
คิชู เคน หายากไหม ในปี 2025 สำรวจจำนวนจริงทั่วโลก
- Pet Noi
- 96 views
คิชู เคน หายากไหม ในปีล่าสุด คำถามนี้อาจไม่มีคำตอบเดียว เพราะจำนวนไม่ใช่ตัวแปรทั้งหมด ที่กำหนดคุณค่าของสายพันธุ์นี้ แม้จะมีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนรักหมาเฉพาะทาง แต่ชื่อของคิชู กลับแทบไม่เคยปรากฏในชีวิตประจำวัน บล็อกนี้จะพาไปสำรวจจำนวนจริงทั่วโลก
ในญี่ปุ่น ปริมาณสุนัขคิชูเคน ที่จดทะเบียนลดลงอย่างชัดเจน จากประมาณ 2,443 ตัวในปี 1993 เหลือเพียง 252 ตัวในปี 2019 ในช่วงปี 2020 – 2021 จำนวนยังคงลดต่อเนื่อง อยู่ที่ 250 ตัว ตามข้อมูลการจดทะเบียนของ Nihon Ken Hozonkai
ส่วนนอกญี่ปุ่นตัวเลขต่ำ อาทิเช่น ในสหรัฐอเมริกา มีการบันทึกผ่าน National Kishu Ken Club เพียง 69 ตัว ระหว่างปี 2009 ถึงสิ้นปี 2022 เท่านั้น เหมือนกันกับสุนัขไคเคน หมาพื้นเมืองจากญี่ปุ่น ที่มักถูกถามบ่อย ๆ ว่า ทำไม ไคเคนหายาก แล้วปัจจุบันเหลืออยู่กี่ตัว
“คิชูเคน” หรืออีกหลาย ๆ ชื่อที่ถูกตั้งว่า คิชูอินุ, ไทจิเคน หรือคุมาโนะเคน สุนัขขนาดกลางโบราณ ที่ได้รับการยกย่อง ในเรื่องของการล่าหมูป่า ล่ากวาง โดยในปี 1993 เคยมีการจดทะเบียนสุนัขคิชู ในญี่ปุ่นสูงถึง 2,443 ตัว แต่ตัวเลขนี้ลดลงเหลือเพียง 252 ตัวในปี 2019 (18 สิงหาคม 2025) [1]
นับว่าเป็นการลดลงที่ชัดเจน ภายในช่วงเวลาแค่ 2 ทศวรรษ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่า คิชูกำลังเผชิญวิกฤต สำหรับพันธุ์พื้นเมืองหายาก ข้อมูลล่าสุดจากปีหลัง 2019 ยังไม่มีรายงานตัวเลขแน่ชัด แต่แนวโน้มยังเป็นการลดลงต่อเนื่อง ในงานประกวดสายพันธุ์ครั้งหนึ่ง พบว่ามีเพียง 51 ตัวเท่านั้น
ที่ปรากฏในญี่ปุ่นในช่วงนั้น ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า จำนวนคิชูเคนในประเทศบ้านเกิด ลดลงอย่างน่ากังวล และยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวในทันที อาจจะเนื่องจากหลาย ๆ เหตุผล หลาย ๆ ปัจจัย ที่อาจส่งผลทำให้การเพาะพันธุ์ เกิดปัญหาขั้นรุนแรง ก็มีความเป็นไปได้
ถึงแม้คิชูเคนจะเป็นสายพันธุ์ญี่ปุ่น แต่ในต่างประเทศ ตัวเลขที่จดทะเบียนก็น้อยมาก โดยในสหรัฐฯ มีผู้จดทะเบียนผ่าน National Kishu Ken Club เพียงประมาณ 69 ตัวในช่วงปี 2009 – 2022 (ไม่มีการเพิ่มขึ้นที่ชัดเจนในช่วงนั้น) นอกจากนี้ นิยมลงทะเบียนใน AKC
ซึ่งยังไม่ทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ นับว่าแทบไม่มีการขยายสายพันธุ์ทั่วโลก การนำเข้าสายพันธุ์เข้าประเทศอื่น ก็ไม่ได้มาก เพราะยังเป็นสุนัขแรร์ ในสายตาชุมชนคนรักหมา ทำให้คิชูเคนดูเหมือน “ตำนานที่เดินได้” มากกว่าหมาธรรมดา
รวม ๆ แล้ว หากวัดกันที่จำนวนตามในข้อมูล หรือโอกาสพบเจอในต่างประเทศ บอกเลยว่าน้อยจนดูเหมือนสูญพันธุ์แล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคิชูสุนัขที่มีความอดทน แสดงให้เห็นถึงความสูงส่ง ด้วยการเป็นสุนัขนักล่าสัตว์ขนาดใหญ่ ถึงหายากขนาดนี้ (2025) [2]
