รีวิว Pokemon โอเมก้ารูบี้ ภาคเสริมเจน 6 ที่เติมฝันให้หลายคน
- Good Day's
- 42 views
รีวิว Pokemon โอเมก้ารูบี้ แนะนำเกมโปเกมอน ที่เปิดตัวให้เล่นต่อจากเกมในบทความ รีวิว Pokemon เอ็กซ์วาย และเป็นเกมที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเกมโปเกมอน ที่เคยสร้างความประทับใจในวัยเด็ก ให้กับใครหลาย ๆ คน ก็สามารถถูกนำกลับมาเล่าใหม่ได้ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไปไกลกว่าเดิม
เกมโปเกมอน ภาคโอเมก้ารูบี้อัลฟาแซฟไฟร์ ที่เปิดตัวให้เล่นในปี 2014 เป็นเกมภาครีเมคของเกมในบทความ รีวิวเกม Pokemon รูบี้แซฟไฟร์ จากแฟรนไชส์โปเกมอน ที่ได้มีการเปิดตัวให้เล่นไป เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ปี 2002 โดยเกมภาคนี้เปิดตัวให้เล่นล่าสุด ในเจเนอเรชัน 6 นี้ (7 กันยายน 2025) [1]
ไม่ใช่แค่เกมรีเมคเกม ที่ตั้งใจพาผู้เล่นกลับไปพบเจอกับความทรงจำเก่า ๆ ภายในเกมก่อนหน้าเท่านั้น แต่ยังเป็นบททดสอบของทางผู้พัฒนาเกม ในการใช้เอนจิน Gen 6 เพื่อถักเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีตเข้ากับปัจจุบัน
เกมโปเกมอนภาคนี้ เกิดขึ้นจากการที่ GameFreak ได้หยิบเอาเกมโปเกมอนภาคเก่า อย่าง Ruby Sapphire จากปี 2002 นำมาผลิตใหม่ และเปิดตัวเป็นเกมภาครีเมคใหม่ให้เล่น ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ปี 2014 ในประเทศญี่ปุ่น เป็นการสร้างเกมใหม่ที่ต้องใช้เล่น บน Nintendo 3DS (18 กันยายน 2025) [2]
โดยใช้เอนจินเดียวกับเกมโปเกมอนภาค XY ซึ่งการย้ายจากกราฟิก 2D บน GBA สู่ 3D Polygon แบบเต็มรูป คือโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายของทางผู้พัฒนาเกม เพราะทีมงานต้องออกแบบภูมิภาค Hoenn ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่เมือง, ชายฝั่งทะเล ไปจนถึงเส้นทางกลางน้ำ
จุดนี้สะท้อนให้เห็นว่าการรีเมคนี้ ไม่ได้มีไว้เพียงตอบสนองความคิดถึง แต่คือการทดสอบว่าโลกโปเกมอนดั้งเดิม ก็สามารถถูกถักทอขึ้นใหม่ให้เข้ากับมาตรฐานปัจจุบันได้ และทำให้ผู้เล่น กว่า 75% ของแฟนเกมโปเกมอนยกให้เกมภาคนี้ เป็น 1 ในเกมรีเมคที่ให้มากกว่าเกมต้นฉบับอื่น ๆ
แม้แกนหลักของเกมโปเกมอน ภาค Omega Ruby and Alpha Sapphire ยังคงรูปแบบดั้งเดิมในการเล่น อย่างการเอาชนะให้ครบทั้ง 8 ยิม และมุ่งสู่ลีกโปเกมอน แต่เกมภาคนี้อัปเกรดใหม่ ด้วยระบบ Mega Evolution ที่ถูกยกมาจากเกมภาค X&Y
ซึ่งทำให้โปเกมอนรุ่นเก่าหลายตัว กลับมามีความสำคัญในเกม และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้เกมภาค ORAS กลายเป็นเกมที่ให้มากกว่าเกมรีเมคทั่วไป คือการบินสำรวจภูมิภาคต่าง ๆ ภายในเกมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นสามารถเห็น Hoenn จากมุมมองด้านบน
ฟีเจอร์นี้ ไม่เพียงทำหน้าที่เผยมุมมองใหม่ เพียงอย่างเดียว แต่ยังเผยความลับใหม่ ๆ อย่าง Mirage Spots ที่เต็มไปด้วยโปเกมอนหายาก จนผู้เล่นยกให้เกมภาคนี้ เป็นเกมที่มีลูกเล่นน่าสนใจ และเป็นเกมที่มีการเดินทางที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
