
เทียบให้ชัด ชิโกกุ vs ชิบะอินุ ตัวไหนใช่สำหรับคุณจริง ๆ
- Pet Noi
- 122 views
ชิโกกุ vs ชิบะอินุ สองหมาญี่ปุ่นขวัญใจทาสหมา ที่หลายคนแยกไม่ออกว่า เหมือนหรือต่างกันแค่ไหน ทั้งคู่มีเสน่ห์เฉพาะตัว แต่นิสัย พลังงาน และความเข้ากับคนนั้น ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด บล็อกนี้จะพาไปเทียบแบบชัด ๆ ว่า สุนัขพันธุ์กลาง ราคาแพง ตัวไหน ที่ “ใช่จริง ๆ” สำหรับคุณ
ชิโกกุเป็นสุนัขนักล่าจากภูเขา ในแถบชิโกกุตอนใต้ของญี่ปุ่น มีการขึ้นทะเบียนเป็น “สมบัติทางวัฒนธรรม” ตั้งแต่ปี 1937 ต่อมาถูกยกระดับให้เป็น “อนุสรณ์สถานแห่งชาติ” ของญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2480 โดยทางสมาคมอนุรักษ์สุนัขญี่ปุ่น (7 สิงหาคม 2025) [1]
ส่วนชิบะอินุเป็นพันธุ์พื้นเมือง ที่มีการเกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ชิบะเกือบสูญพันธุ์ แต่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ มีพื้นเพต่างกันชัดเจน ชิโกกุคือหมานักล่าภูเขา ส่วนชิบะคือหมาขี้เล่นแห่งเมืองชนบท (9 พฤษภาคม 2025) [2]
แหล่งกำเนิดของชิโกกุ อยู่บนเกาะทางใต้ของญี่ปุ่น ในภูเขาที่เต็มไปด้วยป่า และความชัน มันถูกพัฒนาขึ้นจากสุนัขขนาดกลาง ที่เคยมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณ เพื่อใช้ล่าสัตว์ใหญ่ อาทิเช่น หมูป่าและกวาง จึงมีนิสัยระวังตัว บางครั้งผู้คนเรียกพวกมันว่า “โคจิ เคน” (2025) [3]
ปัจจุบันในญี่ปุ่น มีการจดทะเบียนชิโกกุ เฉลี่ยราว ๆ 3,000 ตัวทั่วประเทศ ถือว่าใกล้สูญพันธุ์ในระดับหนึ่ง พวกมันมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 18 – 25 กก. สูงประมาณ 50 – 55 ซม. ถึงจะไม่ใช่หมาขี้อ้อน แต่ชิโกกุจงรักภักดี และเชื่อฟังเจ้าของอย่างเงียบ ๆ แบบไม่ต้องเรียกร้อง
ชิบะอินุเป็นหนึ่งในสายพันธุ์หมาญี่ปุ่น ที่เก่าแก่ที่สุด และได้รับความนิยมสูงสุด ในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีการจดทะเบียนมากกว่า 80,000 ตัวทั่วญี่ปุ่น ในแต่ละปี นับว่าสูงกว่าหมาญี่ปุ่น สายพันธุ์อื่น ๆ อย่างชัดเจน น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 7 – 10 กก. มีความสูงประมาณ 35 – 40 ซม.
เหมาะกับบ้านพื้นที่จำกัด พวกมันมีบุคลิกขี้เล่น แอบดื้อ และเลือกเปิดใจเฉพาะกับคนที่ไว้ใจ ถึงจะหน้าตาน่ารัก แต่ก็แอบหวงของ ขี้ระแวง และไม่ยอมให้ใครมาสั่งง่าย ๆ ทาสหมาที่อยากเลี้ยงชิบะ อาจจะต้องเข้าใจนิสัย ที่ “มีพื้นที่ส่วนตัว” ของพวกมันให้ดี
แม้จะเป็นหมาญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ชิโกกุกับชิบะ มีนิสัยต่างกันแบบรู้สึกได้ทันที เมื่ออยู่ร่วมบ้านกัน ชิโกกุสุขุม เงียบ ไม่วุ่นวาย ภักดีแบบสงบนิ่ง ในขณะที่ชิบะจะขี้เล่นกว่า ดื้อกว่า ชอบแสดงออก ชิบะจะวิ่งซนรอบบ้าน ขณะที่ชิโกกุมักจะเลือกมองก่อนขยับ
