
บีเกิ้ล vs บีเกิ้ล แฮร์เรีย ต่างกันตรงไหน เหมาะกับใคร ?
- Pet Noi
- 76 views
บีเกิ้ล vs บีเกิ้ล แฮร์เรีย สองชื่อที่คล้ายกัน จนคนรักหมาหลายคนคิดว่า เป็นหมาพันธุ์เดียวกัน แต่จริง ๆ แล้ว ทั้งขนาด นิสัย และจังหวะชีวิตของ 2 สายพันธุ์นี้ ต่างกันมากกว่าที่คิด มาดูว่าหมาสายดมกลิ่นทั้งคู่ ใครขี้เล่นกว่า ใครขาลุยกว่า และใครเป็น สุนัขพันธุ์กลาง ราคาแพง สำหรับบ้านทาสหมา
บีเกิ้ลมีรากฐานจากอังกฤษ ช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นหมาล่าตัวเล็ก ที่เกิดมาเพื่อ “ตามกลิ่นให้ทัน” ไม่ใช่แค่วิ่งเล่น ส่วนบีเกิ้ลแฮร์เรียถูกพัฒนาขึ้นจริงจัง ในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยผสมพันธุ์ให้ตัวใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น และเหมาะกับล่าระยะไกล แม้จะดูคล้ายกัน แต่เส้นทางพัฒนาก็ “ต่างกันตั้งแต่ต้น”
บีเกิ้ลมีบันทึกการใช้งานล่าสัตว์ มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ในอังกฤษ โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นกลาง ที่ต้องการ “หมาขาลุย ขนาดพกพา” แต่ก่อนถูกเรียกชื่อทั่วไปว่า “สุนัขล่าเนื้อตัวเล็ก” แต่ชื่ออื่น ๆ ที่มักจะเรียกกัน คือ “บีเกิ้ลอังกฤษ” (5 กันยายน 2025) [1]
แม้ปัจจุบันภาพจำของน้องจะน่ารัก ขี้เล่น ขาสั้น แต่จริง ๆ แล้ว เป็นหนึ่งในหมาล่าสายกลิ่นที่แม่น และดื้อที่สุด จากการสำรวจกลุ่มผู้ฝึกสุนัข ในอังกฤษปี 2023 พบว่า บีเกิ้ลติดอันดับ 1 ใน 5 หมา ที่ฝึกให้หยุดดมยากที่สุด พลังงานของน้องไม่ใช่แค่ซน แต่คือ “พลังแบบไม่รู้จักหมด”
โดยเฉพาะเมื่อได้กลิ่นอะไรบางอย่าง จึงทำให้ในปัจจุบันนี้ บีเกิ้ลถูกใช้งานโดยหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เป็น “สุนัขตรวจจับ” สิ่งที่ผิดกฎหมาย ถ้าเข้าใจแค่ภาพน่ารัก แต่ไม่รู้ว่าน้องคือหมาล่าจริง ๆ ก็อาจเจอเซอร์ไพรส์ ตั้งแต่วันแรกที่เลี้ยง (9 พฤศจิกายน 2024) [2]
บีเกิ้ลแฮร์เรียได้รับการผสมพันธุ์ อย่างจริงจังในศตวรรษที่ 19 โดยการผสมพันธุ์สุนัขระหว่าง บีเกิ้ลกับแฮร์ริเออร์ เพื่อเติม “ความแกร่ง” ให้กับหมาล่ากลุ่ม Scent Hound ขนาดตัวจะอยู่กึ่งกลางระหว่าง บีเกิ้ลกับฟ็อกซ์ฮาวด์ สูงเฉลี่ย 48 – 55 ซม. หนักได้ถึง 34 กก.
