
ความเป็นมา มวยปล้ำ กีฬาการต่อสู้ที่ดุเดือด
- sunflower
- 172 views
ความเป็นมา มวยปล้ำ เป็นกีฬาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่ในโอลิมปิกโบราณ มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งกฎและกติกาต่าง ๆ ได้มีการพัฒนา และเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ดังนั้นเพื่อให้คุณทราบถึงข้อมูลของมวยปล้ำเบื้องต้น แนะนำให้ลองอ่านจากบทความนี้ เพื่อทำความเข้าใจถึงรายละเอียดต่าง ๆ
มวยปล้ำเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ถูกหยิบยืมมาจากกรีก ในช่วงสมัยโรมันโบราณ เป็นวิธีการต่อสู้ที่ดุเดือด โดยในศตวรรษที่ 15 มวยปล้ำได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้สูงศักดิ์ และครอบครัวของเชื้อพระวงศ์ ทั้งในฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และประเทศอังกฤษ เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในงานรื่นเริง งานเลี้ยง วันหยุดฉลอง และกีฬาของกองทัพ
ในปี ค.ศ. 1888 ได้มีการจัดการแข่งขันมวยปล้ำระดับชาติ ในเมืองนิวยอร์ก ขึ้นเป็นครั้งแรก และยังเป็นกีฬาอันดับต้น ๆ ในการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงเอเธนส์ ในปี ค.ศ. 1896 รวมถึงมีการจัดการแข่งขันในรูปแบบ Greco-roman โดยไม่จำกัดน้ำหนักของผู้เข้าแข่ง
ต่อมาในปี ค.ศ. 1908 มวยปล้ำแบบ Greco-roman ได้รับการบรรจุลงในกีฬาโอลิมปิก รวมถึงกีฬามวยปล้ำในรูปแบบอิสระ ที่ได้บรรจุลงในโอลิมปิกด้วยเช่นกันในปี ค.ศ. 1904 ต่อมาในปี ค.ศ. 2001 สมาคมกีฬาโอลิมปิกสากล ได้เพิ่มประเภทของมวยปล้ำขึ้นอีก 2 แบบคือ
ที่มา: มวยปล้ำ [1]
ค่ายมวยปล้ำ Setup Thailand Pro Wresting เป็นค่ายมวยปล้ำที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดย ปูมิ – ปริชญ์ภูมิ บุณยทิต และ ปักษา – พิเชษฐ์ ก๊วยสินทรัพย์ เพื่อต้องการผลักดันมวยปล้ำไทย เป็นแหล่งรวมตัวของผู้ที่ชื่นชอบ และหลงใหลในกีฬามวยปล้ำ ให้มีพื้นที่แลกเปลี่ยนทักษะ และเพื่อรับชมโชว์มวยปล้ำ
โดยมวยปล้ำไทย ได้มีการพัฒนาและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีนักกีฬามวยปล้ำ ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โมโนมอธ, Shivam หรือว่า Terry Diesel โดยบุคคลที่ได้กล่าวไปนี้ เป็นกลุ่มบุคคลที่เคยได้รับการเข้าไปคัดตัว เพื่อเข้าร่วม สมาคม WWE ค่ายมวยปล้ำระดับโลก
ที่มา:เปิดประวัติมวยปล้ำ [2]
กีฬามวยปล้ำ เป็นการต่อสู้ที่มีวัตถุประสงค์หลักคือ การกดคู่ต่อสู้ให้ติดพื้น โดยใช้การกดหัวไหล่ของคู่ต่อสู้ ให้ติดพื้นเป็นระยะเวลา 1 วินาที ซึ่งเราจะเรียกวิธีนี้ว่า “การล้ม” เพราะเป็นวิธีที่ทำให้การแข่งขันสิ้นสุดลงทันที ซึ่งหากในการแข่งขัน ไม่มีการกดหัวคู่ต่อสู้ให้ติดพื้น นักกีฬาจะต้องทำการสะสมคะแนนให้มากขึ้น โดยการใช้เทคนิค หรือ การเคลื่อนไหวภายในกฎ เพื่อให้ชนะการแข่งขัน
ผู้แข่งขันมวยปล้ำ สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ ด้วยการล้มเทคนิคัล คือ การแสดงให้คู่ต่อสู้เห็นถึงความเหนือกว่า ก่อนที่จะหมดเวลาแข่งขัน ซึ่งเกณฑ์การให้คะแนนสำหรับเทคนิคนี้นั้น ผู้แข่งขันจะต้องมีคะแนนนำในการปล้ำฟรีสไตล์ 10 คะแนน และคะแนนนำในการปล้ำกรีก-โรมัน อีก 8 คะแนน
โดยการแข่งขันจะสิ้นสุดลงเมื่อ ผู้เข้าแข่งขันคนใดคนหนึ่ง ได้รับการเตือนจากกรรมการครบ 3 ครั้ง ทำให้ถูกตัดสิทธิ์ หรือ ผู้เข้าแข่งขันถอนตัว เนื่องจากได้รับการบาดเจ็บนั่นเอง
ที่มา: มวยปล้ำ 101: กฎและข้อบังคับของโอลิมปิก [3]
การตักเตือนคือการลงโทษ ในกรณีที่นักมวยปล้ำทำการละเมิดกฎข้อบังคับหลายประการ ดังนี้
การตักเตือนอาจเป็นการลงโทษที่มาพร้อมกับ การมอบคะแนนให้กับฝ่ายตรงข้าม โดยคะแนนที่จะมอบให้กับฝ่ายตรงข้ามนั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการทำผิด ซึ่งหากนักมวยปล้ำ ได้รับการเตือนครบ 3 ครั้ง ในระหว่างการแข่งขัน จะถูกตัดสิทธิ์ในการแข่งลงทันที กรณีที่มีผลคะแนนเสมอกัน การตักเตือนถือเป็นอีกหนึ่งวิธี ที่นำมาใช้ในการตัดสิน ซึ่งการตักเตือนแต่ละครั้ง นักกีฬาสามารถท้าทายได้โดยการร้องขอ
หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ the benefits of wrestling ได้ที่ sportcom
สรุปแล้ว ความเป็นมา มวยปล้ำ เรื่องราวของศิลปะการต่อสู้ ที่แฝงไปด้วยความน่าตื่นเต้น และความฮาร์ดคอของกีฬาชนิดนี้ ทำให้สามารถครองใจผู้คนที่ชื่นชอบการต่อสู้แบบรุนแรง เป็นการเปิดประสบการณ์ความบันเทิงของสังเวียนคาดเชือก ที่ครองใจผู้คนทั่วโลก
มวยปล้ำถือเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่ง ที่ได้รับความนิยม ตั้งแต่มีการบันทึกในประวัติศาสตร์ มายาวนานจนถึงปัจจุบัน
หลักของการเล่นมวยปล้ำคือ การกดคู่ต่อสู้ให้ติดพื้น โดยใช้วิธีการกดหัวไหล่ของคู่ต่อสู้ ให้ลงไปติดกับพื้น ในระยะเวลาประมาณหนึ่งวินาที