
กีฬา ศิลปะการต่อสู้ แนวทางป้องกันตัวเองที่หลากหลาย
- sunflower
- 185 views
กีฬา ศิลปะการต่อสู้ ในบทความนี้ เป็นการพูดถึงความเป็นมาของการต่อสู้ เทคนิค ประโยชน์ ความปลอดภัย และแนะนำเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ ที่ได้รับความนิยม เพื่อเป็นพื้นฐาน และทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจในศิลปะประเภทนี้ ได้เปิดใจที่จะเรียนรู้และฝึกฝน
ศิลปะการต่อสู้เป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง ที่ได้รับความนิยม และมีการศึกษาอย่างแพร่หลาย เน้นการเรียนรู้และฝึกฝน เกี่ยวกับการต่อสู้และการป้องกันตัว ทั้งในด้านกีฬา และเพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง รวมถึงช่วยฝึกฝนในด้านจิตใจ
ศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัว เป็นทักษะและเทคนิค ที่ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น การต่อสู้มวยไทย ที่ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก และอีกมากมาย
ซึ่งในปัจจุบัน ได้มีการแบ่งศิลปะการต่อสู้ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
-ศิลปะการต่อสู้แบบกีฬา เป็นการสอนเพื่อให้ผู้ฝึกฝนใช้ในการต่อสู้ และการป้องกันตัว โดยลดระดับความรุนแรงของท่าทาง มีการกำหนดกติกาขึ้น เพื่อใช้ในการแข่งขัน
-ศิลปะการต่อสู้แบบเดิม เป็นการต่อสู้ที่ยึดถือแบบแผนเดิม ไม่มีกติกา ไม่มีการแข่งขัน เน้นการโจมตีเพื่อการต่อสู้และป้องกันตัวเองเป็นหลัก
ที่มา: ศิลปะการต่อสู้ [1]
ศิลปะการต่อสู้ของไทย มีจุดเริ่มต้นมาจาก การสู้รบและสงครามในอดีต จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดการใช้องค์ประกอบของร่างกาย ผสมผสานกับอาวุธต่าง ๆ เพื่อปกป้องบ้านเมือง จากการรุกรานของชนชาติอื่น ๆ ซึ่งศิลปะการต่อสู้ที่เป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่ในอดีต และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายคือ
โดยในสมัยก่อนนั้น จะนิยมเรียนศิลปะการต่อสู้ตามสำนักต่าง ๆ ที่เปิดสอนโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีวิชาการต่อสู้ที่ให้ผู้สนใจ สามารถเลือกฝึกฝนได้หลายแขนงเช่น มวยไทย, กระบี่กระบอง และการใช้มีดสั้น โดยสำนักที่เปิดสอนเกี่ยวกับการต่อสู้และป้องกันตัว ยังแบ่งออกได้ 2 แขนงคือ สำนักหลวงและสำนักราษฎร์
ศิลปะการต่อสู้ มีหลากหลายรูปแบบ และหลายประเภททั่วโลก โดยการต่อสู้ที่มีความอันตราย และร้ายแรงถึงชีวิตนั้น จะจัดอยู่ในศิลปะการต่อสู้ประเภทที่:
ดังนั้นในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เหล่านี้ เพื่อใช้ในการโจมตี ผู้ฝึกฝนจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย เมื่อต้องเรียนรู้เทคนิคที่อันตราย ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน และใช้เสื่อรองพื้น หรือ อุปกรณ์กันกระแทกในขณะฝึกฝนหรือต่อสู้ เพื่อป้องกันการได้รับบาดเจ็บ และอันตรายจากการพลาดพลั้งได้
ที่มา: 10 อันดับศิลปะการต่อสู้ที่อันตรายที่สุดในโลก [2]
เทควันโด
เป็นกีฬาที่พัฒนาขึ้นมาจากศาสตร์การป้องกันตัว ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยการต่อสู้ของกีฬาชนิดนี้ จะเน้นไปที่การเตะเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเตะศีรษะ การกระโดดเตะ และเทคนิคการเตะแบบอื่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้ สามารถเข้ามาประชิดติดตัว
ดังนั้นผู้ฝึกฝน เทควันโด ควรเน้นไปที่การฝึกปรับตัว และความคล่องตัว เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สามารถใช้เทคนิคการต่อสู้ชนิดนี้ ในสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยูโด
ศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่น (ยูโด) จะเน้นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว การงัดแงะ และการทุ่ม โดยการทุ่มที่ถูกวิธีและทรงพลังนั้น สามารถทำให้คู่ต่อสู้ หมดความสามารถ ในการโจมตีกลับได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการทุ่มในกีฬายูโด มีความรุนแรง ที่ส่งผลต่อร่างกาย ที่อาจจะทำให้เอ็นฉีกขาด หรือ กระดูกหักได้
ดังนั้นผู้ที่ต้องการฝึกฝนกีฬาชนิดนี้ ควรเรียนรู้เทคนิคที่เหมาะสม การล้มอย่างไรให้ปลอดภัย การลงน้ำหนักที่เหมาะสม ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานที่มีความสำคัญ ในการเริ่มต้นฝึกกีฬายูโด เพื่อป้องกันการเกิดอาการบาดเจ็บที่รุนแรงได้
