แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

รีวิว Pokemon ไดมอนด์เพิร์ล จุดเริ่มต้นของเกมเจนใหม่ ปี 2006

รีวิว Pokemon ไดมอนด์เพิร์ล

รีวิว Pokemon ไดมอนด์เพิร์ล ที่เปิดตัวบน Nintendo DS ปี 2006 เกมภาคใหม่ ที่สร้างมาเพื่อให้เป็นเกมภาคสำคัญ ต่อการพลิกโฉมครั้งใหญ่ของแฟรนไชส์โปเกมอน ต่อจากบทความ รีวิวเกม Pokemon เอเมอรัลด์ ด้วยการนำโลก Sinnoh มานำเสนอผ่านระบบกราฟิก 2D กับ 3D ที่สดใหม่กว่าเดิม

  • การสร้างเกมภาคแรกของรุ่น 4 กับพื้นฐานการเล่น
  • จุดเด่น Pokemon DiamondAndPearl กับความต่าง

การเล่นเกมโปเกมอนไดมอนด์เพิร์ล เกมภาค 1 ในเจน 4

เกมโปเกมอน DiamondAndPearl ของแฟรนไชส์ Pokemon ภาคแรกของเจเนอเรชันที่ 4 นี้ ควรถูกมองว่าเป็นจุดหักเหของเกมในซีรีส์ ที่เกิดขึ้นในปี 2006 เพราะไม่เพียงเป็นการเปิดประตูสู่เกมเจเนอเรชันใหม่ แต่ยังเป็นการทดลองนำความคุ้นเคยแบบเก่า (7 กันยายน 2025) [1]

มาผสมกับเทคโนโลยี ของ Nintendo DS ที่เพิ่งได้รับความนิยมในเวลานั้น และการสร้างเกม กับพื้นฐานการเล่นเกมภาคนี้ ถูกปรับโครงสร้างใหม่ ทั้งหมด

การสร้างเกมเจเนอเรชัน 4 ภาคแรก ของแฟรนไชส์โปเกมอน

Pokemon Diamond&Pearl เริ่มต้นการพัฒนาปี 2004 และวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น วันที่ 28 กันยายน ปี 2006 ถือเป็นเกมภาคหลักเจเนอเรชันที่ 4 บนเครื่อง NintendoDS เครื่องแรกของซีรีส์โปเกมอน ความท้าทาย คือการย้ายระบบการเล่น จาก Game Boy Advance (18 กันยายน 2025) [2]

ที่ใช้ภาพ 2D ล้วน ๆ มาสู่เครื่องเล่นเกมนินเท็นโด DS ที่สามารถรองรับการผสมผสาน 2D Sprite กับ 3D Polygon ได้ ทีมงาน Game Freak ต้องออกแบบ Sinnoh ให้มีภูมิประเทศหลากหลาย ทั้งภูเขาหิมะ แม่น้ำ และเมืองอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน ยังรักษาความรู้สึกอบอุ่น ในแบบที่ผู้เล่นคุ้นเคยเอาไว้

การใช้ฟีเจอร์ Nintendo WiFi Connection ถือเป็นการทดลองครั้งสำคัญ ที่ปูทางสู่ยุคออนไลน์เต็มตัว ในเกมโปเกมอน สิ่งที่น่าสนใจ คือ DiamondAndPearl ใช้เวลา 2 ปีเต็ม ในการพัฒนา หลังจาก Ruby Sapphire ที่เปิดตัวให้เล่นในปี 2002

การเล่นเกมโปเกมอน ภาคไดมอนด์แอนด์เพิร์ล เบื้องต้น

รีวิว Pokemon ไดมอนด์เพิร์ล

เกมโปเกมอน ภาคไดมอนด์เพิร์ล เปิดตัวด้วยภูมิภาค Sinnoh ซึ่งกลายเป็นพื้นที่หลัก ที่เต็มไปด้วยตำนานเกี่ยวกับเวลาและมิติ ผู้เล่นจะได้เดินทางจากเมือง Twinleaf ไปสู่การเป็นแชมป์โปเกมอนลีก และสิ่งที่เกมภาคนี้ มีเข้ามาเพิ่มเติม ก็คือการเพิ่มระบบต่อสู้แบบ Physical / Special Split (2025) [3]

ที่เริ่มใช้งานครั้งแรก ในปี 2006 ทำให้ท่าโจมตีไม่ได้ขึ้นกับประเภทของโปเกมอน อีกต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติจริงของท่า เช่น Thunder Punch กลายเป็นท่า Physical การเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้ผู้เล่นต้องคิดกลยุทธ์ใหม่ ทั้งหมด และเป็นระบบการเล่นที่ใช้ในเกมภาคต่อ ๆ มา

จุดเด่นเกมโปเกมอน Diamond And Pearl และความต่าง

เกมโปเกมอนภาคนี้ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพียงเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป ในเกมก่อนหน้า แต่เป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ของซีรีส์เกม ที่ทำให้แฟนเกมรับรู้ว่าทุกองค์ประกอบ มีความสำคัญต่อการเล่น ตั้งแต่การออกแบบโปเกมอน ระบบออนไลน์ ไปจนถึงบรรยากาศของภูมิภาค

