
บาร์เบต เป็นพุดเดิ้ลไหม หรือแค่หน้าคล้ายกัน ?
- Pet Noi
- 66 views
บาร์เบต เป็นพุดเดิ้ลไหม คำถามนี้เกิดขึ้นบ่อย เพราะทั้งลักษณะขนหยิก หน้าตานุ่มละมุน และความเป็นหมาน้ำเหมือนกัน แทบทุกมิติ แต่ภายใต้ความคล้าย ยังมี “ต้นทางสายพันธุ์” บวก “ภารกิจดั้งเดิม” ที่ต่างกันแบบมีนัย มาสำรวจจุดเชื่อม – จุดต่าง ผ่านมุมที่ทั้งทาสหมา และคนรักหมาพันธุ์แรร์ ไม่ควรพลาด
บาร์เบตถูกบันทึกว่าเป็น หมาน้ำสายพันธุ์เก่าของฝรั่งเศส ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และถูกใช้งานในฐานะ “หมาล่าสัตว์” ส่วนพุดเดิ้ลแม้จะเป็นที่รู้จัก แต่หลายแหล่งเชื่อว่า มีสายเลือดโยงกับบาร์เบตโดยตรง ความใกล้ชิดทั้งในรูปลักษณ์ และจุดกำเนิด จึงกลายเป็นต้นเหตุของคำถาม ที่ยังคาใจมาจนถึงทุกวันนี้
บาร์เบตเป็นหนึ่งในหมาน้ำ สายเก่าแก่ของฝรั่งเศส จึงทำให้มีชื่อเรียกว่า “สุนัขน้ำฝรั่งเศส” โดยมีบันทึกย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 16 เป็นสุนัขขนาดกลาง ที่เข้าขั้นหายากมาก ๆ หน้าที่หลักของน้องคือ การล่านกน้ำในพื้นที่เปียก และดึงสัตว์จากน้ำกลับมาให้เจ้าของ
ตามรายงานของ Société Centrale Canine ได้จัดให้บาร์เบตเป็น “สุนัขล่าเนื้อ” และ “สุนัขน้ำ” จากนั้นถูกนำเข้ามาในสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2537 จนได้รับการรับรองในที่สุด ในปี พ.ศ. 2563 โดยบาร์เบตมีจำนวนจดทะเบียน ในฝรั่งเศสเพียงไม่ถึง 600 ตัวต่อปี
นอกจากนี้ กว่า 85% ของบาร์เบตที่เลี้ยงในบ้าน ยังคงมี “สัญชาตญาณลุยน้ำ” สูง แสดงพฤติกรรมชอบลงน้ำโดยธรรมชาติ แม้จะเริ่มปรับตัวเป็นหมาในครอบครัว แต่ต้นทางของสายพันธุ์ ก็ยังส่งผลชัดเจนต่อบุคลิกของน้อง จนถึงปัจจุบัน (25 พฤษภาคม 2025) [1]
แม้พุดเดิ้ลจะถูกจัดเป็น “สุนัขประจำชาติของฝรั่งเศส” แต่หลาย ๆ หลักฐานเชื่อว่า ต้นสายพันธุ์มีจุดร่วมกับบาร์เบต ในฝรั่งเศส โดย Poodle เป็นอีกหนึ่งสุนัขน้ำขนาดกลาง มีชื่อเรียกเฉพาะทั้งในภาษาเยอรมัน และภาษาของฝรั่งเศส (3 สิงหาคม 2025) [2]
ในช่วงศตวรรษที่ 17 – 18 มีการแลกเปลี่ยนสายพันธุ์ระหว่างประเทศ จนทำให้รูปลักษณ์ บวกหน้าที่ของทั้งคู่เริ่มคล้ายกัน ตามรายงานจาก European Breed History Review ปี 2022 ระบุว่า กว่า 60% ของนักวิจัยสายพันธุ์เชื่อว่า พุดเดิ้ลมีเชื้อสายจากบาร์เบต
ทั้ง 2 พันธุ์เคยถูกใช้งานในการล่า ในบทบาทเดียวกัน คือ “หมาลุยน้ำ” และมีนิสัยใกล้เคียงกันมากกว่า 70% ตามการสำรวจกลุ่มผู้เลี้ยง จุดต่างเพียงบางอย่างจึงถูกขยายในยุคหลัง เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้พุดเดิ้ลดูหรู ส่วนบาร์เบตยังคงลุคธรรมชาติ ไว้มากกว่า
ในสายตาคนเลี้ยง บาร์เบตจะดูนิ่งกว่า ขี้อ้อนน้อยกว่า แต่มี “แรงข้างใน” ที่พร้อมทำงานเสมอ เช่นเดียวกันกับ บูฮุนด์ สุนัขเลี้ยงแกะ ที่กระตือรือร้นอยู่ตลอด พร้อมทำตามคำสั่ง ขณะที่พุดเดิ้ลมักแสดงออกมากกว่า ช่างสังเกต และต้องการการมีปฏิสัมพันธ์ ต่อเนื่องตลอดวัน