มวยไทย
มวย เป็นอีกหนึ่งศาสตร์การต่อสู้ ที่อาศัยการใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในการโจมตีคู่ต่อสู้ ซึ่งวิธีการโจมตีเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่สุดนั้น ผู้ฝึกฝนจำเป็นที่จะต้องมีเทคนิคการเตะ หมัด ข้อศอก และเข่า เป็นศิลปะการต่อสู้ที่อันตราย เนื่องจากมีพลังโจมตีที่รุนแรง และคาดเดาได้ยาก
มวยไทยเป็นอีกหนึ่งกีฬา ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง จากผู้คนทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้นผู้ที่สนใจ จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ทักษะที่หลากหลาย เพื่อนำมาใช้ในการโจมตี อีกทั้งต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และการฝึกฝนที่เหมาะสม
บราซิลเลี่ยนยิวยิตสู
บราซิลเลี่ยนยิวยิตสู ศิลปะการต่อสู้ประเภทจับล็อก ที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมาจาก ยิวยิตสู แบบดั้งเดิม เป็นรูปแบบการต่อสู้ที่เน้นการสู้บนพื้น และการล็อกข้อต่อ เป็นศาสตร์การป้องกันตัว ที่ช่วยให้คนรูปร่างเล็ก สามารถปกป้องตัวเอง จากคู่ต่อสู้ที่มีขนาดร่างกายใหญ่กว่า
โดยศิลปะการต่อสู้ประเภทนี้ จะเน้นการใช้แรงงัด แทนความแข็งแรงและขนาดตัว เป็นการต่อสู้ที่มีความท้าทาย และเทคนิคที่น่าสนใจมากมาย เช่น การรัดคอและการล็อกข้อต่อ ที่ถือว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ที่น่าเกรงขามที่สุด และอันตรายที่สุด
ที่มา: ประโยชน์สำคัญ 12 ประการของการเรียนศิลปะการต่อสู้ [3]
ก่อนจะเริ่มทำการฝึกฝน หรือ แข่งขันทำกิจกรรมใด ๆ ผู้ฝึกฝนจำเป็นต้องทำการอบอุ่นร่างกาย โดยการออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อเป็นการยืดกล้ามเนื้อ เพื่ออัตราการเต้นของหัวใจ ที่ส่งผลให้เลือกสามารถไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น เพื่อลดการเกิดอาการตึง เคล็ดขัดยอก และอาการบาดเจ็บอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ จากกล้ามเนื้อ
การสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม จะช่วยให้ผู้ฝึก สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องตัว และมีความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการสวมใส่เครื่องประดับ ในระหว่างการฝึกหรือแข่งขัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ หรือ อุบัติเหตุได้
อุปกรณ์ป้องกันของกีฬาแต่ละชนิด จะมีความแตกต่างกันไป ตามลักษณะของกีฬาและท่าทางในการฝึกซ้อม โดยอุปกรณ์ป้องกันหลัก ๆ จะได้แก่ อุปกรณ์ป้องกันปาก หมวกกันน็อกป้องกันศีรษะ สนับแข้ง สนับหลังเท้า และถุงมือเป็นต้น
ศิลปะการต่อสู้ จะเน้นเรื่องความแม่นยำ และการควบคุมในการแสดงเทคนิคต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยง ในการพลาดพลั้งทำให้เกิดการบาดเจ็บ ทั้งกับตัวเองและคู่ต่อสู้
การรู้ขีดจำกัด และเคารพของเขตด้านศักยภาพของตัวเอง ถือเป็นสิ่งสำคัญในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ซึ่งผู้ฝึกฝนควรใส่ใจกับอาการบาดเจ็บ และสัญญาณอาการไม่สบายต่าง ๆ ในระหว่างการฝึกซ้อม ไม่ควรฝืนร่างกาย เพราะอาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แย่
การพักผ่อนให้เพียงพอนั้น เป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเอง จากอาการบาดเจ็บต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกซ้อมหรือแข่งขันได้ ควรกำหนดวันพักผ่อนในตารางการฝึกซ้อมให้ชัดเจน เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
สรุปแล้ว กีฬา ศิลปะการต่อสู้ เป็นศาสตร์การต่อสู้ ที่มีความเป็นมา ตั้งแต่ในสมัยโบราณดั้งเดิม เป็นการต่อสู้ทั้งเพื่อด้านการกีฬา และเพื่อการออกกำลังกาย การป้องกันตัวเอง ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่มีประโยชน์ต่อผู้ฝึกฝน ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยผู้ที่สนใจ สามารถเลือกฝึกฝนได้ตามความถนัด เพื่อการพัฒนาต่อยอดตามเป้าหมายของตัวเอง
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสนใจ และเป้าหมายของแต่ละคน แนะนำให้เริ่มจากการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเทคนิคพื้นฐาน และนำมาตัดสินร่วมกับ ข้อจำกัด และศักยภาพของตัวบุคคลเอง
สำหรับผู้ที่เริ่มฝึกใหม่ ควรเริ่มฝึก 2-3 ครั้ง / สัปดาห์ เพื่อสร้างพื้นฐานให้มั่นคงก่อน จากนั้นค่อยเพิ่มระดับความถี่ และความรุนแรงในการฝึกมากขึ้น