จุดเด่นที่ผู้เล่น มักกล่าวถึงบ่อย ๆ เมื่อเล่นเกมภาคนี้

เสน่ห์ของเกมโปเกมอนภาคนี้ คือการเพิ่มโปเกมอนใหม่ กว่า 107 สายพันธุ์ ทำให้มอนสเตอร์ในเกมเจเนอเรชัน 4 มีจำนวนรวมถึง 493 ตัว นับเป็นก้าวกระโดดที่ใหญ่ที่สุด ของการเพิ่มจำนวนมอนสเตอร์ ในเกมช่วงเวลานั้น แต่สิ่งที่ทำให้ภาคนี้ กลายเป็นจุดเด่นจริง ๆ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนโปเกมอน เพียงอย่างเดียว

แต่อยู่ที่การเปิดโลกของการเชื่อมต่อออนไลน์ ผ่าน Nintendo WiFi Connection ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้เล่นสามารถต่อสู้ และแลกเปลี่ยนโปเกมอนกัน ข้ามทวีปได้ทันที ความรู้สึกที่โปเกมอนของตนเดินทางไปอีกฟากโลก ในยุคที่อินเทอร์เน็ต บนมือถือยังไม่แพร่หลาย ทำให้ยอดขายของ Diamond&Pearl พุ่งสูง

จนกลายเป็นเกมที่มียอดขายสูงสุดอันดับ 1 ของเจน 4 ด้วยจำนวนกว่า 17.67 ล้านชุด ซึ่งสะท้อนว่าจุดเด่นเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงการเพิ่มโปเกมอนใหม่ แต่คือการสร้างระบบที่ทำให้โลกโปเกมอน สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของการเล่นเฉพาะเครื่อง สู่การเล่นแบบไร้พรมแดน

ความต่างของเกม ภาคไดมอนด์แอนด์เพิร์ล กับภาคก่อน

รีวิว Pokemon ไดมอนด์เพิร์ล

หากย้อนกลับไปในเกมโปเกมอน Ruby & Sapphire ที่เปิดโลก Hoenn ด้วยโทนสดใส กับเน้นการผจญภัยท่ามกลางทะเล และภูมิประเทศแบบเขตร้อน แต่เมื่อมาถึงเกมภาค Diamond&Pearl บรรยากาศของเกม กลับพลิกไปในทิศทางที่เคร่งขรึม กับมีความลึกลับมากขึ้น 

เช่นการทำให้ Sinnoh เต็มไปด้วยภูเขาหิมะ ทะเลสาบ และตำนานที่เชื่อมโยงกับเวลาและมิติ การเดินทางจึงให้ความรู้สึกหนักแน่นกว่าภาคก่อนหน้า ไม่ใช่เพียงการท่องโลก แต่คือการแบกรับเรื่องราวระดับจักรวาล ที่เกี่ยวข้องกับ Dialga และ Palkia เอาไว้

การสร้างชั้นเชิงของการแข่งขันใหม่ ที่เกมภาคก่อนหน้า ไม่เคยมีมาก่อน เป็นการเปลี่ยนจากโลกสดใส สู่โลกแห่งตำนาน ซึ่งเป็นการอัปเกรดโครงสร้างเนื้อหาของเกม ให้มีสัดส่วนเนื้อหาการเล่นที่เยอะมากขึ้น จากเกมภาคก่อนหน้า ถึง 40% และเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตลอด 10 ปีแรก ของโปเกมอน

สรุป รีวิวเกมโปเกมอน ไดมอนด์เพิร์ล ภาคแรก ในเจน 4

เกมโปเกมอนภาคไดมอนด์เพิร์ล ไม่ได้ถูกจดจำเพราะเพิ่มโปเกมอนใหม่ เข้ามากว่า 100 ตัว แต่ถูกจดจำเพราะเป็นเกมที่สร้างรากฐานใหม่ ในแฟรนไชส์เกมโปเกมอน ให้เดินหน้าสู่ยุคกลยุทธ์การเล่นที่มีความซับซ้อน และการเชื่อมต่อกัน แบบไร้พรมแดน

เกมโปเกมอน ภาคไดมอนด์แอนด์เพิร์ล เหมาะกับใครบ้าง?

เกมนี้เหมาะกับผู้เล่น ที่ต้องการสัมผัสระบบการเล่นใหม่ ๆ ของเกมโปเกมอนที่ก้าวกระโดด จากเกมภาคก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นแฟนรุ่นเก่าที่อยากลองระบบต่อสู้แบบใหม่ อย่าง Physical Special Split หรือเหมาะกับผู้เล่น ที่ต้องการแลกเปลี่ยนโปเกมอนของตน ผ่านการเชื่อมต่อออนไลน์

เกมโปเกมอน ภาค Diamond And Pearl ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

ในทางกลับกัน เกมนี้อาจไม่เหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการความเรียบง่าย หรือความรวดเร็ว แบบภาคก่อนในแฟรนไชส์ เนื่องจากเกมภาคนี้ มีจังหวะการเล่นที่เคร่งขรึมกว่า และเน้นความซับซ้อนในการต่อสู้กว่าเดิม การใช้กราฟิกผสม 2D กับ 3D ก็อาจไม่ตอบโจทย์คนที่คาดหวังภาพ 3D อย่างเดียว

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง