ประวัติ คาราเต้ ทักษะการต่อสู้มือเปล่า เพื่อป้องกันตัว
- sunflower
- 160 views
ประวัติ คาราเต้ ศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ที่มีรากฐานมาจากการต่อสู้ของประเทศจีน ผสมผสานกับการต่อสู้ที่มีอยู่ของญี่ปุ่น เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีการสืบทอดกันมาตั้งแต่ในอดีต มีการพัฒนาจนกลายเป็นกีฬาในปัจจุบัน ช่วยฝึกฝนและสร้างความสมดุลให้กับจิตใจ เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมจากหลายประเทศ
ตั้งแต่ในสมัย ค.ศ. 14 โอะกินะวะกับทางจีนแผ่นดินใหญ่ ได้มีการติดต่อค้าขายกัน มาเป็นระยะเวลาเนิ่นนาน ตั้งแต่สมัยอดีต โดยได้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ความรู้วิชาการ และศิลปะการป้องกันตัวต่าง ๆ ซึ่งโอะกินะวะได้นำทักษะการต่อสู้ ที่ได้รับมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ (มวยใต้) ผสมผสานเข้ากับศิลปะการต่อสู้ที่มีอยู่ ทำให้กำเนิดเป็นคาราเต้
โอะกินะวะเรียกศิลปะการป้องกันตัวนี้ว่า โทเต้ หรือ โอะกินะวะเต้ (ภาษาญี่ปุ่น) โดยโอะกินะวะเต้ เป็นวิชาที่มีจุดเด่น สามารถแยกออกได้เป็น 3 สำนักหลัก ซึ่งได้แก่ ชูริเต้ นาฮาเต้ และโทมาริเต้ โดยชื่อของแต่ละสำนัก ถูกตั้งขึ้นตามชื่อเมืองใหญ่ที่วิชานั้น ๆ อาศัยอยู่นั่นเอง
ที่มา: คาราเต้ [1]
คำว่า คาราเต้ มีความหมายว่า วิถีแห่งการใช้มือ (ร่างกาย) ในการต่อสู้ เป็นวิธีการดึงเอาพลังทั้งหมดจากร่างกายมารวมเป็นหนึ่ง เพื่อใช้ในการต่อสู้และโจมตี ซึ่งมีความรุนแรงที่เรียกกันว่า อิคเคน ฮิซัทสึ หรือ การพิชิตในหมัดเดียว
โดยความสำคัญในการฝึกคาราเต้คือ การต่อสู้กับตัวเอง เช่น การฝึกยั้งแรงโจมตี เพื่อป้องกันการเกิดอาการบาดเจ็บ เป็นการฝึกเพื่อกำหนดระดับความรุนแรงของการโจมตี เพราะเมื่อคุณสามารถยั้งแรงได้ ความรุนแรงในการโจมตีของคุณก็จะเพิ่มขึ้น ได้จนถึงขีดสุดของความสามารถเช่นกัน
ที่มา: บทที่ 4 คาราเต้วิถีมือเปล่า [2]
ในการแข่งขันกีฬาคาราเต้ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ นั่นก็คือ คุมิเต้ (การต่อสู้แบบตัวต่อตัว) และ คาตะ (การแสดงทักษะและเทคนิค) โดยมีข้อมูลดังต่อไปนี้
การแข่งขันประเภทคุมิเต้
-สำหรับการแข่งขันแบบสากล การแข่งคาราเต้ประเภทนี้ จะแบ่งผู้แข่งขันออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายแดง และน้ำเงิน
-ในระหว่างการแข่งขัน จะประกอบไปด้วยกรรมการทั้งหมด 4 คน (ซึ่งกรรมการทั้ง 4 คนนี้ จะอยู่ในการดูแลของกรรมการชุดใหญ่อีกที่หนึ่ง) โดยกรรมการ 4 คน จะประกอบไปด้วย กรรมการธง 3 คน ที่อยู่รอบขอบสนาม และ กรรมการชี้ขาดในสนาม 1 คน
-ในการแข่งขันคาราเต้ประเภทคุมิเต้ ประเภทชาย จะใช้เวลาในการแข่งขัน 3 นาที ส่วนในประเภทหญิง เด็ก และผู้ฝึกใหม่ ใช้เวลา 2 นาที ในการแข่งขัน
การแข่งขันประเภทคาตะ
-เป็นการแข่งขันประเภททีม ทีมละ 3 คน โดยสมาชิกในทีมอาจเป็นหญิงล้วนและชายล้วน อีกทั้งยังมีการแข่งขันประเภทบุคคลด้วย