หลายคนเปรียบว่า “บาร์เบตคือเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ แบบเงียบ ๆ” ส่วนพุดเดิ้ลคือ “เพื่อนที่ถามทุกชั่วโมงว่า วันนี้จะทำอะไรดี” ด้านการเลี้ยง พุดเดิ้ลต้องการความกระตือรือร้น จากเจ้าของมากกว่า ส่วนบาร์เบตหากได้ทำกิจกรรมหนัก วันละรอบ น้องจะสามารถพักได้เงียบ ๆ โดยไม่เรียกร้องเพิ่มเติม
บาร์เบตมีจังหวะชีวิตแบบ “เงียบก่อน แล้วพร้อมลุยถ้าจำเป็น” น้องจึงดูนิ่ง แต่ตอบสนองไวเมื่อต้องลงมือ พุดเดิ้ลในทางตรงกันข้าม มักใช้พลังแบบกระจายตลอดวัน มีความขี้เล่น กับการจดจ่อกับเจ้าของมากกว่า ถ้าเป็นในบ้าน บาร์เบตสามารถอยู่นิ่ง ๆ ได้หลายชั่วโมง หากได้ออกกำลังกายมาแล้ว
แต่พุดเดิ้ลจะเดินตาม ถามหา และต้องการมีบทสนทนาอยู่เรื่อย ๆ คนที่ชอบความเงียบ ความเรียบ อาจเข้ากับบาร์เบตได้ดีกว่า ขณะที่คนชอบความคึกคัก น่าจะถูกใจพุดเดิ้ล นิสัยพื้นฐานเหล่านี้ไม่ได้แปลว่า ใครดีกว่าใคร แต่อาจหมายถึง “ใครเหมาะกับคุณมากกว่า” ต่างหาก
ขนของบาร์เบตหนา และหยิกเล็กน้อย ต้องการการอาบน้ำ บวกการแปรงขนหลังอาบน้ำให้ทั่วตัว อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง เพื่อป้องกันการพันกัน แนะนำให้เล็มขนออกประมาณ 3 – 5 นิ้ว (2025) [3] ขณะที่พุดเดิ้ลมีขนหยิกแน่นกว่า ต้องตัดแต่งทุก ๆ 4 – 6 สัปดาห์
และแปรงเกือบทุกวัน โดยเฉพาะในบ้านที่เปิดแอร์ ด้านสุขภาพ พุดเดิ้ลมีแนวโน้มเจอปัญหา เกี่ยวกับข้อสะโพกและตา ในขณะที่บาร์เบต มักมีความเสี่ยงเรื่องผิวหนัง รวมถึงหูอับชื้น หากอาศัยในเมือง พุดเดิ้ลจะเข้ากับพื้นที่แคบได้ดีกว่า
เพราะปรับตัวเร็ว และต้องการพื้นที่น้อย ส่วนบาร์เบตเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เดิน มีสวนหน้าบ้าน ไม่ก็หลังบ้านกว้าง ๆ หรือเจ้าของที่มีเวลาพาน้อง ออกไประบายพลัง ทั้ง 2 พันธุ์ดูแลไม่ยาก แต่ต้องเข้าใจ “จังหวะการดูแล” ที่ต่างกันอย่างชัดเจน
บาร์เบตกับพุดเดิ้ลมีจุดร่วมหลายอย่าง ทั้งรูปลักษณ์ หน้าที่ดั้งเดิม รวมถึงความสามารถในน้ำ แต่เมื่อลงลึกถึงนิสัย พลังงาน และการใช้ชีวิต ความต่างก็ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายแล้ว ความเหมือนภายนอก อาจไม่สำคัญเท่ากับว่า “ใคร” เหมาะกับ “ชีวิตแบบไหน” มากกว่า
หมาบางตัวอาจดูคล้ายกันแค่ภายนอก แต่ตัวตนข้างในอาจต่างกันมาก จนเราคาดไม่ถึง การเลือกหมาสักตัว จึงไม่ควรจบแค่คำว่า “น่ารัก” หรือ “หน้าคุ้น” เพราะหมาที่ใช่ คือหมาที่เข้ากับชีวิตเรา เข้ากับไลฟ์สไตล์จริง ๆ ไม่ใช่แค่ภาพที่เราอยากเห็น
บางครั้งเราก็เผลอเลือกหมา จากภาพในใจ มากกว่าความจริงในชีวิตประจำวัน แต่หมาไม่ใช่สิ่งที่เราปั้น ให้ตรงใจได้เสมอไป เพราะสิ่งสำคัญกว่าการเลือก ให้ถูกใจตัวเองนั้น คือการยอมรับในแบบที่พวกมันเป็น ตั้งแต่แรกต่างหาก