รีวิว Pokemon โกลด์ซิลเวอร์ 1999 เกมที่โปเกมอนกลายเป็นตำนาน
- Good Day's
- 105 views
รีวิว Pokemon โกลด์ซิลเวอร์ จากปี 1999 ของแฟรนไชส์โปเกมอน หลังจากเกม Generation I ปิดฉากลง ด้วยความสำเร็จหลังเปิดตัว อย่างเกมโปเกมอน ในบทความ รีวิวเกม Pokemon เยลโล่สเพชเชิล เกมที่ใครหลายคน จะได้พบเจอกับระบบใหม่ และแนวคิดใหม่ ที่มีความทะเยอทะยานกว่าเดิม
หลังจากเกมโปเกมอน รุ่น 1 ของแฟรนไชส์ Pokemon ปิดฉากลงด้วยเกมภาค Yellow ในปี 1998 ความคาดหวังของผู้เล่น ที่ต้องการเล่นเกมภาคต่อไป ก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษ เพราะระบบการเล่นต่าง ๆ ที่เกมโปเกมอน ของบริษัท Game Freak และนินเท็นโด ผลิตออกมาให้เล่นยุคแรก (7 กันยายน 2025) [1]
เป็นเกมที่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการเล่นอะไรจริงจัง การถือกำเนิดของเกมโปเกมอน ภาค GoldSilver ในปี 1999 จึงไม่ได้เป็นเพียงการเปิดเกมภาคใหม่ แต่เป็นการพิสูจน์ครั้งสำคัญว่าซีรีส์นี้ มีศักยภาพที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของการสร้างเกม ให้มีระบบการเล่นที่แตกต่างออกไปจากเดิม
หลังจากความสำเร็จ ของเกมโปเกมอน ภาค Red & Green และเกมภาค Blue รวมถึงเกมภาค Yellow ที่ทำยอดขายรวม 45 ล้านชุดทั่วโลก Game Freak กับนินเท็นโด ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลว่าจะทำอย่างไร ให้โปเกมอนไม่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีชั่วคราว และความคาดหวังนี้หนักหน่วงยิ่งขึ้น
เมื่ออนิเมะกับสินค้าต่าง ๆ กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ทีมพัฒนาจึงตัดสินใจสร้างเกมภาคใหม่ออกมา ที่ไม่ได้เพียงทำหน้าที่เป็นเกมภาคต่อ จากเกมที่มีให้เล่นก่อนหน้า แต่ยังมีการเพิ่มโปเกมอนใหม่ ๆ เข้าไป เพื่อต้องการทำให้โลกรู้ว่า ในจักรวาลมอนสเตอร์สุดน่ารักเหล่านี้ ยังคงมีอะไรให้เล่าต่ออยู่เสมอ
หลังจากตัวเกมวางจำหน่ายครั้งแรก ในญี่ปุ่นวันที่ 21 พฤศจิกายน ปี 1999 บนเครื่อง Game Boy Color กับสถานที่อื่น ๆ ทั่วโซนอเมริกาเหนือ และยุโรป เกมมียอดขายรวมกว่า 23 ล้านชุด หรือคิดเป็นประมาณ 8% ของยอดจำหน่ายเกมที่ใช้เล่น บนเครื่องเล่นเกมบอย (27 สิงหาคม 2025) [2]
เกมโปเกมอน ภาค Gold&Silver ใช้เวลาพัฒนาประมาณ 3 ปีเต็ม ถือว่านานเมื่อเทียบกับวงจรการสร้างเกมพกพาในยุคนั้น ทีมงานเพิ่มภูมิภาคใหม่เข้าไปในเกม เพื่อให้ผู้เล่นได้ผจญภัยไปในสถานที่ใหม่ ๆ พร้อมกับเพิ่มโปเกมอนรุ่นที่ 2 เพิ่มเข้าไปในเกมกว่า 100 ตัว (2025) [3]
ทำให้จำนวนรวมของมอนสเตอร์ในเกมทั้งหมด พุ่งขึ้นเป็น 251 ตัว และยังมีการปรับระบบการเล่นให้มีความแปลกใหม่ เช่นระบบ Day กับ Night Cycle เป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในเกม ที่เชื่อมกับเวลาในชีวิตจริง หรือระบบ Breeding System ที่อนุญาตให้เพาะพันธุ์โปเกมอนได้ เพื่อให้ได้ลูกโปเกมอนตัวใหม่
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า ทาง GameFreak ไม่ได้สร้างแค่เกมภาคต่อ เพื่อความต่อเนื่องของการเปิดตัวเกมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างเกมเพื่อขยายโลกโปเกมอน ให้มีชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม
