมควบคุมทิศทาง และความสูงของลูกบอล
  • การเซตบอล
    • ให้ผู้เล่นใช้ปลายนิ้วในการส่งลูกบอลให้กับผู้เล่นที่ตบ
    • ผู้เล่นต้องยืนในท่าที่มั่นคง แยกขาเล็กน้อย พร้อมงอเข่า แล้วยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ โดยใช้ปลายนิ้วผลักบอล ให้ลอยขึ้นไปในอากาศ และควบคุมลูกบอลให้ไปในทิศทางที่ต้องการ
  • การเสิร์ฟลูกบอล
    • ในการส่งบอล ต้องส่งบอลให้ข้ามตาข่ายไปยังฝ่ายตรงข้าม โดยการแข่งขันจะเริ่มจากการเสิร์ฟเสมอ (การเสิร์ฟแบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ การเสิร์ฟลูกมือบน และการเสิร์ฟลูกมือล่าง)
    • ในการเสิร์ฟให้ยืนในท่าที่มั่นคง และใช้มือ สันมือ หรือท่อนแขนข้างที่ถนัด ในการตีลูกบอลให้ข้ามตาข่ายไปยังฝ่ายตรงข้าม
  • การตบลูก หรือการโจมตี
    • การตบลูกให้ข้ามตาข่ายไปยังฝ่ายตรงข้าม ด้วยแรงที่มากกว่าปกติ เป็นการโจมตีเพื่อทำคะแนน
    • ในการตบลูก ผู้เล่นจะต้องกระโดดสูง เพื่อให้แขนอยู่ในตำแหน่งสูงเหนือศีรษะ แล้วใช้ฝ่ามือตบลูกบอล ให้ลอยข้ามตาข่ายไปยังแดนตรงข้าม
  • การกระโดดบล็อก
    • เป็นการป้องกันการตบลูกของฝ่ายตรงข้าม เพื่อไม่ให้ลูกข้ามมายังฝั่งเรา
    • ผู้เล่นควรยืนใกล้ตาข่าย และกระโดดพร้อมกับยกแขนขึ้น เพื่อสกัดกั้นลูกตบ และให้บอลตกลงบนพื้นที่ของฝ่ายตรงข้าม
  • การงัดบอล
    • การกระโดดพุ่งเพื่อรับลูกบอล ไม่ปล่อยให้ลูกบอลสัมผัสพื้นในแดนตัวเอง โดยงัดให้ลูกบอลลอยขึ้นไปในอากาศ เพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถเล่นต่อไป และส่งบอลไปยังฝ่ายตรงข้าม
    • การงัดบอลทำได้โดยใช้แขนในการรับลูกบอล และงัดบอลให้ลอยขึ้นสูง เพื่อให้ผู้เล่นในทีมสามารถเล่นต่อได้

ที่มา: ทักษะและวิธีการเล่นวอลเลย์บอลที่คุณควรรู้ [3]

กติกา และ การนับคะแนนวอลเลย์บอล

ประวัติ วอลเลย์บอล

กติกาทั่วไปของกีฬาวอลเลย์บอล

  • วอลเลย์บอลจะแบ่งผู้แข่งขันออกเป็น 2 ทีม ทีมละ 6 คน โดยมีตาข่ายแบ่งฝั่ง ซึ่งในการเล่น ผู้เล่นจะต้องส่งลูกข้ามตาข่ายไปอีกฝั่ง โดยให้ลูกบอลอยู่ภายในกรอบสนาม เพื่อไม่ให้อีกฝั่งรับได้ จึงจะได้คะแนนไป
  • ในการเปิดเกม ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งขวาหลัง จะได้เป็นผู้เสิร์ฟก่อน จากนั้นหากมีการเสียคะแนน ผู้เล่นทุกคนจะขยับตำแหน่งวนไปตามเข็มนาฬิกา
  • ในการเสิร์ฟ ผู้เล่นจะต้องรอฟังสัญญาณนกหวีดก่อน และต้องเสิร์ฟลูกบอลภายใน 5 วินาที หลังจากเสียงนกหวีดดัง
  • ทีมที่ได้คะแนนจะเป็นผู้ได้เสิร์ฟ จนกว่าจะเสียคะแนนให้ฝ่ายตรงข้าม จึงจะเปลี่ยนเสิร์ฟ
  • เมื่อลูกเข้ามาในเขตแดนของทีม ผู้เล่นทั้งทีมสามารถตีบอลได้มากที่สุด 3 ครั้งเท่านั้น
  • ผู้เล่นสามารถบล็อกลูกบอลจากฝ่ายตรงข้ามที่หน้าตาข่ายได้ แต่หากผู้เล่นล้ำเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้าม จะถือว่าเป็นการฟาวล์ และฝ่ายตรงข้ามได้แต้มทันที
  • ในการแข่งขัน ผู้เล่นสามารถขอเวลานอกได้ 2 ครั้งต่อ 1 เซต โดยให้เวลาครั้งละ 30 วินาที
  • ทุกครั้งที่แข่งขันจบ 1 เซต จะต้องมีการเปลี่ยนฝั่ง


