
เรื่องน่ารู้ของ ประวัติ กีฬาฟันดาบ การแข่งขันเพื่อ “ศักดิ์ศรี”
- Pink Panther
- 113 views
ประวัติ กีฬาฟันดาบ หนึ่งในกีฬาต่อสู้ ที่ฟาดฟันกันด้วย “ศักดิ์ศรี” ที่เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในกีฬาที่สง่างามเป็นอย่างมาก จากประวัติความเป็นมา ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ นั่นก็คือ การฟันดาบแบบตะวันตก ซึ่งถือเป็นการฟันดาบเก่าแก่ ที่มีบทความส่วนใหญ่ มาจากประเทศเยอรมนี และอิตาลี
ประวัติ กีฬาฟันดาบ หรือที่เรียกว่า “Fencing” กีฬาที่ใช้ดาบเป็นอาวุธ ซึ่งการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น ทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ ฟอยล์ เอเป้ และเซเบอร์ โดยแต่ละประเภท ก็จะมีกฎกติกาเฉพาะของตนเอง ซึ่งนักฟันดาบที่ทำการแข่งขันส่วนใหญ่ จะมีความเชี่ยวชาญในกีฬาเหล่านี้อยู่แล้ว
การฟันดาบ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมนี และอิตาลี ผ่านบทความ Royal Armouries Ms. I.33 ที่เขียนขึ้นราวปี ค.ศ. 1300 จากการที่มนุษย์ใช้ดาบเป็นอาวุธในการต่อสู้ จนกระทั่ง เวลาได้ผ่านไป เมื่อหมดยุคที่จะใช้ดาบในการสู้รบแล้ว อาวุธชนิดนี้ก็ได้กลายมาเป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยมในยุโรป
โดยมีกติกาของ สหพันธ์ฟันดาบระหว่างประเทศ (Federation International d Escrime) ซึ่งได้รับความเห็นชอบ โดยมติเอกฉันท์ ในการประชุมระหว่างประเทศ ของสมาคมกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ ที่ถูกจัดขึ้น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1914 และมีการประกาศใช้สำหรับการแข่งขัน ในปีเดียวกัน
ประวัติฟันดาบในไทย
ที่มา: กีฬาฟันดาบ [1]
ฟันดาบ (Fencing) จะเป็นการแข่งขันระหว่างผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจะเป็นการยืนหันข้างให้กับคณะกรรมการการแข่งขัน โดยที่ผู้เล่นทั้งคู่ จะยืนห่างจากเส้นแบ่งแดน อย่างน้อย 2 เมตร และเมื่อผู้เข้าแข่งขันพร้อมแล้ว กรรมการจะขานเริ่มแข่ง จากนั้น การนับคะแนนจะเริ่มต้นขึ้น
การนับคะแนน
สำหรับการนับคะแนน ในกีฬาเอเชียนเกมส์นั้น การแข่งขันประเภทชาย จะใช้เวลา 6 นาที และเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ได้รับ 5 คะแนนก่อน ฝ่ายนั้นจะเป็นผู้ชนะ ในขณะที่การแข่งขันประเภทหญิง จะใช้เวลาเพียง 5 นาที หากฝ่ายใดทำได้ถึง 4 คะแนนก่อน ฝ่ายนั้นจะเป็นผู้ชนะไป
ประเภท
อุปกรณ์
ที่มา: เปิดประวัติกีฬาเอเชียนเกมส์: ฟันดาบ [2]
การแข่งขันฟันดาบชิงแชมป์ จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ สหพันธ์กีฬาฟันดาบนานาชาติ (Fédération Internationale d’Escrime: FIE) โดยมีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งประกอบไปด้วยสหพันธ์ระดับชาติ มากกว่า 155 แห่ง ที่จะน่าสนใจอย่างไร ตามไปดูกัน
การแข่งขันฟันดาบชิงแชมป์โลก และการแข่งขันฟันดาบโอลิมปิก จะอยู่ในการดูแลของ สหพันธ์กีฬาฟันดาบนานาชาติ (Fédération Internationale d’Escrime: FIE) โดยจะแบ่งออกเป็น การแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม การแข่งขันแบบแพ้คัดออก และการแข่งขันแบบทีม เป็นต้น
โดยทางสหรัฐอเมริกา ได้มีการเริ่มต้นจัดการแข่งขันระดับมหาวิทยาลัยระดับชาติขึ้น 2 รายการ นั่นก็คือ การแข่งขันชิงแชมป์ NCAA และการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติ USACFC เพื่อส่งตัวแทนนักกีฬาในระดับต่าง ๆ เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลก และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ต่อไป
ที่มา: Fencing [3]
นอกจากกีฬาฟันดาบ จะเป็นกีฬาที่มีความสง่างามมากที่สุดแล้ว ทางด้านของทักษะความสามารถ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้กีฬาประเภทนี้ ได้รับความสนใจจากผู้คนบางกลุ่มเท่านั้น เนื่องจากต้องพัฒนาทักษะหลายด้าน จึงทำให้กีฬาฟันดาบนี้ สามารถมอบประสบการณ์ให้กับผู้เล่น ได้มากกว่าที่คิด
คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ trueid
สรุป ประวัติกีฬาฟันดาบ หนึ่งในกีฬาชิงไหวชิงพริบ ที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ จากหลักฐานการมีอยู่ในประเทศเยอรมนี และอิตาลี ที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้คนรุ่นใหม่ ได้ฝึกฝน และพัฒนาทักษะความสามารถต่อไป ที่นอกจากจะสง่างามแล้ว การแข่งขันนี้ยังเดิมพันด้วย “ศักดิ์ศรี” อีกด้วย
สำหรับตัวแทนนักกีฬาฟันดาบชาวไทย ที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาตินั้น อาจพอมีอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงเป็นจำนวนที่น้อยมาก เนื่องจากความรู้เกี่ยวกับทักษะกีฬา และสมรรถภาพทางกาย อาจยังไม่ได้รับการพัฒนาไปไกลมากนัก และยังคงต้องเริ่มฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อต่อกรกับประเทศอื่น ๆ ได้
การแข่งขันฟันดาบ เป็นกีฬาที่ไม่ส่งผลให้ผู้เล่นรู้สึกเจ็บได้ เพราะคะแนนที่ได้จากการแข่งขัน ไม่ได้เกิดจากการแทงที่ต้องใช้แรงมาก โดยทุกแต้มที่ได้จากสัญญาณไฟนั้น จะได้ 1 คะแนนเท่า ๆ กันหมด ซึ่งจะไม่มีคะแนนพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งยังมีการลงโทษ สำหรับการเล่นที่รุนแรงอีกด้วย