ด้วยคำถามที่ว่า คิชูเคนหายากไหม ปัจจุบันจำนวนคิชูเคนที่ลดลง ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยด้านมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ญี่ปุ่นมีข้อจำกัดในการส่งออก สัตว์เลี้ยงสายพันธุ์พื้นเมือง ทำให้การแพร่กระจายของคิชู เป็นไปได้น้อย
ในขณะเดียวกัน บุคลิกของคิชูที่สงบนิ่ง และระวังตัว ก็อาจไม่ตรงใจคนเลี้ยงทั่วไป ทั้งหมดนี้รวมกัน กลายเป็นเงื่อนไขหลักสำคัญ ที่ทำให้ Kishu Inu ยังคงเป็น “สายพันธุ์หายาก” มาจนถึงปัจจุบัน และราคาค่าตัวก็แพงพอ ๆ กับสุนัขพันธุ์ญี่ปุ่นอื่น ๆ
แม้มีโอกาสส่งออกบ้าง แต่ต้นทุนไม่ธรรมดา เพราะค่าขนส่งกรง พร้อมเอกสารและวัคซีน อาจพุ่งแตะ 20,000 – 40,000 เยนต่อเที่ยว ซึ่งยังไม่รวมค่ากักตัว และการขนส่งทางอากาศ แบบเป็นสินค้า เมื่อรวมกับกระบวนการเคร่งครัด อาทิเช่น ตรวจเลือดหลายขั้นตอน
ทำให้เฉลี่ยการส่งออกคิชูต่อปี มีเพียง “ไม่กี่ตัว” เท่านั้น ในต่างประเทศ โดยราคาลูกสุนัขมือหนึ่ง มักอยู่ช่วง 1,200 – 1,500 ดอลลาร์ ตีออกมาเป็นค่าเงินไทย ได้ประมาณ 45,000 – 55,000 บาท เมื่อรวมค่าดูแลและส่งออก แถมบางฟาร์มในสหรัฐฯ ออกค่าโดยสารเพิ่มเติม
และค่ามัดจำรอรับถึง 600 ดอลลาร์ อีกด้วย ทั้งหมดนี้รวมกันกลายเป็น “ค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อน” ที่ทำให้โอกาสส่งออก แทบจบที่ความตั้งใจ ไม่ใช่ข้อมูลเพียงแค่เลขในบัญชี นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมคิชูถึงแทบไม่เคยออกนอกญี่ปุ่น และยังคงเป็นสายพันธุ์ที่หายาก มาจนถึงปัจจุบัน
คิชูเคนเป็นสุนัขที่มีนิสัยเงียบ สุขุม และค่อนข้างระวังตัวกับคนแปลกหน้า ไม่ใช่สายพันธุ์ที่เข้ากับทุกคนได้ง่าย และมักเลือกเปิดใจเฉพาะ กับเจ้าของที่ผูกพันจริง ๆ จึงทำให้เป็นสุนัขประจำครอบครัวได้ดี แถมนิสัยบางส่วน ยังมีส่วนคล้ายกับชิบะอินุ อย่างการซื่อสัตย์กับเจ้าของ (30 มีนาคม 2022) [3]
พฤติกรรมแบบนี้อาจขัดกับภาพจำ ของคนทั่ว ๆ ไปที่มองหาหมาขี้เล่น เข้ากับคนง่าย แม้จะภักดีและฉลาด แต่การฝึก บวกการดูแลด้านต่าง ๆ อาจจะต้องอาศัยความเข้าใจ ไม่ใช่เพียงความน่ารักภายนอก จึงไม่แปลกที่คิชูจะไม่ถูกเลือก และยังคงเป็นหมาที่เข้าใจยาก ในสายตาคนเลี้ยงทั่วไป
จำนวนที่ลดลงคือสิ่งสะท้อนความหายาก ของคิชูเคนในระดับพื้นฐาน แต่สิ่งที่ทำให้พวกมัน “หายากจริง ๆ” อาจคือการเข้าถึง ความเข้าใจ และความเหมาะสมในการเลี้ยง Kishu Inu ไม่ได้หายากแค่ในเชิงตัวเลข แต่ยังหายากในใจคน ที่เข้าใจมันอย่างแท้จริง
สำหรับนักอนุรักษ์ คิชูเคนคือสายพันธุ์หายาก ที่ต้องปกป้องเอาไว้ ไม่ต่างจากสุนัขพื้นเมืองญี่ปุ่นอื่น ๆ แต่สำหรับคนทั่วไป พวกมันอาจเป็นแค่หมาหน้าตาธรรมดา ที่ไม่ค่อยคุ้นตา คำว่าหายากจึงขึ้นอยู่กับว่า ทาสหมาส่วนใหญ่ มองด้วยสายตาแบบไหน
ไม่ใช่ทุกอย่างที่หายากจะมีคุณค่า แต่บางอย่างที่มีคุณค่า มักไม่ได้อยู่ในสายตาใครง่าย ๆ คิชูเคนอาจไม่ใช่หมา ที่ใครก็เลี้ยงได้ แต่สำหรับคนที่เข้าใจ มันคือเพื่อนแท้ที่คู่ควร ความหายากของมันจึงไม่ใช่แค่สถิติ แต่คือความเฉพาะตัว ที่รอคนที่มองเห็นจริง ๆ