การนับคะแนน

  • ในการแข่งขัน หากลูกบอลตกในพื้นสนามของฝ่ายใด ฝ่ายตรงข้ามจะได้ 1 คะแนน และหากมีการเสียคะแนน จะต้องเปลี่ยนให้ทีมที่ได้คะแนนเป็นผู้เสิร์ฟ
  • ทีมที่ทำคะแนนได้ครบ 25 คะแนนก่อนจบการแข่งขัน จะเป็นผู้ชนะ แต่หากทั้ง 2 ทีม ได้คะแนนเสมอกัน จะต้องมีการดิวซ์ โดยการเพิ่มคะแนนขึ้นอีก 2 แต้ม โดยทีมใดได้ 2 คะแนนมากกว่าก่อน จะเป็นผู้ชนะ
  • ในการแข่งขัน ต้องแข่งขันกันให้ชนะ 3 ใน 5 เซต จึงจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้นทันที

คนเล่นวอลเลย์บอลต้องมีสมรรถภาพร่างกายยังไง

  • ความอดทน
    ผู้เล่นกีฬาชนิดนี้ ต้องเป็นคนที่มีกล้ามเนื้อร่างกายที่แข็งแกร่งและอดทน เนื่องจากเป็นกีฬาที่ต้องออกแรงอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลทำให้ระบบไหลเวียนเลือดและหัวใจ ต้องทำงานหนักตลอดเวลาที่อยู่ในการแข่งขัน
  • ความแข็งแรงกล้ามเนื้อ
    ผู้เล่นจะต้องฝึกกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรง โดยเฉพาะความแข็งแรงแบบอดทน 
  • กำลังกล้ามเนื้อ
    นอกจากความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ผู้เล่นจำเป็นต้องมีการฝึก เพื่อให้เกิดพลัง ที่จะนำมาใช้ในกระบวนท่าทางการเสิร์ฟ การสกัดกั้น และการกระโดดตบลูกบอล
  • ความคล่องแคล่วว่องไว
    จะช่วยทำให้ผู้เล่นเกิดการเคลื่อนที่ของร่างกายที่คล่องแคล่ว เพื่อเข้าหาจุดในสนามได้อย่างรวดเร็ว

อาการบาดเจ็บที่พบได้บ่อยจากวอลเลย์บอล

  • ข้อเท้าแพลง
    เป็นอาการบาดเจ็บที่พบได้ประมาณ 32 % จากการเล่นวอลเลย์บอล โดยส่วนใหญ่จะเกิดบริเวณหน้าเน็ต ระหว่างการตบ เมื่อลูกอยู่เหนือศีรษะอย่างรุนแรง หรือการสกัดกั้น ซึ่งอาจจะเกิดในจังหวะการลงพื้น ที่มักลงพื้นโดยเหยียบเท้าของคู่ต่อสู้ หรือเท้าของเพื่อนร่วมทีม จึงทำให้เกิดข้อเท้าแพลงได้
  • เส้นเอ็นรอบเข่าเคล็ด
    อาการนี้พบได้ประมาณ 17% เป็นการอักเสบแบบเรื้อรังของเอ็นลูกสะบ้าเข่าอักเสบ เนื่องจากนักวอลเลย์บอลส่วนมาก ต้องใช้การกระโดดในการตบลูก หรือ สกัดกั้นลูก จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะทำให้ผู้เล่นเกิดการบาดเจ็บบริเวณขา
  • ปวดหลังส่วนล่าง
    เป็นอาการบาดเจ็บที่พบได้ประมาณ 12% เนื่องจากวอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ต้องอาศัย การเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตัวเซตที่มีการเคลื่อนไหวของหลังบ่อยและมีอาการแอ่น เนื่องจากต้องคอยเซตลูกบอลในหลายทิศทาง รวมถึงตัวตบ ที่ต้องกระโดดแอ่นหลังบ่อย ๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้กระดูกเกิดการขยับและพับชนกันได้

หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 5 ที่สุดการบาดเจ็บที่พบบ่อยในกีฬาวอลเลย์บอล ได้ที่ bangkokhospital

สรุปแล้ว ประวัติ วอลเลย์บอล

สรุปแล้ว ประวัติ วอลเลย์บอล เป็นกีฬาที่แพร่เข้ามาในประเทศไทย ประมาณปี พ.ศ. 2477 เป็นกีฬาในร่มยอดฮิต ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นมือใหม่ หรือมือโปร ก็สามารถทำความเข้าใจในพื้นฐาน และเทคนิคของวอลเลย์บอลได้ นอกจากนี้ยังเป็นกีฬาที่ช่วยให้มีร่างกายที่แข็งแรง เสริมสร้างพันธมิตร การร่วมมือ การสามัคคีในทีม เพื่อให้ชนะตามจุดประสงค์

วอลเลย์บอลเกิดขึ้นได้อย่างไร?

กีฬาวอลเลย์บอลเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1895 โดยนายวิลเลียม จี. มอร์แกน ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. ที่เป็นผู้คิดค้นโดยการดัดแปลงมาจากกีฬาเทนนิส และ บาสเกตบอล เพื่อเป็นการออกกำลังกายในช่วงหน้าหนาว

กีฬาวอลเลย์มีชื่อเดิมชื่อว่าอะไร?

แต่เดิมเราเรียกกีฬานี้ว่า มินโทเนตต์ และได้ถูกเปลี่ยนเป็น วอลเลย์บอล หลังได้รับคำแนะนำจาก ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ทีเฮลสเตด เมื่อปี ค.ศ.1896

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง