
เรื่องน่ารู้ของ ตะกร้อลอดห่วง กติกา ต้นกำเนิดจาก “ไทยแท้”
- Pink Panther
- 138 views
ตะกร้อลอดห่วง กติกา นับเป็นหนึ่งในกีฬา และกิจกรรมนันทนาการ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่เป็นประเทศต้นกำเนิด จากหลักฐานการยืนยัน ที่ถูกบันทึกไว้ตั้งแต่รัชสมัยของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่จะมีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างไร ตามไปดูกันได้แล้ว ในบทความนี้
ตะกร้อลอดห่วง หรือ “Hoop Takraw” เป็นหนึ่งในรูปแบบการเล่นของกีฬา ตะกร้อ ที่เป็นการละเล่นของไทยมาตั้งแต่สมัยอดีต จนกระทั่ง ได้ถูกนำมาปรับใช้ เพื่อการแข่งขันในกีฬาประเภทต่าง ๆ ที่นอกจากจะเป็นกีฬาของคนไทยแล้ว จะมีข้อมูลอะไร ที่เราต้องศึกษาอีกบ้าง ตามไปดูกัน
กีฬาตะกร้อลอดห่วง ถูกพบครั้งแรกในรัชสมัยของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา โดยคนไทยมีการเริ่มต้นเล่นตะกร้อ ที่ทำขึ้นด้วย “หวาย” ซึ่งจะเล่นในลักษณะของ “การล้อมวงเตะ” ที่อยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2133-2149 ซึ่งถูกบันทึกขึ้นจากคณะสอนศาสนาชาว “ฝรั่งเศส”
จนกระทั่ง ในช่วงปี พ.ศ. 2468-2477 ซึ่งเป็นรัชสมัยของ สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ก็ได้มีการปรับปรุง และดัดแปลง การเล่นตะกร้อขึ้นหลายรูปแบบ ได้แก่ ตะกร้อลอดห่วง ตะกร้อข้ามตาข่าย ตะกร้อชิงธง ตะกร้อพลิกแพลง และการติดตะกร้อตามร่างกาย เป็นต้นฃ
ที่มา: ประวัติศาสตร์กีฬาตะกร้อของประเทศไทย [1]
กติกา และวิธีการเล่น กีฬาตะกร้อลอดห่วง ผู้เล่นจำนวน 6-7 คน จะยืนรอบห่วง ในลักษณะเป็นรูปวงกลม โดยผู้เล่นแต่ละคน จะต้องพยายามเตะลูกตะกร้อ ด้วยท่าทางต่าง ๆ ซึ่งจะกำหนดให้ลอยเข้าห่วง ในจำนวนที่มากที่สุด เป็นเวลา 40 นาที โดยไม่มีการพักลูก โดยท่าทางของแต่ละคน จะมีคะแนนที่แตกต่างกันไป
การนับคะแนน
อุปกรณ์
ที่มา: ตะกร้อลอดห่วง [2]
นับตั้งแต่ในอดีต การแข่งขันตะกร้อลอดห่วง มักจะถูกจัดขึ้นเป็นรายการใหญ่ ณ ลานกว้างของท้องสนามหลวง แต่ปัจจุบันเพื่อความเหมาะสม กีฬาประเภทนี้ ได้ถูกนำเข้ามาแข่งขันในสนามกีฬา และห้างสรรพสินค้าแทน ซึ่งรายการการแข่งขันของตะกร้อลอดห่วง จะมีชื่อว่าอย่างไร ตามไปดูกัน
ปัจจุบัน การแข่งขันตะกร้อลอดห่วง ชิงแชมป์โลก ได้ถูกจัดขึ้นในชื่อ การแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ซึ่งถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 37 โดยมีนายธนา ไชยประสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย พร้อมนักกีฬาจาก 29 ประเทศ เข้าร่วมการแข่งขัน ณ เทอร์มินอล21
โดยการแข่งขันที่น่าสนใจ ก็คือ ตะกร้อลอดห่วงประเภททีมชาย ที่มีถึง 16 ทีมเข้าร่วม ผ่านการแข่งขันจัดอันดับ 1-4 เพื่อเข้าชิงชนะเลิศ โดยทีมไทยเจ้าของแชมป์ 22 สมัย ซึ่งประกอบไปด้วย ไชยา วัตถาโน, โกมินทร์ เนาว์นนท์ และ นันทิพัฒน์ ศรีรัตนชาติ ก็ได้ผ่านรอบชิงชนะเลิศ ไปอีกเช่นเคย
ที่มา: เปิดศึกตะกร้อชิงแชมป์โลก คิงส์คัพ ไทยชิงลอดห่วง ลุ้นแชมป์สมัย 23 [3]
การเล่นตะกร้อลอดห่วง ถือเป็นการละเล่น ที่มีมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งจะมีลักษณะวิธีการเล่น ที่สอดคล้องกับอุปนิสัยของคนไทย จากการใช้อวัยวะ เช่น เท้า ศอก เข่า และศีรษะ เพื่อฝึกซ้อมการต่อสู้ และป้องกันตัว ที่นอกจากจะได้รับความสนุกสนานแล้ว กีฬาประเภทนี้ ยังให้ประโยชน์อีกด้วย
คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ newsportolympic
สรุป ตะกร้อลอดห่วงกติกา กีฬาที่มีต้นกำเนิดมาจากไทยแท้ ๆ ที่นอกจากจะมีประวัติศาสตร์เก่าแก่แล้ว กีฬาประเภทนี้ ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่แพ้กีฬาเซปักตะกร้อประเภทอื่น ๆ เลย ซึ่งถือว่าเป็นกีฬาที่หาเล่นได้ง่าย ด้วยอุปกรณ์เพียงน้อยนิด ที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
โดยทั่วไปแล้ว การแข่งขันตะกร้อลอดห่วง จะใช้ระยะเวลาในการแข่งขัน ประมาณ 40 นาที โดยไม่มีการพักลูก นอกจากกรณีที่ผู้เข้าแข่งขันเกิดอุบัติเหตุ ในระหว่างการแข่งขันอยู่ กรรมการจึงจะสามารถพิจารณาได้ว่า จะให้หยุดการแข่งขันหรือไม่ ซึ่งจะไม่เกิน 3 นาที และใช้การทดเวลาแทน
ตะกร้อลอดห่วงนั้น สามารถเป็นได้ทั้งกิจกรรมนันทนาการ และเกมการแข่งขัน ที่สามารถเข้าร่วมได้ทั้งชาย และหญิง แต่ส่วนใหญ่แล้ว จะได้รับความนิยม ในกลุ่มของนักกีฬาชายมากกว่า หรือสำหรับใครที่จะใช้เล่นเพื่อเป็นการออกกำลังกาย และเล่นเพื่อสุขภาพ ก็สามารถเล่นได้เช่นกัน