น้องถูกออกแบบมาเพื่อ “ล่าต่อเนื่องระยะไกล” เป็นชั่วโมง ๆ แบบไม่หมดแรง อย่างการล่ากระต่ายป่า แม้จะดูสุภาพ แต่บีเกิ้ลแฮร์เรีย มีพลังงานแบบ “บ่อตื้น” ที่ต้องการการปล่อยออก อย่างจริงจังทุกวัน คนที่ไม่รู้จักสายพันธุ์นี้อาจเข้าใจผิดว่า เป็นบีเกิ้ลตัวโต ๆ ได้ (3 มีนาคม 2025) [3]
บีเกิ้ลมีพลังงานแบบจังหวะสั้น ๆ ซนไว เบื่อง่าย แต่ Reset เร็ว เหมาะกับบ้าน ที่มีเวลาวิ่งเล่นเป็นช่วง ๆ บีเกิ้ลแฮร์เรียพลังเยอะกว่า แต่ปล่อยออกเป็นรอบยาว ๆ ต้องการพื้นที่ และกิจกรรมที่ใช้แรงจริงจัง บีเกิ้ลเข้ากับเด็ก และครอบครัวง่ายกว่า
ส่วนแฮร์เรียต้องการเจ้าของที่ “นิ่งแต่ชัดเจน” ทั้งคู่มีแรงขับเรื่องกลิ่นสูง แต่ระดับการควบคุมแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น Beagle หรือ Beagle – Harrier ก็ต้องถามตัวเองก่อนว่า บ้านของทาสหมาพร้อมให้จังหวะชีวิต กับสุนัขแบบไหน
บีเกิ้ลคือหมาขี้เล่นที่ “พร้อมเปิดเกม” ได้ทุกเวลา โดยเฉพาะเมื่อได้กลิ่นอะไรน่าสงสัย พลังงานระดับนี้ ทำให้ต้องการการเดิน หรือออกกำลังกายอย่างน้อย วันละ 1 – 1.5 ชั่วโมง กว่า 70% ของเจ้าของมือใหม่ ที่เลี้ยงบีเกิ้ลรายงานว่า น้อง “แอบปีนออกนอกบ้าน”
หรือหนีเที่ยวอย่างมีเป้าหมาย แม้จะตัวเล็ก แต่น้องมีสกิลนักวางแผนซ่อนอยู่ และดื้อเงียบเกินกว่าที่หลายคนคาด จุดแข็งคือน้องเป็นมิตรกับคน รวมถึงสัตว์อื่น ๆ แถมยังเข้ากับบ้านที่มีเด็กได้ดี แต่ถ้าคิดว่าเลี้ยงไว้ให้เดินตามเฉย ๆ บีเกิ้ลอาจพาทาสหมา วิ่งตามแทนก็ได้
บีเกิ้ลแฮร์เรียอาจดูนิ่ง แต่จริง ๆ แล้ว น้องมีแรงสะสมแบบ “ทน วิ่ง ลุย ไม่อิดออด” การออกกำลังกายน้อยกว่า วันละ 2 ชั่วโมง มักทำให้เกิดพฤติกรรมเบื่อ หรือเดินตีวง ราว ๆ 60% ของคนที่เลี้ยงในเมืองพบว่า น้องต้องการพื้นที่มากกว่าที่คิด แม้จะปรับตัวได้
ด้วยนิสัย “พูดน้อย แต่แรงถึง” บีเกิ้ลแฮร์เรีย จึงไม่ใช่หมาที่จะอยู่เฉย ๆ ได้ทั้งวัน จุดดีคือน้องมีสมาธิ ไม่มีอาการคลอนแคลน และใช้พลังแบบตั้งใจ เหมาะกับคนที่มีจังหวะชีวิตนิ่งแต่ชัด ทาสหมาเลี้ยงได้แน่ ถ้าไม่เผลอคิดว่า เป็นแค่บีเกิ้ลเวอร์ชันขยาย Size
บีเกิ้ลอาจเหมาะกับบ้าน ที่มีเวลาให้วิ่งเล่นหลายช่วงต่อวัน แต่ไม่ซีเรียสเรื่องพื้นที่ ส่วนบีเกิ้ลแฮร์เรีย เหมาะกับเจ้าของ ที่พร้อมพาน้องออกแรงยาว ๆ แบบมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่เรื่องนิสัยหรือขนาด แต่คือการเลือกหมา ที่ “จังหวะชีวิตตรงกัน” จริง ๆ
Beagle คือหมาขี้เล่น ที่พร้อมสร้างความวุ่นวายในบ้าน แบบน่าเอ็นดู ส่วนบีเกิ้ลแฮร์เรียต้องการพื้นที่ และกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อระบายพลังอย่างจริงจัง ก่อนจะเลือกใคร ลองถามตัวเองก่อนว่า “บ้านของทาสหมา เหมาะกับเกมเบา ๆ หรือสนามลุยจริง”
บางครั้งเราก็เลือกหมาจากภาพในใจ มากกว่าความจริงของสายพันธุ์ แต่การเลี้ยงหมา ไม่ควรเริ่มจากความชอบ เพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือ ทาสหมาต้องเลือกให้ตรงกับชีวิต ไม่ใช่เลือกแล้วพยายามเปลี่ยนชีวิต ให้ตามหมา