เวลามีสิ่งเร้า หรือแขกมาเยือน ชิบะอาจเห่าใส่ก่อน แต่ชิโกกุจะจับตามองเงียบ ๆ คนที่ชอบความนิ่งจะถูกใจชิโกกุ ส่วนคนที่ชอบหมากวน ๆ ขี้อ้อน จะตกหลุมรักชิบะแบบไม่รู้ตัว การอยู่ร่วมกันจึงขึ้นอยู่กับว่า เจ้าของเข้าใจ และจัดพื้นที่ให้หมาทั้ง 2 ได้เคารพกันและกันไหม
ชิโกกุสุขุม วางตัวนิ่ง แต่จงรักภักดีแบบไม่ต้องเรียกร้อง พวกมันได้รับการขึ้นทะเบียน เป็น “สมบัติแห่งชาติ” ของญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1937 ปัจจุบันมีการจดทะเบียน เฉลี่ยราว ๆ 300 ตัวต่อปี ถือว่ายังหายาก แต่ยังมีฐานพันธุ์ที่ชัดเจน ปกติราคาลูกสุนัขชิโกกุ หลังนำเข้าประมาณ 3,000 – 4,000 ดอลลาร์
เพราะเป็นสายพันธุ์หายากนอกญี่ปุ่น ส่วนอัตราการเลี้ยงในต่างประเทศ ยังถือว่าน้อยมาก ทำให้โอกาสเจอในชีวิตจริง แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ ความนิ่ง สุขุม ภักดีแบบไม่เรียกร้อง คือสิ่งที่คนเลี้ยงจะเห็นทันที เมื่อได้ทำความรู้จักกับเจ้าสุนัข อารมณ์สงบตัวนี้
ชิบะอินุเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองยอดนิยมในญี่ปุ่น ถึงขั้นได้รับการประกาศ เป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติมาแล้ว ในแต่ละปีมีลูกชิบะ ได้จดทะเบียนมากกว่า 80,000 ตัว แสดงถึงความแพร่หลาย และความต้องการสูง โดยราคาจากฟาร์มคุณภาพ บนตลาดสหรัฐมักอยู่ที่ 1,400 – 3,500 ดอลลาร์
ขึ้นอยู่กับสายเลือด และความหายากด้วย ส่วนราคาตามฟาร์มเพาะพันธุ์ในไทย จะอยู่ที่ช่วง 40,000 – 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับฟาร์มนั้น ๆ (26 เมษายน 2022) [4] ด้วยนิสัยดื้อเบา ๆ และขี้เล่นของมัน มักทำให้ตกหลุมรักได้ง่าย แม้เจ้าของจะเลือกเข้าใจ แต่ก็ต้องมีความอดทน
อีกทั้งนิสัยที่ชอบความท้าทาย ไม่อยู่กับที่ ถ้าเจ้าของปล่อยให้มันได้เล่น มันจะตอบแทนด้วยความรัก แบบไม่ต้องร้องขอ ชิบะไม่ใช่หมาเงียบ ๆ แต่เป็นเพื่อน 4 ขาที่มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยความสนุก ถ้าเข้าใจมันตั้งแต่ก่อนเลี้ยง หรือหลังเลี้ยง ก็ไม่มีทาสหมาคนไหนเลิกรักได้ง่าย ๆ
ชิโกกุเหมาะกับคนที่ชอบหมาสุขุม ภักดี และพร้อมใช้เวลา ไปกับความสัมพันธ์เงียบ ๆ แบบลึกซึ้ง ส่วนชิบะอินุเหมาะกับเจ้าของ ที่เข้าใจอารมณ์หมาขี้เล่น หมาดื้อ และพร้อมปรับตัวไปด้วยกัน สุดท้ายแล้ว ไม่ใช่แค่การเลือกหมา แต่คือการเลือกเพื่อน 4 ขา ที่เข้ากับชีวิตคุณที่สุดจริง ๆ
บางคนหลงรักความเงียบสงบ ที่มั่นคงแบบชิโกกุ ขณะที่บางคนยิ้มไม่หยุด กับความกวนของชิบะ หมานิ่งให้อารมณ์เพื่อนคู่คิด ส่วนหมาขี้เล่นเติมสีสันให้บ้านไม่เงียบ คำถามจึงไม่ใช่ว่า หมาตัวไหนดีกว่ากันแน่ แต่ทาสหมาชอบอยู่กับพลังแบบไหน ในทุก ๆ วันมากกว่า
การเลี้ยงชิโกกุหรือชิบะ ไม่ใช่แค่เรื่องความน่ารัก แต่คือการรับมือกับนิสัยเฉพาะ ที่อาจไม่ง่ายในทุกวัน ทั้งความดื้อ ความเงียบ หรือการเลือกเปิดใจของแต่ละตัว ล้วนเป็นบททดสอบใจคนเลี้ยง ถ้าทาสหมาพร้อมเข้าใจ ไม่ใช่แค่สั่งให้เชื่อใจ หมาทั้ง 2 สายพันธุ์ก็พร้อมจะรักกลับ แบบไม่มีเงื่อนไข