แม้เกมโปเกมอน ภาค ORAS ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเอนจินใหม่ และเสริมกลไกการเล่นให้สดกว่าเดิม แต่อะไรคือจุดเด่นที่ทำให้เกมนี้ ยืนได้ด้วยตัวเอง และเกมภาคนี้แตกต่าง จากต้นฉบับที่เปิดให้เล่น ในปี 2002 ยังไง หรือแตกต่างจากเกมรุ่นก่อนหน้า ในเจเนอเรชันที่ 6 อย่างไร
สิ่งที่ทำให้เกมโปเกมอน ภาคโอเมก้ารูบี้โดดเด่น คือการปลุกชีวิตภูมิภาค Hoenn ขึ้นมาใหม่ ด้วยมุมมองที่ผู้เล่นไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างการมีฟีเจอร์ Soar เป็นฟีเจอร์ที่ผู้เล่นสามารถเห็นมุมมองด้านบนได้ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้บินสำรวจภูมิภาคต่าง ๆ จากมุมสูงแบบอิสระ (2025) [3]
พร้อมปลดล็อกระบบ Mirage Spots ที่เต็มไปด้วยโปเกมอนหายาก และจากผลสำรวจแฟนเกม กว่า 55% ยกให้ฟีเจอร์ Soar เป็นจุดขายหลักของเกมภาคนี้ และเป็นสิ่งที่ทำให้เกมแตกต่าง จากภาคดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง รวมถึงอีกหนึ่งจุดแข็ง คือระบบ Delta Episode ที่เพิ่มเข้ามาหลังจบเรื่องหลัก
ด้วยการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Rayquaza และ Deoxys ซึ่งไม่เคยมีในภาคก่อน ๆ โดยเนื้อหาเหล่านี้ ทำให้เกมภาค ORAS กลายเป็นมากกว่าการรีเมคธรรมดา ๆ แต่คือการสานต่อเรื่องราว ที่ช่วยเติมเต็มตำนานของ Hoenn ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ความแตกต่างของเกมภาคโอเมก้ารูบี้ กับเกมภาครูบี้แซฟไฟร์ ปี 2002 คือการตีความโลกเดิมด้วยเทคโนโลยีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นงานภาพ 3D, Mega Evolution หรือ Soar สิ่งเหล่านี้ ทำให้การเล่นเปลี่ยนไป โดยสิ้นเชิง ความต่างนี้ สะท้อนแนวคิดว่าการรีเมค ไม่จำเป็นต้องเหมือนกับต้นฉบับเสมอไป
ซึ่งเกมภาคโอเมก้ารูบี้ ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นแค่การคงอดีตเอาไว้ แต่เป็นการรีมิกซ์ความทรงจำเก่า ๆ ให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ เมื่อมองเทียบกับ XY เกมภาคเอ็กซ์วาย คือการเริ่มต้นใหม่ที่มุ่งไปข้างหน้า แต่เกมภาคนี้ คือการหวนกลับพร้อมขยายสิ่งที่ขาดหายไป ในอดีต
เกมโปเกมอน OmegaRuby ไม่ได้ถูกจดจำ และถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ เพียงเพราะเป็นเกมภาครีเมค ที่สวยงามขึ้น จากเกมต้นฉบับ แต่เพราะเกมภาคนี้ เติมเต็มสิ่งที่ภาคเดิมยังขาดหายไป หรือยังทำไม่ได้ ทั้งการปรับมุมมองใหม่ ๆ ที่มีเพิ่มเข้ามาให้ได้เล่น และการกลับมาของ Mega Evolution ที่มีในเกมดั้งเดิม
เกมโปเกมอน OmegaRuby เหมาะกับแฟนเกมที่เคยเล่นเกมภาค RubySapphire มาก่อน เพราะเกมภาคโอเมก้านี้ ไม่เพียงแต่เป็นเกมที่พาผู้เล่นหวนคืนสู่ความทรงจำเดิม ๆ แต่ยังเพิ่มมุมมองใหม่ ผ่านฟีเจอร์ Soar และเนื้อหา Delta Episode ที่ขยายเรื่องราวให้กว้างกว่าเดิมเข้าไป
เกมภาคโอเมก้ารูบี้นี้ อาจไม่เหมาะกับผู้ที่คาดหวัง การเล่าเรื่องใหม่ทั้งหมดแบบเกมภาค XY เพราะเกมภาค ORAS จะใช้รากฐานการสร้างเกม จาก RubySapphire และระดับความยากของเกมภาคโอเมก้า ยังถูกมองว่าง่ายเกินไป เมื่อเทียบกับภาคอื่น ๆ ทำให้หลายคน อาจรู้สึกไม่อินกับเกมเท่าที่ควร