เกมโปเกมอน ภาคโกลด์ซิลเวอร์ เป็นเกมยุคสมัยใหม่ ที่เพิ่มความสดใหม่ของระบบเล่นเข้าไป ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับรูปแบบการเล่น ที่แปลกแหวกแนวกว่าเกมเดิม ๆ ที่เคยเล่น ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นแนวคิดการสร้างเกมภาคต่อ เพื่อต้องการให้แฟรนไชส์โปเกมอนนี้ ยังเป็นที่จดจำของแฟนคลับ
สำหรับผู้เล่นยุคต้นปี 2000 เกมโปเกมอน ภาค Gold&Silver คือเกมภาคที่ตอกย้ำ ว่าซีรีส์เกมของแฟรนไชส์โปเกมอนนี้ ไม่ได้จบแค่ที่รุ่นแรก แต่เป็นเกมที่กำลังเติบโตไปพร้อมกับคนเล่น อย่างเช่น การมีระบบกลางวัน กับกลางคืน ที่จะเปลี่ยนเวลาในเกม ตามเวลาของโลกความเป็นจริง
หรือหากผู้เล่น กำลังไล่จับโปเกมอนในเวลากลางคืน อาจเป็นช่วงเวลาที่หาโปเกมอนได้ยาก ต้องหาเพียงตอนช่วงกลางวันเท่านั้น เป็นต้น ระบบนี้ เป็นระบบการเล่นใหม่ ๆ ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าพวกเขาได้ซื้อเกมที่ดี และมีระบบการเล่นที่เต็มอิ่มที่สุด ที่ใช้เล่นบนเครื่องเล่น GameBoy Color
สำหรับผู้เล่นปัจจุบัน เกมภาคนี้ ยังคงเป็นภาคที่ควรค่าต่อการหวนกลับไปศึกษา โดยเฉพาะผู้ที่อยากเห็นรากฐานของระบบการเล่นเกม ในยุคที่เกมเปิดตัว หรืออยากเห็นภาพกราฟิกแบบ 8 บิต ที่ดูเรียบง่าย เป็นหลัก
เกมโปเกมอน ภาคโกลด์แอนด์ซิลเวอร์ ประสบความสำเร็จ ด้านยอดขายอย่างมหาศาล โดยทำยอดขายรวม ทั่วโลก 23 ล้านชุด การเปิดตัวในญี่ปุ่นปลายปี 1999 กวาดยอดขายหลายล้าน ในเวลาไม่ถึงเดือน ก่อนจะขยายความสำเร็จ ไปยังอเมริกาเหนือ และยุโรป
ทำให้เกมไม่เพียงแค่ต่อยอด จากความดังของเกมรุ่นแรก แต่ยังสร้างฐานผู้เล่นใหม่ จำนวนมาก ในตลาดเกมโลก ด้านนักวิจารณ์ยกย่องว่าเป็นเกมภาคต่อที่คุ้มค่า และมีความทะเยอทะยานที่สุด ของเกมแนว RPG แบบพกพา โดยหลายสื่อจัดอันดับเกมภาคนี้ ไว้ในลิสต์เกม RPG ที่ดีที่สุดตลอดกาล
เกมโปเกมอน ภาคโกลด์ซิลเวอร์ คือก้าวสำคัญที่ยืนยันว่าโปเกมอน ไม่ใช่สื่อเกมที่ได้รับกระแสนิยมชั่วคราว แต่เป็นการทำให้ผู้เล่นเห็นถึงระบบการเล่นใหม่ ๆ ที่แตกต่างออกไปจากเดิม และทำให้ผู้เล่นรู้สึกเต็มอิ่มเหนือความคาดหมาย ด้วยระบบที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อให้เติบโตไปพร้อมกัน กับตัวละครในเกม
ข้อดีสำคัญของเกมภาคนี้ คือการยกระดับซีรีส์เกม ที่ได้รับกระแสนิยมชั่วคราว ให้กลายเป็นแฟรนไชส์เกมที่ทุกคนต้องพูดถึง ผ่านการเพิ่มระบบการเล่นใหม่ ๆ เข้าไปในเกม อย่างระบบ Day และ Night หรือ Breeding ที่ทำให้โลกของเกมมีชีวิต และทำให้การเล่น ต้องใช้กลยุทธ์ที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น
ข้อเสียของเกมภาคนี้ ที่มักถูกพูดถึงบ่อย จะเป็นเรื่องของข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ เครื่องเล่น GameBoy Color ในสมัยนั้น เพราะเครื่องเกมยังคงใช้กราฟิก รูปแบบ 8 บิต ทำให้การแสดงผลไม่หวือหวา เมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ ของระบบการเล่นใหม่ ๆ ที่เปิดตัวออกมา