-ผู้เข้าแข่งขัน จะต้องมีการใช้ท่าบังคับ ท่าอิสระ ในการแข่ง โดยท่าที่นำมาใช้นั้น จะต้องเป็นท่าที่ได้รับการยอมรับจาก สหพันธ์คาราเต้แห่งโลก (WKF)
-ในการแข่งขัน 2 รอบแรก จะไม่อนุญาตให้ผู้แข่งใช้ท่าอื่น ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งก่อนการแข่งขัน จะมีการระบุถึงข้อห้ามไว้อย่างชัดเจน
-ในแต่ละรอบของการแข่งขัน ผู้เข้าร่วมแข่งขัน จะไม่สามารถแสดงคาตะ หรือ การออกท่าทางซ้ำได้
ที่มา: กติกาคาราเต้ การต่อสู้มือเปล่าที่ถูกนำมาเป็นกีฬาชื่อดังระดับโลก [3]
เนื่องจากการแข่งขันคาราเต้ มีการแบ่งการแข่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนั้นในส่วนของการนับคะแนน จึงมีความแตกต่างกันไป โดยวิธีการให้คะแนนแบ่งออกเป็นดังนี้
การนับคะแนนคุมิเต้
สำหรับการแข่งประเภทคุมิเต้ การให้คะแนนจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ (IPPON 3 คะแนน, WAZARI 2 คะแนน และ YUKO 1 คะแนน) โดยสามารถอธิบาย ได้ดังนี้
-IPPON เป็นคะแนนที่ได้จากการเตะเข้าที่ใบหน้า หัว ช่วงบน รวมถึงการเข้าไปซ้ำคู่ต่อสู้ที่ล้มลง
-WAZARI เป็นคะแนนที่ได้จากการเตะเข้าที่บริเวณลำตัว
-YUKO เป็นคะแนนที่ได้จากการชกไปที่ส่วนหัว และบริเวณลำตัว ของคู่ต่อสู้
-หากผู้แข่งขันฝ่ายใด ทำแต้มได้ถึง 8 แต้มก่อน หรือ ทำคะแนนได้มากกว่า หลังจบการแข่งขัน จะเป็นฝ่ายชนะในเกมนั้นทันที
การนับคะแนนคาตะ
สำหรับการให้คะแนนในการแข่งขันประเภทคาตะ จะให้จากการพิจารณาหลักเกณฑ์ 5 เกณฑ์ ดังนี้
-พิจารณาจากท่ายืนที่ถูกต้องของผู้เข้าแข่งขัน
-ความเข้าใจ ในการนำเทคนิคต่าง ๆ มาใช้ในการแข่งขัน
-การกำหนดจังหวะลมหายใจที่ถูกต้อง ของผู้เข้าแข่งขัน ในระหว่างการออกท่าทาง
-พิจารณาจากความง่าย ความยาก ของท่าทางที่ผู้แข่งขันนำมาใช้
-พิจารณาจาก ความแข็งแกร่ง จังหวะ ท่วงท่า ความสมดุล และพลังของผู้แข่งขัน
สำหรับผู้ที่สนใจในกีฬา ศิลปะการต่อสู้คาราเต้ หรือ ผู้ที่กำลังเริ่มฝึกใหม่ การเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่มีความสำคัญ ซึ่งต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลย
หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ How to Prepare for Your First Karate Class ได้ที่ martialartswa
กล่าวโดยสรุป ประวัติ คาราเต้ ศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่น ที่มีประวัติและความลึกซึ้ง เป็นศาสตร์ที่รวบรวมทักษะ ความรู้ และภาวะจิตใจ ในการฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง เป็นศิลปะการต่อสู้แบบมือเปล่า ที่ต้องอาศัยเทคนิค และการฝึกฝนท่า การเตรียมตัว ดังนั้นบทความนี้ จึงได้รวมข้อมูลทุกอย่างที่สำคัญเกี่ยวกับการฝึกคาราเต้ มาให้ผู้ที่สนใจได้อ่าน และเตรียมพร้อมในการฝึกฝนเพื่อพัฒนาเป็นมืออาชีพต่อไป
การฝึกคาราเต้เป็นประจำ จะช่วยพัฒนาความแข็งแรง ความเร็วและความคล่องตัว
การต่อสู้แบบคาราเต้ เป็นการต่อสู้แบบใช้การเตะ ต่อย เป็นหลัก โดยจะเน้นไปที่การใช้ พลังของร่างกายมารวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อใช้ในการโจมตีคู่ต่อสู้
